STEC - มีความเสี่ยงรออยู่ข้างหน้า (20 ก.ค. 65)

STEC - มีความเสี่ยงรออยู่ข้างหน้า (20 ก.ค. 65)

เราคาดว่าผลประกอบการใน 2Q จะดีขึ้นทั้ง yoy และ qoq เนื่องจาก (1) ไม่มีค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดีทางกฎหมาย 124 ล้านบาท เหมือนกับใน 2Q21 และ (2) มีรายได้จากเงินปันผล 97 ล้านบาท

นอกจากนี้ เรามองว่า STEC ทนรับความเสี่ยงได้น้อย เพราะหลายโครงการใน backlog มี margin ต่ำเพียง 5-6% เท่านั้น และยังมองว่ามีความเสี่ยงที่โครงการท่อระบายน้ำหนองบอนจะล่าช้า เรายังคงคำแนะนำถือ STEC โดยประเมินราคาเป้าหมายที่ 13.50 บาท

 

ผลประกอบการใน 2Q จะดีขึ้นทั้ง yoy และ qoq

เราคาดว่ากำไรสุทธิของ STEC ใน 2Q จะอยู่ที่ 263 ล้านบาท (+18455% yoy, +13% qoq) โดยใช้สมมติฐานว่า  (1) รายได้ใน 2Q จะทรงตัว qoq อยู่ที่ 7.6 พันล้านบาท และ (2) อัตรากำไรขั้นต้นจะลดลงเล็กน้อยเหลือ 5.5% จาก 5.7% ใน 1Q โดยกำไรที่เพิ่มขึ้น yoy จะเป็นเพราะไม่มีค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดีทางกฎหมาย 124 ล้านบาท เหมือนกับใน 2Q21 ส่วนกำไรที่เพิ่มขึ้น qoq จะเป็นเพราะมีรายได้จากเงินปันผล 97 ล้านบาท

 

ทนรับความเสี่ยงได้น้อย

STEC ได้เซ็นสัญญาก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วงฉบับที่ 1 และ 2 มูลค่า 1.42 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะทำให้ Backlog ของ STEC ปัจจุบันสูงถึง 1.23 แสนล้านบาท แต่อย่างไรก็ตาม เรามองว่า STEC ทนรับความเสี่ยงได้น้อยเพราะ Backlog ดังกล่าวมี Margin ต่ำ (5-6%) ซึ่งหากราคาวัสดุก่อสร้างพุ่งสูงขึ้น หรือมีการบันทึกผลขาดทุนพิเศษก้อนใหญ่เหมือนกับใน 2Q21 อาจจะทำให้บริษัทพลิกเป็นขาดทุนสุทธิได้

 

 

 

 

โครงการอุโมงค์ระบายน้ำหนองบอนอาจจะล่าช้า

กทม. เป็นเจ้าของโครงการนี้ โดยมี STEC เป็นผู้รับเหมา โครงการนี้มีมูลค่า 4.9 พันล้านบาท เริ่มต้นเมื่อวันที่ 13 มกราคม 2016 และกำหนดสิ้นสุดโครงการในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2022 แต่อุโมงค์ใต้ดินที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างถล่มในเดือนกุมภาพันธ์ 2022 เราคาดว่า STEC จะไม่ต้องจ่ายค่าปรับเพราะงานก่อสร้างในช่วงที่ COVID-19 ระบาดจะได้รับยกเว้นการจ่ายค่าปรับตั้งแต่ที่มีการประกาศใช้ พรก. ฉุกเฉินตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม 2020 ดังนั้น STEC จึงยังมีเวลาแก้ปัญหาอีกกว่า 24 เดือน แต่บริษัทน่าจะเผชิญกับความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหา cost overrun จากทั้งค่าแรงที่เพิ่มขึ้น และต้นทุนค่าวัสดุก่อสร้างที่แพงขึ้น

 

คงคำแนะนำ ถือ และประเมินราคาเป้าหมายที่ 13.50 บาท

เนื่องจาก (1) มี Upside จำกัด, (2) Backlog สูงแต่มี Margin ต่ำ รวมถึง (3) มีความเสี่ยงจากโครงการอุโมงค์ระบายน้ำหนองบอน ราคาเป้าหมายของเราอิงจาก PER ปี FY22F ที่ 20x