AUCT แนวโน้มผลประกอบการฟื้นตัวดี ตั้งแต่ 2H65 เป็นต้นไป

อย่างไรก็ดี บริษัทยังได้รับผลกระทบจากมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ ประกอบกับความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงินเพื่อควบคุมระดับ NPL ทำให้จำนวนรถยึดเข้าสู่การประมูลลดลง ขณะที่ %GPM ปรับลดลงสู่ระดับ 47.2% (1Q64 = 55%, 4Q64 = 56.5%) และ %SG&A/Sales ปรับขึ้นสู่ระดับ 17.5% (1Q64 = 16.1%, 4Q64 = 17.5%) เนื่องจากรายได้ที่ลดลงทำให้เกิด Diseconomies of Scale ส่งผลให้งวด 1Q65 มีกำไรเท่ากับ 45.2 ลบ. -35%YoY -44%QoQ โดยกำไรงวด 1Q65 คิดเป็น 18% ของประมาณกำไรทั้งปี 65

•    แนวโน้มผลประกอบการฟื้นตัวดีตั้งแต่ 2H65 เป็นต้นไป โดยคาดกำไรทั้งปี 65 ราว 260.5 ลบ. +1.7%YoY เราคาดแนวโน้มรายได้และกำไรงวด 2Q65 จะฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อย YoY และ QoQ แม้ช่วง 1Q65 บริษัทมีรายได้พิเศษจากการจัดประมูลคลื่นความถี่วิทยุของ กสทช. โดยเราคาดผลประกอบการจะทยอยฟื้นตัวตั้งแต่งวด 2Q65 และจะเติบโตดีตั้งแต่ช่วง 2H65 เป็นต้นไป เนื่องจากปัจจัยหนุน 2 ประการ คือ 1) สถาบันการเงินทยอยจบโครงการพักชำระหนี้ ซึ่งจะทำให้ NPL และปริมาณรถยึดเข้าสู่การประมูลมีโอกาสเพิ่มมากขึ้น และ 2) บริษัทปรับค่าดำเนินการรถยนต์ 4 ล้อเพิ่มขึ้นเป็น 10,000 บาท จาก 9,000 บาท และปรับค่าดำเนินการรถยนต์ 6 ล้อขึ้นไป เป็น 12,000 บาท จาก 10,000 บาท มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.65 เป็นต้นไป โดยเราคาดการณ์รายได้และกำไรทั้งปี 65 ราว 905.7 ลบ. +1%YoY และ 260.5 ลบ. +1.7%YoY ตามลำดับ
 

•    เริ่มต้นด้วยคำแนะนำ “ซื้อ” ประเมินราคาเหมาะสมปี 65 ราว 10.60 บาท เราประเมินราคาเหมาะสมปี 65 ของ AUCT โดยอิง Prospective PER ที่ระดับ 22.5x ซึ่งเป็นระดับค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี ประกอบกับคาดการณ์กำไรต่อหุ้นปี 65 ราว 0.47 บาท/หุ้น คำนวณเป็นราคาเหมาะสมปีนี้ราว 10.60 บาท ทั้งนี้ ราคาหุ้นปรับตัวลง 22%YTD สะท้อนผลประกอบการที่อ่อนแอในช่วง 1H65 ไปแล้ว โดยราคาหุ้นมีอัพไซต์จากราคาปัจจุบันกว่า 28% ประกอบกับจ่ายปันผลในอัตราราว 5% ต่อปี เราจึงเริ่มต้นด้วยคำแนะนำ “ซื้อ”

 

ปัจจัยเสี่ยง
 

(i)  ยอดขายรถใหม่ภายในประเทศหดตัว  

(ii)  NPL สินเชื่อรถยนต์ปรับตัวดีขึ้น

(iii) มาตรการพักชำระหนี้ของสถาบันการเงิน