สทท. ตั้งเป้าต่างชาติเที่ยวไทย 30 ล้าน ดัชนีเชื่อมั่น Q1 ฟื้น ขาดแรงงาน 5 แสนคน

สทท. ตั้งเป้าต่างชาติเที่ยวไทย 30 ล้าน ดัชนีเชื่อมั่น Q1 ฟื้น ขาดแรงงาน 5 แสนคน

ปี 2566 จะเป็นปีที่ภาคท่องเที่ยวไทยกลับมาบูม! เติบโตแบบก้าวกระโดด และกลับมาเป็นเครื่องจักรสำคัญในการฟื้นเศรษฐกิจไทยอีกครั้ง แต่ยังคงมี “ความท้าทาย” รออยู่ โดยเฉพาะ “ฝั่งซัพพลาย” ที่ต้องเร่งฟื้นฟูให้ทันการดีดกลับของดีมานด์นักท่องเที่ยว

ชำนาญ ศรีสวัสดิ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) กล่าวว่า โดย สทท.ตั้งเป้าหมายภาคท่องเที่ยวไทยปี 2566 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาทะลุ 30 ล้านคน สร้างรายได้รวมการท่องเที่ยวจากทั้งตลาดในและต่างประเทศตลอดปีนี้สูงกว่า 3 ล้านล้านบาทที่เคยทำได้ในปี 2562 ก่อนเกิดวิกฤติโควิด-19

แต่ความท้าทายคือการเร่ง “ฟื้นฟูซัพพลาย” สร้างความเข้มแข็งให้ผู้ประกอบการกลับมามีความสามารถในการต้อนรับนักท่องเที่ยว เนื่องจากปัจจุบันผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยังบอบช้ำ ขาดสภาพคล่อง ขาดความรู้ ขาดเทคนิคการตลาดสมัยใหม่ และขาดแคลนบุคลากร ทาง สทท.ได้เร่งประสานกับภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหา

ทั้งนี้ สทท.ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานภาคการท่องเที่ยวที่เน้นการเติมลูกค้า พัฒนาสินค้าให้กับผู้ประกอบการท่องเที่ยว และยังมีหน่วยงานพันธมิตรอื่นๆ ที่มาช่วยเติมทุน เติมนวัตกรรม และแก้ไขปัญหาการเข้าไม่ถึงแหล่งเงินทุน เช่น “สํานักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม” (สสว.) ที่ดูแลเรื่องธุรกิจเอสเอ็มอี ได้สนับสนุน เช่น โครงการ SME Restart เพื่อทรานส์ฟอร์มผู้ประกอบการให้มีความพร้อมต่อนวัตกรรมการท่องเที่ยวที่เปลี่ยนไป เช่น เทรนด์ BCG เทรนด์ท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Wellness Tourism) และเทรนด์ Metaverse Tourism

“ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร” (ธ.ก.ส.) และ “สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล”  (DEPA) ในปีนี้จะมีการสานต่อโครงการเชื่อมโยงภาคการท่องเที่ยวกับการท่องเที่ยวชุมชนและการประยุกต์ใช้นวัตกรรมดิจิทัลอีก 9 ภาคทั่วประเทศ ด้าน “ธนาคารออมสิน” ได้ปรับเกณฑ์การปล่อยกู้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Soft Loan) ภายใต้งบประมาณ 5,000 ล้านบาทสำหรับภาคการท่องเที่ยวให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น

ขณะที่ “เครดิตบูโร” ได้มีการปลดล็อคสำหรับผู้ประกอบการท่องเที่ยวให้ผู้ที่มีประวัติการชำระดี ถึงสิ้นปี 2562 ให้ถือว่าอยู่ในสถานะที่สามารถขอสินเชื่อได้ นอกจากนี้ “สสว.” ได้อนุมัติงบประมาณสำหรับการช่วยเหลือผู้ที่มีปัญหาเรื่องหลักทรัพย์ค้ำประกันในวงเงินกู้ 3,500 ล้านบาท ผ่าน “บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม” (บสย.) เป็นต้น

“เรื่องการขาดแคลนแรงงาน สทท. ได้จับมือกับ 3 หน่วยงาน ได้แก่ กระทรวงแรงงาน กรมอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ และสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ เร่งปั้นคนแบบระยะสั้น (Short Course) ใช้โรงแรมเป็นโรงเรียน เพื่อให้ภาคเอกชนสามารถเติมคนเข้าสู่ระบบได้ทันที”

