Sideways ซื้อเก็งกำไร GULF BEM OTO (5 ส.ค. 2565)

Sideways ซื้อเก็งกำไร GULF BEM OTO (5 ส.ค. 2565)

คาดดัชนีฯ Sideways แนวต้าน 1,600 / 1,611 จุด (EMA 200 วัน) แนวรับ 1,587 / 1,580 จุด แนะนำ ซื้อเก็งกำไร GULF BEM OTO ทางเทคนิค คาดดัชนีฯ เกิดการปรับฐานระยะสั้น ก่อนที่จะปรับขึ้นไปทดสอบแนวต้านสำคัญ 1,611 จุด ในสัปดาห์หน้า 

โมเมนตัมลบ คือ การวิตกต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอยของประเทศสำคัญ เช่น สหรัฐฯ หลังจากรายงานตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานรายสัปดาห์ใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 8 เดือน และ BoE ออกแถลงการณ์เตือนว่าเศรษฐกิจจะเข้าสู่ภาวะถดถอยตั้งแต่ 4Q22E จนถึง 4Q23E ไฮไลท์วันนี้ คือ รายงานเงินเฟ้อเดือน ก.ค. ของไทย คาดปรับสูงขึ้นต่อเนื่อง จากผลกระทบ Low Base Effect และตัวเลขจ้างงาน อัตราการว่างงาน การเปลี่ยนแปลงของค่าจ้างรายชั่วโมงเดือน ก.ค. ของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นตัวเลขสำคัญที่สะท้อนความเสี่ยงเศรษฐกิจถดถอยและภาวะเงินเฟ้อจากภาคอุปสงค์

 

กลยุทธ์ลงทุน แนะนำ

+ KTX Portfolio: พอร์ต Big Cap แนะนำ GULF CRC AWC TCAP JMT CENTEL BH BEM AOT EA CPN MINT KTB BDMS MAJOR (ขาย MEGA) พอร์ต Mid-Small Cap แนะนำ AH DOD DOHOME KSL NYT RS TWPC SAT TMT WICE PORT SFT TK (ขาย AMANAH TOG ซื้อ AJ)

+ หุ้นที่เคยได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นของยิลด์พันธบัตร: MTC SINGER THANI TIDLOR

+ กลุ่มโรงไฟฟ้าได้ประโยชน์จากการปรับขึ้นค่า FT และราคาน้ำมันที่ลดลง: BGRIM GPSC GULF

+ Daily Recommendations: GULF (รับประโยชน์จากการปรับขึ้นค่า FT) BEM (แนวโน้มกำไร 2Q22E ฟื้นตัว ตามยอดผู้ใช้ทางด่วนและรถไฟฟ้า MRT) OTO (เตรียมรับรู้รายได้ค่า Sponsor ทีม E Sport ในสังกัดยาว 5 ปี)

 

ปัจจัยบวก

+ Earnings Results: แนวโน้มกำไร 2Q22 ยังมีแนวโน้มสูงกว่าที่ตลาดคาด (Positive Surprise) อิงจาก บจ. ที่รายงานผลการดำเนินงานแล้ว พบว่า 14 จาก 18 บจ. รายงานกำไรสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ ทำให้มีแรงเก็งกำไรในหุ้นที่คาดว่าจะรายงานกำไรเติบโตดี (Earnings Play)

 

 

ปัจจัยลบ

- USA: ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 6,000 ราย สู่ระดับ 260,000 ราย ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งใกล้ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน พ.ย. 2021 โดยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานดังกล่าวสูงกว่า 215,000 ราย ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยต่อสัปดาห์ในช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของ COVID-19 ในสหรัฐฯ

- UK: BoE ออกแถลงการณ์เตือนว่าเศรษฐกิจอังกฤษจะเข้าสู่ภาวะถดถอยตั้งแต่ 4Q22-4Q23 ซึ่งยาวนานที่สุด นับตั้งแต่ที่เศรษฐกิจโลกเผชิญวิกฤติการเงิน จากรายได้ภาคครัวเรือนที่มีโอกาสทรุดตัวลงอย่างหนัก ฉุดการบริโภคหดตัว ขณะที่คาดการณ์ว่า เงินเฟ้อจะพุ่งแตะระดับสูงสุดที่ 13.3% ในเดือน ต.ค. 2022 และจะยังคงอยู่ในระดับสูงตลอดปี 2023

 

ประเด็นสำคัญ

- Earnings Results: DOHOME STANLY THCOM

- Thailand: เงินเฟ้อเดือน ก.ค. คาด +8.00% YoY และ +0.00% MoM (Vs เดือน มิ.ย. ที่ +7.66% YoY และ +0.9% MoM)

- USA: Non-Farm Payrolls เดือน ก.ค. คาดที่ 2.5 แสนราย (Vs เดือน มิ.ย. ที่ 3.72 แสนราย)

- USA: ค่าจ้างรายชั่วโมงเดือน ก.ค. คาดเพิ่มขึ้น +0.3% MoM และ +4.9% YoY (เดือน มิ.ย. ที่ +0.3% MoM และ +5.1% YoY

 

