หุ้นบ.อสังหาฯจีนพุ่งแรงเช้านี้ รับข่าวจีนขยายโครงการช่วยเหลือเงินทุน

ราคาหุ้นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของจีนพุ่งขึ้นแข็งแกร่งสุดในรอบ 8 เดือนในช่วงเช้านี้ ขานรับข่าวจีนประกาศขยายโครงการสนับสนุนด้านการเงินให้กับบริษัทเอกชนต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงบริษัทอสังหาริมทรัพย์ โดยให้คำมั่นว่าจะช่วยเหลือบรรดาบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ให้สามารถขายหุ้นกู้ได้มากขึ้น และบรรเทาความวิตกเกี่ยวกับสภาพคล่อง

ดัชนีหุ้นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์จีนซึ่งรวบรวมโดยบลูมเบิร์ก อินเทลลิเจนซ์ พุ่งขึ้น 8.8% เช้านี้ โดยหุ้นคันทรี การ์เดน โฮลดิงส์, ลองฟอร์ กรุ๊ป โฮลดิงส์ และหุ้นซีฟี โฮลดิงส์ (CIFI Holdings) ต่างก็พุ่งขึ้นอย่างน้อย 21% ขณะที่หุ้นกู้สกุลเงินดอลลาร์ของบริษัทเหล่านี้ปรับตัวขึ้นมากถึง 5 เซนต์
 

สมาคมนักลงทุนสถาบันตลาดการเงินแห่งชาติของจีน (National Association of Financial Market Institutional Investors - NAFMII) เปิดเผยว่า NAFMII ได้ขยายโครงการสนับสนุนด้านการเงินซึ่งก่อตั้งในปี 2561 เพื่อสนับสนุนการขายหุ้นกู้ของบริษัทเอกชนซึ่งรวมถึงบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยหุ้นกู้เหล่านี้คิดเป็นมูลค่าประมาณ 2.50 แสนล้านหยวน หรือ 3.45 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ

ทั้งนี้ NAFMII ระบุว่า แนวทางในการสนับสนุนนั้นครอบคลุมถึงการค้ำประกันหุ้นกู้, การสนับสนุนสินเชื่อ และการซื้อหุ้นกู้ พร้อมกับกล่าวว่า การดำเนินการดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามที่จะสร้างเสถียรภาพให้กับเศรษฐกิจจีน และ NAFMII อาจจะขยายโครงการดังกล่าวอีก หากพิจารณาแล้วเห็นว่าจำเป็น
 

นางติง เหม็ง นักวิเคราะห์จากบริษัทเอเอ็นแซด แบงก์ ไชน่า กล่าวว่า "ตลาดขานรับข่าวความช่วยเหลือในทุก ๆ ด้านจากรัฐบาลจีน เพราะอย่างน้อยก็แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลมีความเคลื่อนไหว หากเงินทุนเหล่านี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนบรรดาบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่เผชิญปัญหาสภาพคล่องตึงตัวเพียงอย่างเดียว ก็ถือว่ามาตรการนี้ได้ผล แต่เงินจำนวนนี้ยังถือว่าไม่เพียงพอ หากบริษัทอสังหาริมทรัพย์เหล่านี้เผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้"

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ของจีนได้รับผลกระทบจากวิกฤตหนี้สินเป็นเวลานานนับปี โดยบริษัทที่ผิดนัดชำระหนี้ในต่างประเทศมีจำนวนสูงเป็นประวัติการณ์ในปีนี้ ซึ่งวิกฤตการณ์ดังกล่าวเป็นสาเหตุที่ทำให้ทางการจีนเริ่มออกมาตรการควบคุมในปี 2563 โดยมุ่งเน้นจัดการกับบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่กู้ยืมเงินมาทำธุรกิจมากเกินไป รวมทั้งการเก็งกำไรในหมู่ผู้ซื้อบ้าน