เกษตร จับมือ DEPA เอ็มโอยู หนุนใช้เทคโนโลยีดิจิทัล

เกษตร จับมือ DEPA เอ็มโอยู หนุนใช้เทคโนโลยีดิจิทัล

"กรมส่งเสริมการเกษตร"- DEPA เอ็มโอยูสนับสนุนประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลภาคการเกษตร ส่งเสริมนวัตกรรม ระบบบริหารจัดการแปลงด้วยระบบเกษตรอัจฉริยะ

     นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยว่า ภายหลังการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการส่งเสริมสนับสนุน และการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในภาคการเกษตรกับ DEPA  มีวัตถุประสงค์เพื่อร่วมกันพัฒนาศักยภาพ และเพิ่มขีดความสามารถของบุคลากรกรมส่งเสริมการเกษตร และบุคลากรภาคการเกษตรให้เข้าถึง และประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในภาคการผลิต และการตลาดตลอดทั้งห่วงโซ่อุปสงค์และอุปทาน ส่งเสริมสนับสนุนการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในภาคการเกษตร ทั้งเกษตรกร และผู้ประกอบการด้านการเกษตร ในรูปแบบของการเป็น Service Provider และ Service Solution เพื่อยกระดับประสิทธิภาพภาคการเกษตรของประเทศ

 

เกษตร จับมือ DEPA เอ็มโอยู หนุนใช้เทคโนโลยีดิจิทัล

     รวมถึงการพัฒนาระบบการตรวจสอบ และเชื่อมโยงฐานข้อมูลสนับสนุนการขับเคลื่อนงาน หรือโครงการส่งเสริมสนับสนุนการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในภาคการเกษตร และส่งเสริมและสนับสนุนการร่วมวิจัย และการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี และนวัตกรรมผ่านดิจิทัลแพลตฟอร์มด้านการเกษตร เพื่อพัฒนาภาคการเกษตรสู่การเป็นเกษตรดิจิทัล โดยบันทึกข้อตกลงความร่วมมือนี้ มีผลบังคับใช้เป็นระยะเวลา 5 ปี นับตั้งแต่ วันที่ 23 สิงหาคม 2565 ถึงวันที่ 23 สิงหาคม 2570

     สำหรับความร่วมมือภายใต้บันทึกข้อตกลงนี้ ประกอบด้วย 2 โครงการ คือ

1. โครงการส่งเสริมการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัล สำหรับเกษตรกรและผู้ประกอบการ

2. โครงการสร้างผู้ประกอบการให้บริการเกษตรอัจฉริยะ (Agriculture Service Provider : ASP) ซึ่งดำเนินการในปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 และ 2567 ตามลำดับ

     โดยปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ภายใต้โครงการที่ 1 จะขอรับการสนับสนุนตามมาตรการคูปองดิจิทัล (Mini transformation voucher) เพื่ออุดหนุนเกษตรกร ภายในวงเงิน 10,000 บาท/คูปอง/คน รวมทั้งสิ้น 200 คูปอง วงเงิน 2,000,000 บาท

     ทั้งนี้ เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการต้องมีคุณสมบัติตรงตามเงื่อนไขของโครงการ เพื่อให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ในการดำเนินงานของทั้งสองหน่วยงาน  และเกิดการบูรณาการทำงานความร่วมมือกัน ให้มีการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพิ่มประสิทธิภาพและคุณภาพการผลิตสินค้าเกษตร และการให้บริการเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีดิจิทัลให้แก่เกษตรกร มุ่งเน้นการยกระดับการพัฒนาภาคการเกษตร และอุตสาหกรรมการผลิตเทคโนโลยีดิจิทัล

     โดยต่อยอดการดำเนินงานมาจากโครงการส่งเสริมและพัฒนาต้นแบบเกษตรอัจฉริยะ กิจกรรมความร่วมมือส่งเสริมนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ “ระบบบริหารจัดการแปลงเกษตรด้วยระบบเกษตรอัจฉริยะ HandySense” ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ร่วมกับศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (NECTEC) และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ในพื้นที่เป้าหมาย 16 แห่ง ซึ่งได้ติดตั้งอุปกรณ์ระบบเกษตรอัจฉริยะ HandySense และดำเนินการการถ่ายทอดความรู้สู่เจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตร เกษตรกรและประชาชนที่สนใจเสร็จเรียบร้อยแล้ว

     นายเข้มแข็ง กล่าวอีกว่า การส่งเสริมการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลด้านการเกษตรนับว่าเป็นการขับเคลื่อนงานส่งเสริมการเกษตรในโครงการต่าง ๆ ตามนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ให้ความสำคัญกับทิศทางการเปลี่ยนแปลงของการพัฒนาการเกษตรในปัจจุบัน ไปสู่การเกษตรอัจฉริยะ หรือ Smart Agriculture เพื่อให้สอดคล้องกับการพัฒนาที่มุ่งสู่เกษตร 4.0 และการสร้างความเข้มแข็งให้แก่สถาบันเกษตรกรและเศรษฐกิจฐานราก

     โดยการสนับสนุนและส่งเสริมเทคโนโลยีเกษตร การประดิษฐ์ นวัตกรรม รวมทั้งเครื่องจักรกลเกษตรที่เหมาะสมกับพื้นที่ เพื่อยกระดับสู่การทำเกษตรสมัยใหม่ พร้อมทั้งการขับเคลื่อนแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ในประเด็นการเกษตร โดยมีจุดเน้นในด้านการเกษตรอัจฉริยะ (Smart Farming) และเกษตรแม่นยำ (Precision Agriculture) คือ มีการประยุกต์ใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ในภาคการเกษตร และในขณะเดียวกันเกษตรกรสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลด้านการเกษตรได้ง่าย และสะดวก ตลอดจนการพัฒนาความรู้และทักษะการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่