เช็คสถานะรถไฟฟ้า 4 เส้นทาง เม.ย.นี้ เปิดใช้โมโนเรลชมพู – เหลือง

Key Points

• รถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันออกสร้างเสร็จ 99%
• รถไฟฟ้าสายสีส้มเปิดล่าช้า รอข้อพิพาทประมูลเดินรถพ่วงโยธาตะวันตก
• ‘บีทีเอส’ ทยอยเปิดบริการฟรีโมโนเรลสองสาย เม.ย.นี้
• ลุ้น รฟม.กำหนดค่าโดยสารเริ่มต้น 14 บาท

การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าของโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลที่อยู่ภายใต้การดูแลในขณะนี้รวมจำนวน 4 โครงการ 5 สายทาง ซึ่งพบว่าโครงการส่วนใหญ่มีความก้าวหน้างานโยธาไปแล้วกว่า 90% แบ่งเป็น

1. โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย - มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ความก้าวหน้างานโยธา 99.00%

2. โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว - สำโรง ความก้าวหน้างานโยธา 98.54% ความก้าวหน้างานระบบรถไฟฟ้า 98.57% ความก้าวหน้าโดยรวม 98.55%

3. โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย - มีนบุรี ความก้าวหน้างานโยธา 95.37% ความก้าวหน้างานระบบรถไฟฟ้า 95.70% ความก้าวหน้าโดยรวม 95.56%

4. โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ส่วนต่อขยาย ช่วงสถานีศรีรัช - เมืองทองธานี ความก้าวหน้างานโยธา 19.06% ความก้าวหน้างานระบบรถไฟฟ้า 7.87% ความก้าวหน้าโดยรวม 15.31%

5. โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน - ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก) ความก้าวหน้างานโยธา 7.73%

ในส่วนของโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรมฯ – มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ซึ่งเป็นโครงการส่วนตะวันออก ตามแผนดำเนินงานของ รฟม.คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จ และเปิดให้บริการสำหรับประชาชนได้ในปี 2566 แต่เนื่องจากการเดินรถในส่วนดังกล่าวถูกพ่วงรวมกับสัญญาสัมปทานการเดินรถทั้งเส้นทางและการก่อสร้างงานโยธา ช่วงบางขุนนนท์ - ศูนย์วัฒนธรรมฯ หรือโครงการส่วนตะวันตก

โดยปัจจุบัน รฟม.ยังไม่สามารถลงนามสัญญาดังกล่าวได้ เนื่องจากยังมีข้อพิพาทที่อยู่ในกระบวนการศาลปกครองพิจารณา ส่งผลให้แม้งานก่อสร้างโครงการส่วนตะวันออกจะแล้วเสร็จ รฟม.ก็ยังไม่สามารถเปิดให้บริการเดินรถได้ตามแผน

นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ออกมาระบุถึงเรื่องนี้ว่า ยอมรับว่าการที่ รฟม. ยังไม่สามารถลงนามสัญญากับเอกชนที่ชนะการประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มได้นั้น ส่งผลกระทบต่อแผนการเปิดให้บริการเดินรถไฟฟ้าส่วนตะวันออก รวมถึงการดูแลรักษา (Care of Work) ของโครงการที่กำลังจะก่อสร้างแล้วเสร็จ

อย่างไรก็ดี รฟม.อยู่ระหว่างการประเมินค่าดูแลรักษาต่อเดือน และพยายามเจรจาให้ผู้รับจ้างงานโยธาส่วนตะวันออก ร่วมรับภาระส่วนหนึ่ง และ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ BEM ผู้ชนะการประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้ม ที่ต้องดำเนินการงานโยธาในส่วนของตะวันตก และการเดินรถตลอดทั้งเส้นทาง ให้มารับมอบโครงสร้างงานโยธาส่วนตะวันออกไปดูแลให้เร็วขึ้น  

ด้านนายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ กรรมการบริหารบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS เปิดเผยถึงความคืบหน้ารถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว - สำโรง และสายสีชมพู ช่วงแคราย – มีนบุรี โดยระบุว่า ขณะนี้มีการหารือร่วมกับกระทรวงคมนาคม เพื่อเตรียมความพร้อมที่จะเปิดให้ประชาชนทดลองใช้บริการรถถไฟฟ้าสายสีเหลือง และสายสีชมพู โดยไม่จัดเก็บค่าโดยสารระหว่างที่มีการทดสอบเดินรถเสมือนจริง ซึ่งคาดว่าจะเริ่มดำเนินการในเดือน เม.ย.นี้

สำหรับแผนการเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์ของรถไฟฟ้าทั้ง 2 สาย แบ่งออกเป็น

สายสีเหลือง ยังคงตามแผนเดิมที่จะเปิดให้บริการพร้อมกันตลอดเส้นทาง ตั้งแต่ช่วงสถานีสำโรง-สถานีลาดพร้าว ประมาณเดือน มิ.ย.2566 ขณะที่สายสีชมพู จะเปิดให้บริการเป็นบางช่วงก่อน โดยระยะแรก ช่วงสถานีมีนบุรี-สถานีศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ จะเปิดให้บริการในเดือน ส.ค.2566 ยกเว้นสถานีนพรัตน์ และสถานีโทรคมนาคมแห่งชาติ

อย่างไรก็ดี ในส่วนของสายสีชมพู หากสามารถหารือการแก้ไขปัญหากับโครงการฟลัดเวย์บนถนนแจ้งวัฒนะของกรมทางหลวง (ทล.) ที่มีการก่อสร้างทับซ้อนกันอยู่ได้จบ ก็อาจเปิดให้บริการได้ถึงสถานีปากเกร็ด ส่วนช่วงที่เหลือจนถึงสถานีศูนย์ราชการนนทบุรี คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ภายในปี 2566  

ขณะที่การจัดเก็บค่าโดยสารรถไฟฟ้าทั้ง 2 สาย การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) จะเป็นผู้กำหนด ซึ่งตามสัญญาร่วมลงทุนปี 2559 กำหนดค่าโดยสารเริ่มต้นที่ 14 บาท สูงสุด 42 บาท และจะปรับตามดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ทั้งนี้ก่อนเปิดให้บริการจะมีการปรับอัตราค่าโดยสาร โดยใช้ CPI 3 เดือนก่อนวันที่เริ่มให้บริการ