“พิพัฒน์” เลื่อนชงโซนนิ่ง “เปิดผับถึงตี 4” เข้า ครม. 29 พ.ย. นี้

“พิพัฒน์” เลื่อนชงโซนนิ่ง “เปิดผับถึงตี 4” เข้า ครม. 29 พ.ย. นี้

“พิพัฒน์” เลื่อนชงโซนนิ่ง “เปิดผับถึงตี 4” เข้า ครม. 29 พ.ย.นี้ จากเดิมเตรียมเสนอ 15 พ.ย. หลังมีเมืองท่องเที่ยวเสนอชื่อขอร่วมวง ไม่อยากตกขบวนรถ เร่งจัดเตรียมข้อมูลให้แน่น ยันแนวคิดนี้เน้นกระตุ้นเศรษฐกิจ เพิ่มค่าใช้จ่ายนักท่องเที่ยว ฟื้นรายได้ท่องเที่ยวยุคหลังโควิด

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า สำหรับความคืบหน้าแนวคิดการขยายเวลาเปิดสถานบันเทิงถึง 04.00 น. จากเดิม 02.00 น.นั้น ขณะนี้ได้จัดทำข้อมูลครบทั้ง 8 พื้นที่เป้าหมายแล้ว ได้แก่ ภูเก็ต กระบี่ พังงา สมุย พัทยา หัวหิน เชียงใหม่ และกรุงเทพฯ จากเดิมวางกำหนดในการนำเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 15 พ.ย.นี้ แต่เนื่องจากมีการนำเสนอพื้นที่เข้ามาเพิ่มเติม อาทิ สงขลา และกาญจนบุรี จึงขอจัดทำข้อมูลให้ครบทุกพื้นที่ ก่อนจะนำเสนอ ครม. ในวันที่ 29 พ.ย.นี้

“ตอนนี้มีหลายจังหวัดขอเสนอชื่อเพิ่มเข้ามา โดยเฉพาะจังหวัดที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวจำนวนมากๆ ซึ่งตรงกับวัตถุประสงค์แรกของการขยายเวลาเปิดสถานบันเทิงตั้งแต่ต้น โดยตอนนี้เชื่อว่าไม่มีจังหวัดใดที่อยากตกขบวนรถไฟนี้แน่นอน”

ขณะนี้แม้ยังไม่ได้หารือร่วมกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แต่ทางนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้เซ็นเพื่อนำเข้าครม. ในวันที่ 15 พ.ย.นี้แล้ว แต่กระทรวงการท่องเที่ยวฯจำเป็นต้องขอเลื่อนไปเสนอวันที่ 29 พ.ย.นี้ เพื่อเพิ่มเติมข้อมูล

ทั้งนี้ ยืนยันว่าเหตุผลที่เลื่อนการนำเข้า ครม.นั้น ไม่ได้เกี่ยวกับการประท้วงหรือกระแสวิพากษ์วิจารณ์แต่อย่างใด เนื่องจากการเสนอขอขยายเวลาเปิดสถานบันเทิงถึง 04.00 น. ไม่ได้เพิ่งมีการเสนอจากกระทรวงการท่องเที่ยวฯเท่านั้น แต่มีการพูดคุยถึงแนวคิดนี้มาหลายครั้งแล้ว

“เชื่อว่านายกฯ มองภาพออกว่า ประเด็นนี้ถือเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ค่อนข้างรวดเร็ว ภายใต้ข้อจำกัดของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาไม่มากเท่าเดิม แต่การใช้จ่ายต้องเพิ่มมากขึ้น ทำให้สิ่งใดที่จะช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายได้ ต้องเดินหน้าเต็มที่ ส่วนผู้ที่เคยได้รับความเสียหาย ต้องขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่อย่างไรประเทศชาติก็ต้องเดินหน้าต่อไป”

นายพิพัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า พื้นที่นำร่องแรกที่วางไว้ยังเป็นภูเก็ต เนื่องจากมีความพร้อมทุกด้าน และมีการทำประชาพิจารณ์แล้ว ส่วนกรุงเทพฯ อาทิ ถนนข้าวสาร พัฒน์พงศ์ เพลินจิต-อโศก ซึ่งจากพื้นที่ที่เพิ่มมามากกว่าที่วางไว้เดิม จึงขอทำการศึกษาเพิ่มเติมก่อน อาทิ คุยกับผู้ประกอบการ และชาวบ้านในพื้นที่ จากนั้นจะจัดทำข้อมูลให้ครบทั้งหมด และนำเสนอเข้าที่ประชุม ครม.พร้อมกัน

“เบื้องต้นประเมินว่า หากมีการขยายเวลาเปิดสถานบันเทิงดังกล่าว จะทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้น 25-30% จากภาพรวม ซึ่งใช้เวลาเพียง 3-4 ชั่วโมงเท่านั้น แต่มีรายได้เพิ่มขึ้นมาค่อนข้างสูง”