เขย่าทัพบริหารครั้งใหญ่! ‘ไทยเบฟ’ ผลัดเจเนอเรชั่น เคลื่อนธุรกิจแสนล้าน!

ในงานแถลงข่าวประจำปี 2565 ของยักษ์ใหญ่เครื่องดื่มครบวงจรของอาเซียนอย่าง “บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด(มหาชน)” จะมีแม่ทัพคนสำคัญอย่าง “เจ้าสัวหนุ่ม ฐาปน สิริวัฒนภักดี” มาเล่าทิศทางธุรกิจ และ PASSION 2025 สร้างการเติบโตในอนาคต

พร้อมกันนี้ ยังมีบรรดา “ขุนพล” กลุ่มธุรกิจต่างๆ ขึ้นเวทีอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง ไม่ว่าจะกลุ่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ประเภทสุรา เบียร์ เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ ธุรกิจอาหาร สายงานความยั่งยืน ฝ่ายทรัพยากรมนุษย์ ฯ

เดือนสิงหาคม ที่ผ่านมา “ไทยเบฟ” มีการ “ปรับโครงสร้างธุรกิจ” ครั้งสำคัญ โดยตั้งซีอีโอ มาคุม 3 ธุรกิจที่จะเป็นกลไกสำคัญสร้างการเติบโตในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้แก่ สุรา เบียร์ และเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์หรือนอน-แอลกอฮอล์นั่นเอง

“ซีอีโอ” ที่นำทัพออกรบบนสมรภูมิการค้า ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็น “ขุนพล” ข้างกาย “ฐาปน” นั่นเอง ซึ่งประกอบด้วย “ประภากร ทองเทพไพโรจน์” รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ผู้บริหารสูงสุด กลุ่มธุรกิจสุรา ของไทยเบฟ และ “โฆษิต สุขสิงห์” รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ผู้บริหารสูงสุด กลุ่มธุรกิจเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ และผู้บริหารสูงสุด กลุ่มงานดิจิทัล และเทคโนโลยี

การสับเปลี่ยนเก้าอี้บริหาร ยังรวมถึงสายงานความยั่งยืน ดูแลด้านโลจิสติสก์ ดูแลการวางระบบ และการจัดจำหน่าย (Route to Market) เป็นต้น

ขุนพลเก๋า เก่าแล้วต้องไปเพื่อใหม่แทนที่

เป็นธรรมดาที่ “เก่าไป-เลือดใหม่มา” และนี่อาจเป็นสัญญาณการ “ผลัดเจเนอเรชั่น” ของไทยเบฟด้วย เมื่อมีการเขย่าโครงสร้าง “ขุนพลคนเก่า” หายไปไหน ในช่วงเดือนสิงหาคม ที่ผ่านมา จะเห็นว่า 3 ผู้บริหารคนสำคัญของไทยเบฟ ถูก “ลดบทบาท” เหมือนเป็น “กุนซือ” บ้างมองเป็นการ “โปรโมต” แต่ผู้ถูกปรับตำแหน่งอาจรู้สึกถึงการ “Demotion”

สำหรับ 3 ผู้บริหารที่เปลี่ยนแปลง ได้แก่ อวยชัย ตันฑโอภาส สิทธิชัย ชัยเกรียงไกร และ ดร.พิษณุ วิเชียรสรรค์ ซึ่งดำรงตำแหน่ง “กรรมการรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่อาวุโส”

อวยชัย-สิทธิชัย-ดร.พิษณุ

ความรู้ความสามารถทั้ง 3 ขุนพล บอกเลยว่าไม่ธรรมดา อย่าง “อวยชัย” เป็นผู้กุมบังเหียนธุรกิจสุรามานานแล้ว นานรวมถึงเป็นหนึ่งในคีย์แมนคนสำคัญที่สู้รบปรบมือกับการ “คัดค้าน” นำไทยเบฟ เข้าจดทะเบียนหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อต้องจำนนให้กับกระแสสังคม แต่ความหวังเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว “อวยชัย” ยังอยากเห็นไทยเบฟ กลับมาอยู่บนกระดานหุ้นในประเทศไทย

อย่างไรก็ตาม ในงานแถลงข่าวล่าสุด “ฐาปน” พูดถึงบทบาทของ “อวยชัย” ได้ทำหน้าที่ส่งสาส์นไปยัง "ยัม เรสเทอรองตส์" ต่างประเทศเกี่ยวกับกรณีความสนใจซื้อกิจการ “เคเอฟซี” ต่อจากแฟรนไชส์ซีอีกรายคือ “อาร์ดี” ด้วย

