'บีทีเอส' ยื่นดีเอสไอร้อง รฟม.ส่อฮั้วประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้ม

'บีทีเอส' ยื่นดีเอสไอร้อง รฟม.ส่อฮั้วประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้ม

'บีทีเอส' ยื่นหนังสือถึง DSI ร้องทุกข์กล่าวโทษดำเนินคดีฮั้วประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม หลังพบเงื่อนไขประมูลรอบใหม่ รฟม.กำหนดหลักเกณฑ์กีดกั้น ส่อเอื้อประโยชน์รายหนึ่ง

วันนี้ (20 กรกฎาคม 2565) เวลา 13.00 น. นายสุรมนต์ มีเมศกุล ผู้รับมอบอำนาจจาก บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTSC ซึ่งเป็นผู้ประกอบการกิจการขนส่งมวลชนระบบรถไฟฟ้า ได้มาร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ โดยมีพันตำรวจโทยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษเป็นผู้รับเรื่อง ให้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดกรณีที่การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ได้ออกประกาศเชิญชวนเอกชนร่วมลงทุนในโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มช่วงบางขุนนนท์ - มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ส่วนตะวันตก (ช่วงบางขุนนนท์ – ศูนย์วัฒนธรรมฯ)

โดยบริษัทฯ ได้พิจารณาแล้วพบว่า ข้อกำหนดเงื่อนไขในสาระสำคัญเกี่ยวกับคุณสมบัติของผู้ยื่นข้อเสนอ มีเจตนากีดกันบริษัทฯ ไม่ให้มีโอกาสเข้าแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม และยังเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับผู้เสนอราคารายหนึ่งรายใดอย่างชัดเจน อันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 ซึ่งก่อนหน้าที่จะมาร้องทุกข์นี้บริษัทฯ ได้มีการร้องเรียนเรื่องที่ไม่ถูกต้องนี้ยังผู้รับผิดชอบตามกฎหมายมาโดยตลอด แต่กลับไม่มีการดำเนินการใดๆ จึงขอให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ ดำเนินการสืบสวนสอบสวนตามพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ.2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติม 

สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์ - มีนบุรี (สุวินทวงศ์) วงเงินไม่เกิน 96,012 ล้านบาท ฉบับลงวันที่ 24 พฤษภาคม 2565 กำหนดการรับซองเอกสารข้อเสนอในวันที่ 27 กรกฎาคม 2565 เวลา 09.00 ถึง 15.00 น. และเปิดซองข้อเสนอในวันที่ 1 สิงหาคม 2565 แสดงถึงเจตนาที่ต้องการจะดำเนินการคัดเลือกต่อไปโดยไม่รอผลของคำพิพากษาศาลปกครองให้ถึงที่สุด และเมื่อดูในรายละเอียดข้อกำหนดคุณสมบัติด้านเทคนิค ประสบการณ์  ผลงาน  ตามประกาศเชิญชวน  ฉบับลงวันที่ 24 พฤษภาคม 2565  มีความแตกต่างไปจากฉบับลงวันที่ 3 กรกฎาคม 2563 ในส่วนที่เป็นสาระสำคัญ คือ
1.  ต้องมีผลงานกับหน่วยงานของรัฐบาลไทย
2.  ผลงานต้องแล้วเสร็จ
3.  ผู้รับเหมาต้องเป็นนิติบุคคลไทยรายเดียว หรือกลุ่มนิติบุคคลไทยถือหุ้นรวมกันแล้วไม่น้อยกว่าร้อยละ 51 ฯลฯ  

โดยการกำหนดคุณสมบัติใหม่นี้ ทำให้กลุ่มนิติบุคคลของบริษัทฯ ที่เคยมีคุณสมบัติสามารถเข้าแข่งขันในโครงการนี้ ไม่สามารถเข้าแข่งขันตามประกาศฉบับหลังนี้ได้ ในขณะที่ข้อกำหนดฉบับหลังนี้กลับไม่มีผลกระทบ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BEM) ซึ่งเป็นผู้ยื่นข้อเสนอคู่แข่งขันรายเดียวของบริษัทฯ ตามประกาศ ฉบับลงวันที่ 3 กรกฎาคม 2563 ที่ยังคงสามารถยื่นข้อเสนอตามประกาศฉบับลงวันที่ 24 พฤษภาคม 2565 ได้

ซึ่ง รฟม.และคณะกรรมการคัดเลือกทราบดีว่า ด้วยคุณสมบัติและรายละเอียดที่กำหนดขึ้นใหม่นี้ จะทำให้กลุ่มนิติบุคคลของบริษัทฯ ขาดคุณสมบัติและไม่สามารถเข้าร่วมแข่งขันราคาตามประกาศเชิญชวนฉบับใหม่ได้ ข้อกำหนดดังกล่าวจึงเป็นการกำหนดเงื่อนไขหลักเกณฑ์ เพื่อกีดกันกลุ่มนิติบุคคลของบริษัทฯ และเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับผู้เสนอราคาคู่แข่งอีกรายอย่างชัดเจน 

นายสุรมนต์ กล่าวด้วยว่า จากสาระสำคัญทั้งหมด ทำให้วันนี้บริษัทฯ จึงได้มอบอำนาจให้ผมมาร้องทุกข์กล่าวโทษเพื่อขอให้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ตรวจสอบและพิจารณาดำเนินคดีอาญาแก่ผู้กระทำผิด ผู้สนับสนุน ตามความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ ที่มิให้มีการแข่งขันราคากันอย่างแท้จริงและเป็นธรรม ช่วยเหลือ เอื้อประโยชน์แก่ผู้เสนอราคารายหนึ่ง หรือ หลายรายให้เป็นผู้มีสิทธิทำสัญญา หรือ เพื่อกีดกันผู้เสนอราคารายใดมิให้มีโอกาสเข้าแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม

รวมทั้งขอให้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนว่ามีเจ้าหน้าที่ผู้ใดรู้หรือมีพฤติการณ์ปรากฏแจ้งชัดว่า ควรรู้ว่าการดำเนินการเสนอราคาในครั้งนั้นมีการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 แล้วละเว้นไม่ดำเนินการเพื่อให้มีการยกเลิกการดำเนินการเกี่ยวกับการเสนอราคาในครั้งนั้นด้วยหรือไม่

ซึ่งความผิดที่ได้มีการร้องทุกข์กล่าวโทษในครั้งนี้เป็นการกระทำที่เข้าลักษณะความผิด ตามประกาศ กำหนดรายละเอียดของการกระทำความผิดที่เป็นคดีพิเศษ ของคณะกรรมการคดีพิเศษ (ฉบับที่ 8) พ.ศ. 2565 ที่กำหนดให้คดีความผิดตามกฎหมายว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ  ที่มีหรือมีมูลน่าเชื่อว่ามีการกระทำความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาเพื่อเป็นผู้มีสิทธิทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐ ซึ่งมีวงเงินหรือมูลค่าตั้งแต่สามสิบล้านบาทขึ้นไป เป็นคดีพิเศษตามมาตรา 21 วรรคหนึ่ง (1) แห่งพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 และหากต้องส่งให้ คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณา ขอให้ร้องขอต่อ คณะกรรมการ ป.ป.ช. มอบหมายให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ เป็นผู้ดำเนินการตามมาตรา 28 วรรคท้าย ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 ด้วย​