ธุรกิจไทย ‘รับอานิสงส์-ผลกระทบ’ โลกแบ่งขั้ว
วันที่โลกต้องเผชิญความท้าทาย จากความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ ภาคธุรกิจจะเดินหมากอย่างไร “กรุงเทพธุรกิจ” เปิดเวที “Geopolitics : The Big Challenge for Business โลกแบ่งขั้ว ธุรกิจพลิกเกม” เพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองในเรื่องนี้
นางสาวฐิติมา ชูเชิด ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยด้านเศรษฐกิจ และตลาดการเงิน, Economic Intelligence Center (EIC) ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า หลังรัสเซียเปิดฉากโจมตียูเครน ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญด้านภูมิรัฐศาสตร์โลก เพราะทำให้เกิดการแบ่งขั้วกันอย่างชัดเจนระหว่างโลกตะวันออกกับโลกตะวันตก
ทั้งนี้ เมือโลกเริ่มแบ่งขั้วทางเศรษฐกิจ ธุรกิจไทยจะได้รับกระทบทางบวกและลบ อีไอซี วิเคราะห์ว่า ผลทางบวก ได้แก่ 1. สร้างเครือข่ายพันธมิตรกับสหรัฐและจีน 2. ธุรกิจย้ายฐานการผลิตออกจากจีน และ 3. ส่งออกสินค้าทดแทนจีน
ส่วนผลทางลบ ได้แก่ 1. เศรษฐกิจโลกโตต่ำ 2. ธุรกิจย้ายฐานการผลิตกลับไปประเทศแม่ 3. ขาดแคลนวัตถุดิบในการผลิต โดยเฉพาะชิป
ด้านนายอาร์ม ตั้งนิรันดร ผู้อำนวยการศูนย์จีนศึกษา สถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ปีนี้ปัญหาความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์น่าจะผ่อนคลายลงมากที่สุดในรอบ 3 ปี นับตั้งแต่เกิดการระบาดของโควิด19 เนื่องจากคู่ขัดแย้งสำคัญ สหรัฐ-จีน ต่างประสบปัญหาภายใน อย่างสหรัฐมีความกังวลว่าเศรษฐกิจจะถดถอย จีนกำลังทยอยเปิดเมืองแต่ก็อาจทำให้การระบาดรุนแรงขึ้น ทำให้ต่างฝ่ายต้องกลับมาสนใจตัวเองมากขึ้น ไม่มีเวลาทะเลาะกันเหมือนเดิม
แต่ถ้ามองไปอีก 3 ปีข้างหน้า ความขัดแย้งมีโอกาสกลับมาดุเดือดอีกครั้ง โดยเฉพาะประเด็นเรื่องของไต้หวัน ที่ต่างฝ่ายต่างมีจุดยืนที่ต่างกันอย่างสิ้นเชิง ประกอบกับปีหน้าจะมีการเลือกตั้งทั้งในไต้หวันและสหรัฐก็ไม่รู้ว่ารัฐบาลใหม่ที่เข้ามาจะมีจุดยืนอย่างไร ขณะที่ในปี 2027 ครบรอบ 200 ปีกองทัพจีน น่าจะทำให้จีนแสดงจุดยืนที่ดุดันมากขึ้น
นายวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา รองประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวว่า จากปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นภาคธุรกิจต้องวางแผนหาทางออกสำหรับปัญหาต่างๆไว้ให้พร้อม เช่น การหาแหล่งทดแทนวัตถุดิบ หรือการหาตลาดอื่นรองรับหากมีความขัดแย้งจนไม่สามารถส่งสินค้าไปขายยังตลาดเดิมได้
เวลานี้ธุรกิจไม่สามารถอยู่ใน Comfort zone ได้อีกต่อไป เพราะผลกระทบหลายอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วไม่ว่าจะเป็นเรื่องต้นทุนทางพลังงานที่ควบคุมไม่ได้ ต้นทุนวัตถุดิบ และค่าขนส่งที่สูงขึ้นมาก รวมทั้งค่าเงินอัตราแลกเปลี่ยนที่มีความผันผวนเปลี่ยนแปลงเร็วมาก ในแบบที่ย้อนไปเมื่อ 20-30 ปีก่อนไม่เคยเกิดขึ้นเลย