AAV ประมาณการ 2Q65F: คาดว่าจะขาดทุนหนัก

AAV  ประมาณการ 2Q65F: คาดว่าจะขาดทุนหนัก

ถึงแม้ว่าสถานการณ์ด้านการท่องเที่ยวของไทยจะมีแนวโน้มดีขึ้นอย่างต่อเนื่องใน 2Q65 แต่เราคาดว่าผลประกอบการของ AAV ใน 2Q65F จะยังคงแย่ลงทั้ง YoY และ QoQ จากการเพิ่มสัดส่วนการถือครองหุ้น Thai AirAsia (TAA) เป็น 100% (จากเดิมที่ 55%) ตั้งแต่วันที่ 21 มกราคม 2565

ทั้งนี้ เมื่ออิงตามสถิติการดำเนินงานเบื้องต้นของบริษัท เราคาดว่า AAV จะมีผลขาดทุนปกติ 2.44 พันล้านบาทใน 2Q65F (จากที่มีผลขาดทุนปกติ 1.69 พันล้านบาทใน 2Q64 และ 2.37 พันล้านบาทใน 1Q65) ซึ่งผลการดำเนินงานที่แย่ลงจะเนื่องจากต้นทุนเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทั้ง YoY และ QoQ จากสงครามรัสเซีย-ยูเครน ทั้งนี้ ในช่วง 2Q65 AAV มีผู้โดยสารทั้งหมด 1.68 ล้านคน (+133.3% YoY, +16.0% QoQ) และทำการบินทั้งหมด 12,326 เที่ยว (+87.2% YoY, +12.0% QoQ) โดยที่ Load factor จากเครื่องบินที่มีการใช้งานอยู่ที่ 75% (+14ppts YoY, +2ppts QoQ) เราคาดว่ายอดขายใน 2Q65F จะอยู่ที่ 2.52 พันล้านบาท (+156.2%YoY, +41.0% QoQ) ในขณะที่คาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะติดลบลดลงเหลือ -89.3% จาก -142.7% ใน 1Q65 และ -183.7% ใน 2Q64 ทั้งนี้ เราคาดว่า AAV จะขาดทุนสุทธิ 4.14 พันล้านบาทใน 2Q65F เพราะคาดว่า บริษัทจะต้องบันทึกผลขาดทุนพิเศษจากอัตราแลกเปลี่ยนของภาระหนี้จากการเช่าซื้อเครื่องบิน (lease liability) ประมาณ 1.7 พันล้านบาท ซึ่งเกิดจากเงินบาทอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ

 

ผลการดำเนินงานใน 2H65 มีแนวโน้มดีขึ้นอย่างมาก HoH

เราคาดว่าโมเมนตัมของผลประกอบการใน 2H65 ของ AAV จะเป็นบวกจากการที่ประเทศไทยเปิดประเทศอย่างเต็มที่ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม ซึ่งจะทำให้แนวโน้มธุรกิจโดยรวมของบริษัทดีขึ้น โดยปัจจัยสนับสนุนได้แก่ i) จำนวนผู้โดยสารเที่ยวบินระหว่างประเทศที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยเพิ่มขึ้นอย่างมาก ii) ต้นทุนเชื้อเพลิงลดลงหลังจากที่ราคาน้ำมันเครื่องบินพุ่งขึ้นไปถึงจุดสูงสุดที่ US$166/barrel เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน (ปัจจุบันอยู่ที่ US$123/barrel) iii) ไม่มีผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนก้อนใหญ่ เพราะเงินบาทอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับ US$ (จากประมาณ 2 บาท/US$ ภายในไตรมาส) และ iv) ผลบวก
จากการปรับโครงสร้างการถือหุ้นใน TAA เป็น 100%

 

 

 

เรายังคงมองว่าธุรกิจจะฟื้นตัวกลับไปอยู่ระดับก่อน COVID ระบาดได้ภายในปี 2566

เรายังคงมองบวกกับแนวโน้มการฟื้นตัวในอนาคตของ AAV เนื่องจากเราคาดว่าผลการดำเนินงานจะฟื้นตัวขึ้นได้ในอีกสองสามปีข้างหน้า เพราะได้รับผลกระทบจาก COVID-19 ลดลง ดังนั้น เราจึงยังคงประมาณการของ AAV เอาไว้เท่าเดิม โดยคาดว่าจะยังขาดทุนสุทธิ 1.91 พันล้านบาทในปี 2565F แต่จะพลิกเป็นกำไรสุทธิ 73 ล้านบาทได้ในปี 2566F

 

Valuation & action

ถึงแม้ว่าราคาหุ้น AAV จะปรับลดลงมาจากจุดสูงสุดที่ 3.08 บาทในเดือนพฤษภาคม แต่เรามองว่าราคาเป้าหมายของเรายังมี downside อีก ดังนั้น เราจึงยังคงคำแนะนำขาย และคงราคาเป้าหมายปี 2565 เอาไว้เท่าเดิมที่ 2.55 บาท (อิงจาก P/BV ที่ 1.5x เท่ากับค่าเฉลี่ย +1.5 SD)

 

Risks

ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงขยับสูงขึ้น, COVID-19 ระบาด, เศรษฐกิจถดถอย