ผกากรอง เทพรักษ์ อาจารย์ประจำคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย กล่าวเสริมว่า สำหรับ “ดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวในไตรมาส 4/2565” อยู่ที่ระดับ 72 สะท้อนสถานการณ์การท่องเที่ยวดีขึ้นกว่าไตรมาส 3/2565 และมีการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องแต่ก็ยังอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าปกติ เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันก่อนเกิดวิกฤตโควิด-19 โดยผู้ประกอบการคาดว่าในไตรมาส 1/2566 สถานการณ์ท่องเที่ยวจะดีขึ้น ค่าดัชนีคาดการณ์สถานการณ์ท่องเที่ยวอยู่ที่ระดับ 77

“สถานประกอบการในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวมีแรงงานกลับมา 86% ของภาวะปกติ กล่าวคือจำนวนแรงงานขาดอยู่ประมาณ 14% ของภาวะปกติ หรือคิดเป็นจำนวนแรงงานอย่างน้อย 560,000 คน แต่จากการสำรวจพบว่ามีสถานประกอบการอย่างน้อย 13% เท่านั้นที่มีแผนการจ้างงานเพิ่มในไตรมาส 1/2566 หากคิดเป็นจำนวนแรงงานพบว่ามีอย่างน้อย 520,000 คน”

ธุรกิจสปาและนวดแผนไทย มีแผนการจ้างงานเพิ่มมากที่สุด รองลงมาคือ สถานบันเทิง โดยพบว่าสถานประกอบการส่วนใหญ่มีวิธีแก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงานบางตำแหน่ง ด้วยการเพิ่มชั่วโมงการทำงานกับพนักงาน และให้เงินเดือนเพิ่มขึ้น หรือไม่ก็จ้างทำงานล่วงเวลา (OT) นอกจากนี้บางสถานประกอบการใช้วิธีจ้างฟรีแลนซ์หรือ “ดึงตัว” พนักงานมาจากที่อื่น โดยให้ค่าตอบแทนที่สูงกว่าหรือดึงดูดใจด้วยการให้สวัสดิการที่ดีกว่า

สทท. ตั้งเป้าต่างชาติเที่ยวไทย 30 ล้าน ดัชนีเชื่อมั่น Q1 ฟื้น ขาดแรงงาน 5 แสนคน

ทั้งนี้สถานประกอบการเกือบทุกประเภทมีแผนการ “ขึ้นราคาสินค้าและบริการ” ในไตรมาส 1/2566 โดยธุรกิจ “ร้านอาหาร” มีแผนการขึ้นราคาสินค้ามากที่สุด รองลงมาเป็น “ธุรกิจนำเที่ยว

ศิษฎิวัชร ชีวรัตนพร นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) และกรรมการ สทท. กล่าวว่า ด้านภาพรวมตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติ 30 ล้านคนตามที่ สทท.ตั้งเป้า ถือว่าเป็นเป้าหมายที่เป็นไปได้ เป็นสิ่งที่ทุกภาคส่วนต้องช่วยกัน ในส่วนของตลาดจีน ประเทศไทยนับเป็นจุดหมายอันดับต้นๆ ของนักท่องเที่ยวจีน สะท้อนได้จากที่ทางการจีนได้อนุญาตให้บริษัททัวร์สามารถดำเนินการมายังประเทศไทยได้เป็นกลุ่มแรก

"แต่จากสถานการณ์แพร่ระบาดโรคโควิด-19 ที่ยาวนาน ได้สร้างความบอบช้ำให้กับเศรษฐกิจจีนอย่างมาก การประเมินจำนวนนักท่องเที่ยวจีนจะต้องดูกันเป็นระยะทีละไตรมาส ขึ้นกับจำนวนเที่ยวบินที่กำลังทยอยเพิ่มขึ้นด้วย และคาดว่านักท่องเที่ยวจีนจะเริ่มเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวไทยมากขึ้นในช่วงไตรมาส 3 ของปีนี้"

ศิษฎิวัชร กล่าวว่า จากกรณีข่าวดาราสาวชาวไต้หวันถูกรีดเงิน และกรณีนักท่องเที่ยวชาวจีนใช้บริการรถตำรวจนำขบวน ส่งผลกระทบต่อ “ภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไทย” ในสายตาชาวโลก ตอนนี้อยากให้รัฐบาลโดยเฉพาะหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไข ให้เรื่องจบลงโดยเร็วที่สุด เพราะต้องยอมรับว่าข่าวที่ออกมา เป็นภาพลักษณ์ที่ไม่ดี กระทบต่อความเชื่อมั่นและศักดิ์ศรีของคนไทย โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งเป็นหน่วยงานดูแลความมั่นคงและปลอดภัยของประเทศ

ทั้งนี้ อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ปัญหาความแออัดหน้าด่านตรวจคนเข้าเมืองที่สนามบินด้วย เพื่ออำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยวให้ผ่านด่านได้อย่างรวดเร็วขึ้น หลังนักท่องเที่ยวต่างชาติสะท้อนปัญหามายังแอตต้าว่าใช้เวลานาน