คลังเตรียมใช้ระบบเอไอคัดกรองผู้ถือบัตรคนจน

คลังเตรียมใช้ระบบเอไอคัดกรองผู้ถือบัตรคนจน

"สันติ"เผย คลังเตรียมใช้ระบบเอไอช่วยคัดกรองคุณสมบัติผู้ลงทะเบียนบัตรคนจน โดยเตรียมเปิดลงทะเบียนราวปลายส.ค.นี้ พร้อมว่าจ้างกรุงไทย 163 ล้านบาท พัฒนาระบบลงทะเบียนใหม่

นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า กระทรงการคลังจะนำเทคโนโลยีและปัญญาประดิษฐ์ หรือ เอไอเข้ามาช่วยคัดกรองคุณสมบัติผู้มีสิทธิ์ถือบัตรคนจนนอกเหนือจากหลักเกณฑ์ต่างๆที่ได้กำหนด  เพื่อคัดกรองคุณสมบัติผู้ถือบัตรคนจนที่แท้จริง โดยระบบเอไอนี้  จะทำหน้าที่คัดกรองตั้งแต่การลงทะเบียนในปีแรก และจะคัดกรองทุกปี  เพื่อตัดสิทธิ์สำหรับกรณีผู้ถือบัตรนั้นๆมีรายได้เกินเกณฑ์ที่กำหนด

ทั้งนี้  ขณะนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมการลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ(บัตรคนจน) รอบใหม่ ในช่วงปลายเดือนส.ค.นี้  เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันมากที่สุด หลังจากที่ไม่ได้ปรับปรุงข้อมูลมาตั้งแต่เริ่มใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เมื่อปี 2561 

“นับจากนี้ เราจะมีการปรับปรุงข้อมูลทุกๆปี ด้วยเอไอ มาคัดกรองคุณสมบัติของผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เพื่อให้การช่วยเหลือตรงกลุ่มผู้มีรายได้น้อยจริง”

 

เขากล่าวว่า การดำเนินการคัดกรองที่เข้มข้นขึ้นนี้  เพราะรัฐต้องการช่วยผู้มีรายได้น้อย ให้มีเงินไปแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายบางส่วนเท่านั้น ไมได้ช่วยทั้งหมด ขณะเดียวกัน รัฐบาล ก็มีมาตรการอื่นๆ ช่วยเหลือแบ่งเบาภาระค่าครองชีพของประชาชนเป็นการทั่วไปในช่วงนี้และช่วงต่างๆอยู่แล้ว

 

อย่างไรก็ดี การเปิดลงทะเบียนรอบใหม่ ประชาชนผู้ถือบัตรเดิม ไม่ต้องกังวล หากคุณสมบัติเป็นไปตามเงื่อนไข ก็จะได้รับสิทธิ์ตามที่รัฐจัดให้ จะไม่มีการขาดช่วงแน่นอน เพราะระบบข้อมูลจะต้องเชื่อมต่อกันอย่างสมบูรณ์ก่อนเปิดลงทะเบียนบัตรคนจนรอบใหม่ 

 

สาเหตุที่กระทรวงการคลังต้องเปิดให้มีการลงทะเบียนรอบใหม่ เนื่องจาก ข้อมูลผู้ถือบัตรคนจนในปัจจุบันเป็นข้อมูลในปี 2559-61 โดยที่ผ่านมายังมีกลุ่มตกหล่นที่ไม่สามารถเข้าถึงโครงการฯประกอบกับสถานการณ์โควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจและความเป็นอยู่ในวงกว้างทำให้ข้อมูลผู้ถือบัตรคนจนไม่สะท้อนข้อมูลผู้มีรายได้น้อยในปัจจุบัน

 

ดังนั้น จึงจำเป็นต้องมีการลงทะเบียนใหม่ เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการระบุตัวผู้มีรายได้น้อย และมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบัน ตลอดจนเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดสรรสวัสดิการสังคมของรัฐให้แก่ประชาชนกลุ่มเป้าหมายได้ดียิ่งขึ้น

 

รายงานข่าวจากกระทรวงการคลังเผยว่า  กระทรวงการคลัง ได้ลงนามสัญญาว่าจ้างธนาคารกรุงไทยจำกัด(มหาชน)วงเงิน 163 ล้านบาท เพื่อวางระบบทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างทดสอบระบบเพื่อให้สมบูรณ์ที่สุด รองรับการลงทะเบียนได้ ซึ่งรัฐคาดว่าจะมีผู้ลงทะเบียนบัตรคนจนรอบใหม่มากว่า 10 ล้านคน เนื่องจาก ประสบปัญหาขาดรายได้ ตกงาน จากวิกฤตการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19

 

ทั้งนี้ กระทรวงการคลังได้ประมาณการค่าใช้จ่ายสำหรับการลงทะเบียนรอบนี้จำนวนกว่า 560 ล้านบาทประกอบด้วย ค่าจ้างเหมาบริการระบบลงทะเบียนและการยืนยันตัวตนกรณีการใช้บัตรประชาชนแทนบัตรสวัสดิการจำนวน 164 ล้านบาท และ ค่าใช้จ่ายสำหรับการรับลงทะเบียนของหน่วยรับลงทะเบียน ได้แก่ธ.ก.ส. ธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงไทย กรมบัญชีกลาง(คลังจังหวัด)กระทรวงมหาดไทย(ที่ว่าการอำเภอ)สำนักงานเขตกรุงเทพมหานคร และสำนักงานเมืองพัทยา รวมค่าใช้จ่ายประมาณ 400 ล้านบาท

 

สำหรับคุณสมบัติผู้ลงทะเบียนเบื้องต้น 

1.ต้องมีอายุ 18 ปีขึ้นไป  2.ต้องไม่มี หรือ มีทรัพย์สินทางการเงิน (นำรายได้ของครอบครัวมาเฉลี่ยรวมไม่เกิน 1 แสนบาท/คน/ปี)
3.ต้องไม่มีหนี้สินที่ต้องผ่อนบ้านในราคาไม่เกิน 1.5 ล้านบาท 4.หนี้สินยานพาหนะรวมไม่เกิน 1 ล้านบาท5.ไม่มีบัตรเครดิต 6.ที่ดินทำกินไม่เกิน 10 ไร่ 7. ไม่มีกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์เกินกว่าที่กำหนดไว้เช่นบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ พื้นที่ไม่เกิน 25 ตารางวา ห้องชุดไม่เกิน 35 ตารางเมตร