ส่วน “สิทธิชัย” ถือเป็น “ขุนคลัง” ของไทยเบฟ มาอย่างยาวนาน ในการเตรียมความพร้อมซื้อกิจการ การทำดีลใดๆ ต้องหาแหล่งเงินทุน “ดอกเบี้ยต่ำ” การดูแลฐานะทางการเงินขององค์กรให้ “แข็งแกร่ง” ซึ่งล่าสุด “สิทธิชัย” ได้ยุติบทบาทการทำงานในไทยเบฟ ตั้งแต่ 1 ตุลาคม ที่ผ่านมา หลังร่วมขับเคลื่อนอาณาจักรเครื่องดื่มแสนล้านนานถึง 19 ปี ในฐานะ “ซีเอฟโอ” ของกลุ่ม

ขณะที่ “ดร.พิษณุ” เป็นขุนพลข้างกาย “เจ้าสัว เจริญ สิริวัฒนภักดี” มานาน เพียงแต่บทบาทเน้นทำงาน “เบื้องหลัง” เช่น การบุกเบิกสร้างโรงเบียร์ ดูแลกระบวนการผลิต และยกระดับเทคโนโลยีต่างๆ

เปิดใจ ดร.พิษณุ ขุนพลเบื้องหลังไทยเบฟ

รู้จัก “ประภากร-โฆษิต” มือดีข้างกาย “ฐาปน”

ขุนพลข้างกายรุ่นพ่อ ผลัดใบสู่ซีอีโอข้างกายรุ่นลูก ลองทำความรู้จัก “ประภากร” ที่เข้ามาร่วมงานกับไทยเบฟ ปี 2552 เคยดูแล “ธุรกิจเบียร์” คุมธุรกิจต่างประเทศมาก่อน เป็นต้น จากนั้นมีการเขย่าการบริหาร ปัจจุบันถูกโยกมาคุมทัพ “สุรา” ซึ่งภารกิจสำคัญคือ การ “ขยายตลาด” ไปยังภูมิภาคอาเซียน

ทุกหมากรบของ “ประภากร” ในการขยายตลาดสุราจะไม่ผลีผลาม เนื่องจากเหล้าคือ “หัวใจ” สำคัญของราชันย์น้ำเมา ในด้านความสามารถการทำ “กำไร” สูงสุด ซึ่งในอดีตเคยมีสัดส่วน “เกินร้อย” เพราะอุ้มบางธุรกิจที่ “ขาดทุน” แต่เมื่อบริษัทมีการซื้อกิจการเสริมพอร์ต โครงสร้างกำไรจึงเปลี่ยน ครึ่งปี 2565 สัดส่วนกำไรจากเหล้าอยู่ระดับ 75%

“เราต้องรักษาเสถียรภาพของธุรกิจสุรา โดยเฉพาะการเติบโตของกำไร”

นอกจากเป็นแม่ทัพสุรา “ประภากร” ยังเคยดูแลด้านการเงินให้กับไทยเบฟด้วย กับตำแหน่งรองผู้บริหารสูงสุด การเงิน และบัญชีกลุ่ม และผู้บริหารสูงสุดด้านการเงิน และบัญชี ธุรกิจต่างประเทศ ล่าสุด วันที่ 1 ตุลาคม 2565 ได้รับการโปรโมตเป็น “ซีเอฟโอ” ของกลุ่มอย่างเป็นทางการแทน “สิทธิชัย” ด้วย

ขณะที่ “โฆษิต” เป็นหนึ่งในผู้ติดตามเจ้าสัวหนุ่ม "ฐาปน" ไปร่วมงานสำคัญๆ ระดับโลก เช่น การประชุมสภาเศรษฐกิจโลก (World economic forum) เพื่ออัปเดตสถานการณ์ต่างๆ ด้านบทบาทการขับเคลื่อนธุรกิจ ทำหน้าที่ดูแล “ซัพพลายเชน” ให้กับไทยเบฟ และปัจจุบันคุมทัพเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ รวมถึงดูแลเรื่องเทคโนโลยี ดิจิทัล และการศึกษาความเป็นไปได้ในการทำสถานีชาร์จรถพลังงานไฟฟ้า(อีวี) ให้กับกลุ่ม เป็นต้น

ล่าสุด ไทยเบฟ มีการร่วมทุนกับเอสซีจี ในการลุยโปรเจกต์อีคอมเมิร์ซ เรื่องนี้ “โฆษิต” รับรู้ แต่ไม่เผยรายละเอียดให้กับสื่อมวลชนรู้ อีกทั้งการขยายธุรกิจเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ ยังเตรียมปักหมุด “ฐานผลิต” ในประเทศเพื่อนบ้านซึ่ง “ปี 2566” จะได้เห็นจุดหมายปลายทางคือประเทศอะไร

อย่างไรก็ตาม การเขย่าโครงสร้างใหญ่ของไทยเบฟครั้งนี้ “คนเก่า” หลายคนได้ “ยุติบทบาท” การบริหาร และเลือดใหม่ต่างเติบใหญ่ตามสายงาน แต่สิ่งที่สะท้อนภาพเหล่านี้คือ การ “ผลัดเจเนอเรชั่น” จากรุ่นพ่อสู่ “ทายาทสิริวัฒนภักดี" เคลื่อนอาณาจักรแสนล้าน! เติบโตสู่เวทีโลกต่อไป

 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์