ขัดแย้ง ‘จีน - ไต้หวัน’ โอกาสส่งออกไทย!

ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สนั่น อังอุบลกุล ระบุ จากสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างจีน - ไต้หวัน เกิดผลกระทบโดยตรงต่อไต้หวัน จากการที่จีนมีมาตรการห้ามนำเข้าสินค้า มาตรการด้านภาษีต่างๆ รวมถึงด้านซัพพลายเชนที่ส่งผลกระทบต่อการผลิตชิป เป็นความเสียหายที่เกิดขึ้นโดยตรงกับภาคเศรษฐกิจระหว่างจีนกับไต้หวัน

สำหรับประเทศไทยมีจุดยืนชัดเจนว่าเป็นกลาง และไม่ต้องการเห็นความขัดแย้งในประเทศเอเชียด้วยกันแต่ยังมองว่าไทยมีโอกาสส่งสินค้าไปจีนทดแทนไต้หวัน และดึงดูดการลงทุนจากจีน และไต้หวันได้มากขึ้น จากปัจจุบันที่จีนเข้ามาลงทุนเป็นอันดับที่ 6 ในประเทศกลุ่มอาเซียน จากนี้ไปจึงเป็นโอกาสที่ดีของประเทศไทยในการทำการค้ากับจีน-ไต้หวัน

มั่นใจเศรษฐกิจไทยโต 3%

สำหรับแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งหลังของปี 65 มองว่าแม้ไทยจะต้องเผชิญกับวิกฤติซ้อนวิกฤติ แต่ไม่กระทบทางตรง ซึ่งจะต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดโดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยว แต่สภาหอการค้าฯ ยังเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีหลังจะดีขึ้นกว่าครึ่งปีแรก และจะขยายตัวได้เป็นบวกไม่น้อยกว่า 3%

ห่วงขัดแย้ง ‘จีน-ไต้หวัน’ กระทบโลจิสติกส์

รองประธานกรรมการหอการค้าไทย วิศิษฐ์ ลิ้มลือชา ระบุ ไทยต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิดว่าทางรัฐบาลจีนจะออกมาตรการอะไรออกมาเพิ่มเติมหรือไม่ โดยต้องติดตามอย่างต่อเนื่องจากหลังจากจีนระงับการนำเข้าสินค้าหลายรายการจากไต้หวันจำนวนกว่า 2,000 รายการจากทั้งหมด 3,500 รายการ เป็นมาตรการตอบโต้ของจีน ที่จีนเห็นว่ารายการสินค้าที่สั่งระงับจีนมีเพียงพอหรือสามารถนำเข้าจากประเทศอื่นๆ มาทดแทนได้ เป็นโอกาสที่สินค้าไทยซึ่งมีความพร้อมเรื่องการผลิตที่สามารถทดแทนได้ในระยะสั้นที่จะเข้าไปเติมเต็มทั้งในจีน และไต้หวัน แต่ในระยะยาวยังกังวลว่าจะมีมาตรการอะไรเพิ่มเติมที่อาจทำให้การขนส่งสินค้า ระบบโลจิสติกส์ติดขัดได้

 

คาดส่งออกปีนี้โต 10%

สำหรับการส่งออกของไทยปี 2565 ตัวเลขครึ่งปีแรกถึงเดือนมิ.ย. ค่อนข้างดี ซึ่งคาดว่าทั้งปีจะเติบโตได้ใกล้เคียงเป้าหมาย 10% ทั้งนี้จะต้องมีการสนับสนุนส่งเสริมในเรื่องการอำนวยความสะดวกต่างๆ เพราะความต้องการสินค้าในโลกตั้งแต่ช่วงต้นปีมีปริมาณกลับมาค่อนข้างสูงหลังจากหลายๆ ประเทศเริ่มกลับมาดำเนินนโยบายทางด้านเศรษฐกิจ เป็นโอกาสในการส่งออกของไทย ขณะที่สิ่งที่ยังกังวลคือ นโยบายการขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐ ที่ขึ้นค่อนข้างแรง และเร็วเพื่อสกัดเงินเฟ้อ ซึ่งจะมีผลกับความสามารถในการขยายธุรกิจของสหรัฐกับหลายๆ ประเทศที่กระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน 

ทั้งนี้ ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดว่าหลังจากนี้ยังมีนโยบายการขึ้นดอกเบี้ยแรงต้องไปหรือไม่เพราะเป็นสิ่งที่กระทบกับเศรษฐกิจทั่วโลกที่จะต้องขึ้นดอกเบี้ยตาม ส่งผลทำให้การฟื้นตัวโดยเฉพาะของเอสเอ็มอีเป็นไปได้ยาก

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์