หุ้น SNNP กวาดรายได้ไตรมาส 2 นิวไฮ 1,339 ล้านบาท มั่นใจปีนี้เข้าเป้า 5 พันล้านบาท

หุ้น SNNP กวาดรายได้ไตรมาส 2 นิวไฮ 1,339 ล้านบาท มั่นใจปีนี้เข้าเป้า 5 พันล้านบาท

หุ้น SNNP โชว์ผลการดำเนินงาน Q2/65 ทำยอดขายนิวไฮกวาดรายได้รวมกว่า 1,339 ล้านบาท จากยอดขายเติบโตต่อเนื่อง ดันกำไรสุทธิเพิ่ม 57% แตะ 116 ล้านบาท มั่นใจปีนี้รายได้ทะยาน 5 พันล้านบาท สร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง หลังปูพรมบุกตลาดต่างประเทศ

นายวิโรจน์ วชิรเดชกุล รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานธุรกิจในประเทศ  บริษัท ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SNNP เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานสำหรับงวดไตรมาส 2/2565 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 116 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 42 ล้านบาท หรือ 57% จากงวดเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิเท่ากับ 74 ล้านบาท ส่วนรายได้รวมอยู่ที่ 1,339 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 266 ล้านบาท หรือ 25% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวมเท่ากับ 1,073 ล้านบาท 

ในขณะที่งวด 6 เดือนของปี 2565 บริษัทมีกำไรสุทธิจากธุรกิจหลัก ซึ่งไม่รวมกำไรพิเศษ อยู่ที่ 235 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 90 ล้านบาท หรือ 62% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนโดยมีกำไรสุทธิดังกล่าวอยู่ที่ 145 ล้านบาท ส่วนรายได้จากธุรกิจหลักรวมอยู่ที่ 2,457 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 371 ล้านบาท หรือ 18% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวมเท่ากับ 2,086 ล้านบาท 

ปัจจัยที่สนับสนุนให้กำไรสุทธิปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เป็นผลจากการที่ยอดขายในประเทศ ยังสามารถขยายตัวได้ดี และเติบโตได้มากกว่าภาพรวมของอุตสาหกรรม ขณะที่บริษัททยอยออกสินค้าใหม่ๆ ออกวางจำหน่าย ซึ่งมีกระแสตอบรับเป็นอย่างดี

รวมทั้งไตรมาส 2 ของทุกปี ยังเป็นช่วงไฮซีซันในการจำหน่ายสินค้าของบริษัท ประกอบกับยอดขายจากประเทศเวียดนามมีการเติบโตได้ต่อเนื่อง และปัญหาเรื่องการขนส่งก็กลับเข้ามาสู่ภาวะปกติ โดยบริษัทยังมีความมุ่งมั่นที่จะเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ออกสู่ตลาด รองรับความต้องการของผู้บริโภคทั้งใน และต่างประเทศ  

 

 ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 5/2565 ได้มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลให้กับผู้ถือหุ้นเป็นเงินสด ในอัตราหุ้นละ 0.18 บาท  รวมเป็นเงินปันผลทั้งสิ้น 173 ล้านบาท  และกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผล (Record Date)ในวันที่ 22 สิงหาคม 2565 และกำหนดจ่ายเงินปันผลวันที่ 6 กันยายน 2565 

"ผลดำเนินการที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง เป็นผลมาจากความมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม และขนมขบเคี้ยว ทั้งในด้านคุณภาพ และการบริการ ตลอดจนการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่หนึ่งในใจของผู้บริโภคทุกเพศ ทุกวัย ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์สินค้าหลักอย่างเจเล่ และเบนโตะ สามารถขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจากผลงานในช่วง 6 เดือน ยังเติบโตได้ดี ทำให้มั่นใจว่าภาพรวมทั้งปี 2565 แนวโน้มรายได้ในปีนี้จะพุ่งแตะที่ระดับ 5,000 ล้านบาท สร้างสถิติสูงสุดใหม่ตามแผนงานที่วางไว้ 

ส่วนแนวโน้มการดำเนินธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทยังมีแผนออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ตามแผนที่วางไว้ เช่น ผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์สินค้าหลักอย่างเจเล่ และเบนโตะ ส่วนกลยุทธ์ทางด้านการตลาดจะมีการปรับโฉมสินค้า "เจเล่" รวมถึงการเปิดตัวหนังโฆษณาชุดใหม่ๆ เพื่อสื่อสารทางการตลาดกับกลุ่มผู้บริโภค  เพื่อเป็นการสร้างกระแสให้กับกลุ่มผู้บริโภคครั้งใหญ่ในช่วงไตรมาส 3/2565 รวมถึงตลาดต่างประเทศที่บริษัทจะเร่งขยายช่องทาง และลงทุนสร้างฐานธุรกิจไว้ล่วงหน้า ไม่ว่าจะประเทศเวียดนาม กัมพูชา หรือ ประเทศส่งออกอื่นๆ ซึ่งมีแนวโน้มจะเติบโตได้ดีขึ้นในทุกไตรมาส

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์