กรมวิชาการเกษตรลุยตรวจ ลำไยตะวันออกคุมมาตรฐานส่งจีน

กรมวิชาการเกษตรลุยตรวจ  ลำไยตะวันออกคุมมาตรฐานส่งจีน

ผลไม้ในพื้นที่ภาคตะวันออกนอกจาก เงาะ มังคุด ทุเรียนแล้ว ยังมีการปลูกลำไย ซึ่งเป็นสินค้าสำคัญที่จีนต้องการ แต่จากมาตรการZero-Covid ทำให้กรมวิชาการเกษตรต้องเข้มงวดการตรวจสอบศัตรูพืช เพื่อการออกใบรับรองสุขอนามัยพืชเตรียมพร้อมส่งในปี 2566 นี้

ภัสชญภณ หมื่นแจ้ง รองอธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากปัญหาการแจ้งเตือนตรวจพบศัตรูพืชในผลไม้ส่งออกไปจีนอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับผลการตรวจประเมินการจัดการศัตรูพืชและมาตรการการป้องกันโรคโควิด-19ในโรงคัดบรรจุผลไม้ส่งออกไปจีน เมื่อปี 2564 พบว่าจีนมีการแจ้งเตือนลำไยตรวจสอบศัตรูพืชมากที่สุด

 

กรมวิชาการเกษตรลุยตรวจ  ลำไยตะวันออกคุมมาตรฐานส่งจีน กรมวิชาการเกษตรลุยตรวจ  ลำไยตะวันออกคุมมาตรฐานส่งจีน กรมวิชาการเกษตรลุยตรวจ  ลำไยตะวันออกคุมมาตรฐานส่งจีน

กรมวิชาการเกษตรจึง ลงพื้นที่   ณ  สำนักงานด่านตรวจพืชจันทบุรี ตำบลคลองใหญ่ อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี  เพื่อหารือกับผู้แทนสมาคมชาวสวนลำไย และสมาคมผู้ประกอบการส่งออกลำไย  ถึงแนวทางแก้ปัญหาพร้อมทั้งมอบใบรับรอง GAP ลำไยหมายเลขรหัสใหม่ให้แก่ เกษตรกรพื้นที่ ต.คลองใหญ่ อ.โป่งน้ำร้อน จำนวน 15 ราย 

โดย กลุ่มถ่ายทอดเทคโนโลยี กลุ่มพัฒนาการตรวจสอบพืชและปัจจัยการผลิตสำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 6 (สวพ.6) และ ด่านตรวจพืชจันทบุรี ได้รายงานผลการตรวจสอบศัตรูพืชลำไยและมาตรการป้องกัน การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ในแปลง GAP และโรงคัดบรรจุลำไย ฤดูกาลผลิต 2565/2566 ในขณะนี้เขตพื้นที่ภาคตะวันออก 7 จังหวัด มีจำนวนแปลงที่ต้องเปลี่ยนรหัสรับรอง GAP ใหม่ มีจำนวน 80,779 แปลง ซึ่งได้ดำเนินการเรียบร้อยแล้วจำนวน 33,733 แปลง และอยู่ในระหว่าง การดำเนินการอีกจำนวน 47,046 แปลง ยืนยันว่าจะเสร็จสิ้น 100% ตามที่กรมกำหนด ภายในวันที่ 31 ธ.ค. 65

พร้อมกันนี้ ได้ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานเจ้าหน้าที่ในการตรวจสอบคุณภาพลำไย การตรวจสอบศัตรูพืช เพื่อการออกใบรับรองสุขอนามัยพืช  แนะแนวทางการปฏิบัติการส่งออกลำไยให้ปลอดจากเพลี้ยแป้ง ในโรงคัดบรรจุ (ล้ง)ลำไย 2 แห่ง คือโรงคัดบรรจุ บริษัทไทยโทนพญานาค จำกัด และ โรงคัดบรรจุ บริษัทโซ่ชินหยวน อิมพอร์ต เอกซ์พอร์ต(ไทยแลนด์) จำกัด จ.จันทบุรี และตรวจเยี่ยมแปลง GAP ลำไย ของนางสมฤดี สีละคุณ ต.ทับช้าง อ.สอยดาว จ.จันทบุรี รวมทั้งแปลง GAP ลำไยของนางสุดา จันที่นอก ต.สะตอน อ.สอยดาว จ.จันทบุรี  ติดตามงานการนำเข้า-ส่งออกของด่านตรวจพืชจันทบุรี ที่ตลาดการค้าชายแดนไทย-กัมพูชา

"  การแพร่ระบาดของเพลี้ยแป้ง ควรป้องกันกำจัดมดที่เป็นพาหะไม่ให้ขึ้นต้น เช่น ใช้ผ้าชุบน้ำมันเครื่องที่ใช้แล้ว หรือผ้าชุบสารฆ่าแมลง มาลาไทออน อัตรา 20 มิลลิลิตร ต่อน้ำ 20 ลิต หรือ คาร์บาริล อัตรา 10 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร พันไว้ที่โคนต้นและวัสดุค้ำยันต่าง ๆ กำจัดวัชพืชในแปลงปลูกให้สะอาด โดยเฉพาะแห้วหมูและหญ้าคา ให้ถอนต้นและขุดเหง้าที่อยูในดินออก หมั่นสำรวจแปลงทุก 7 วัน "

สำหรับวิธีการปฏิบัติในการเก็บเกี่ยวที่เหมาะสมก่อนส่งลำไยผลสดเข้าโรงคัดบรรจุเพื่อการส่งออก  ที่แปลงต้องมีมาตรการป้องกันโรคโควิด-19  โดยมีการตรวจคัดกรองคนงาน ที่จะเข้ามาในแปลงทุกครั้งที่ปฏิบัติงาน เมื่อสำรวจแล้วไม่พบเพลี้ยแป้งทำการหักช่อผลออกจากต้น แล้วใส่ในภาชนะ เพื่อป้องกันไม่ให้ช่อผลลำไยสัมผัสพื้นดินโดยตรง การคัดแยกต้องดำเนินการบนผ้าพลาสติกหรือผ้ายาง ถ้าพบเพลี้ยแป้ง หรือเพลี้ยหอย หรือราดำ หรือมด ที่ช่อผล ต้องแยกช่อผลนั้นออกทั้งช่อไม่นำมาคัดหรือ ตัดแต่ง ส่วนช่อผลที่พบอาการผลเน่าหรือผลแตกเกิน 30% ควรคัดทิ้งทั้งช่อ

 และควรมีตะกร้าใส่ช่อผลที่คัดทิ้ง แยกต่างหากเพื่อไม่ให้ปะปนกับผลที่ยังไม่คัด ความยาวก้านของช่อผลลำไย ต้องทำการตัดแต่งความยาวก้าน ของช่อผลลำไยไม่เกิน 15 เซนติเมตร ซึ่งเป็นไปตามของกำหนดของจีน และในการขนส่งลำไยควรขนส่งด้วยพาหนะที่มีการปิดมิดชิด เพื่อป้องกันแมลงที่อาจมาทำลายซ้ำ และป้องกันการปนเปื้อนของเชื้อโรค

“เพลี้ยแป้งเป็นปัญหาสำคัญในลำไย จำเป็นต้องแก้ปัญหาตั้งแต่ต้นที่แปลง คัดกรองก่อนส่งเข้าล้ง   เพื่อให้การดำเนินงานส่งออกลำไยไปจีนของเกษตรกรและผู้ประกอบการเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อรักษามาตรฐานการส่งออกผลไม้ของไทยต่อไป”