Global Market Summary: วันทำการที่ผ่านมา

+ ตลาดหุ้นไทยปิดบวกต่อเนื่อง: ดัชนีฯ พยายามปิดเหนือแนวต้านสำคัญ โดยขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ 1,604.85 จุด ก่อนที่อ่อนตัวลงมาปิดที่ 1,598.75 จุด +4.02 จุด วอลุ่มซื้อขำย 6.9 หมื่นล้านบาท นำบวกโดยกลุ่มบรรจุภัณฑ์ +4.26% กลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ +3.18% กลุ่มเงินทุนและหลักทรัพย์ +2.24% และกลุ่มพาณิชย์ +0.67% หุ้นบวก >4% SCGP MTC SAWAD SABUY DITTO FORTH CPH CPR ALL NCAP HENG BBIK TEAMG CPL หุ้นลบ >4% PTTEP SPRC LANNA D
 

 

+/- หุ้นสหรัฐฯ ปิดคละ ส่วนหุ้นยุโรปปิดบวก: DJIA -0.26% S&P500 -0.08% NASDAQ +0.41% ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน นำลงโดยกลุ่มพลังงาน (Chevron -2.7%) ค้าปลีก (Walmart -3.7% หลังประกาศแผนปรับลดพนักงาน) และนำขึ้นโดยกลุ่มเทคโนโลยี (AMAZON +2.2% Netflix +1.4%) ส่วนหุ้นยุโรปปิดบวก CAC40 +0.64% DAX +0.55% FTSE +0.03% โดยมีแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มธนาคาร เครดิตอะกริโคล เครดิตสวิส และกลุ่มสายการบิน Lufthansa หลังจากรายงานกำไร 2Q22 ดีกว่าคาด อย่างไรก็ตาม FTSE ปรับตัวขึ้นน้อยกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มประเทศยุโรป หลังจาก BoE ประกาศขึ้นดอกเบี้ย 0.5% พร้อมกับแถลงการณ์เตือนถึงการเกิดภาวะถดถอยของเศรษฐกิจอังกฤษ

+/- ราคาน้ำมันดิบร่วงต่อ ส่วนทองคำฟื้นแรง: WTI -USD2.12 ปิดที่ USD88.54/บาร์เรล ต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 2 ก.พ. Brent -USD2.66 ปิดที่ USD94.12/บาร์เรล ต่ำสุดตั้งแต่วันที่ 18 ก.พ. กังวลอุปสงค์โลกลดลง จากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวทั้งในสหรัฐฯ ยุโรป จีน (ล่าสุดสั่งล็อกดาวน์เมืองซานย่า ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวสำคัญที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของมณฑลไหหลา หลังพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น) ส่วนราคาทองคำกลับมาปิดบวกแรง +USD30.5 ปิดที่ USD1,806.9/ออนซ์ แตะระดับสูงสุดรอบกว่า 1 เดือน โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ และจากการที่นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการซ้อมรบของจีนรอบเกาะไต้หวัน

 

ประเด็นสำคัญ

- China: ทางการจีนประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์ในหลายพื้นที่ของเมืองซานย่า ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวสำคัญที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของ มณฑลไหหลำ ตั้งแต่วันที่ 4 ส.ค. เป็นต้นไป พร้อมสั่งให้ประชาชนลดการเดินทางออกไปซื้อของใช้จำเป็นลงเหลือเพียงสองวันต่อครั้ง และกำชับประชาชนบางส่วนให้อยู่แต่ในบ้าน

- UK: ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) มีมติ 8-1 ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.50% สู่ระดับ 1.75% ในการประชุมวานนี้ โดยเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 27 ปี ของ BoE หรือนับตั้งแต่ปี 1995 ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อ

+ USA: กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยวานนี้ว่า ตัวเลขขาดดุลการค้าสหรัฐฯ ลดลง 6.2% สู่ระดับ 7.961 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในเดือน มิ.ย. จากการนำเข้าลดลง -0.3% สู่ระดับ 3.404 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่การส่งออกเพิ่มขึ้น +1.7% สู่ระดับ 2.608 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หากพิจารณาตั้งแต่ต้นปี 2022 สหรัฐฯ ขาดดุลการค้ามากที่สุดต่อประเทศคู่ค้า 5 ชาติ ได้แก่ จีน เม็กซิโก เวียดนาม แคนาดา และญี่ปุ่น

+ Thailand: ธปท. เผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการที่พักแรมเดือน ก.ค. 2022 พบว่า อัตราการเข้าพักเฉลี่ยอยู่ที่ 45% เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน และเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามการยกเลิก Thailand Pass และการขยายสิทธิโครงการเราเที่ยวด้วยกันเป็นสำคัญ ส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติเพิ่มขึ้น โดยคาดการณ์ว่าอัตราการเข้าพักเดือน ส. ค. 2022 โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 42%

แนะนำ Trading Buy (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

หุ้นแนะนำรายสัปดาห์: HANA COM7 BGRIM

หุ้นแนะนำเก็งกำไร: GULF BEM OTO

Derivatives: แนะถือ Long ที่เปิดไว้ต้นทุน 955 จุด