กรุงศรีฟินโนเวต ชูงบลงทุน 2.5 พันล้าน เฟ้นหา"สตาร์ตอัป" ปั้นสู่ยูนิคอร์น
"กรุงศรีฟินโนเวต" ครึ่งปีหลัง 65 ทุ่ม 2.5 พันล้าน เดินหน้าลงทุนสตาร์ตอัป ทั้งลงทุนตรง-ผ่าน 2 กองทุน "ฟินโนเวต -ฟินโนเวิร์ส" เพิ่มผลตอบแทน-รองรับสู่การเป็นดิจิทัลแบงก์กิงของธนาคาร เล็งตั้งกองทุนใหม่ต้นปีหน้า ระดมทุนอีก "พันล้าน"
นายแซม ตันสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท กรุงศรี ฟินโนเวต จำกัด ในเครือธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า สำหรับแผนการลงทุนของกรุงศรี ฟินโนเวต ในช่วงที่เหลือปีนี้ มีเม็ดเงินลงทุนราว 2,000-2,500 ล้านบาท จากที่ผ่านมาใช้เงินลงทุนไปแล้วราว 2,500-3,000 ล้านบาท จากเงินลงทุนรวมทั้งสิ้น 5,000 ล้านบาท
สำหรับ "กองทุนฟินโนเวนเจอร์ ฟันด์ I" กำลังพิจารณาการเข้าลงทุนอีก 4 กิจการ เป็นธุรกิจสตาร์ตอัปกลุ่มยานยนต์ ฟินเทค อีคอมเมิร์ซ ทั้งในไทย เวียดนาม และเอเชียแปซิฟิก ตามเป้าหมายลงทุนครบ 12 กิจการในปีนี้ เป็นเงินลงทุนรวม 1,000 ล้านบาท
ส่วนกองทุน FINNOVERSE Investment Plan มีเม็ดเงินลงทุนรวม 1,000 ล้านบาท เป็นเงินลงทุนโดยตรงของกรุงศรี ฟินโนเวต มีเป้าหมายการลงทุนปีละ 300 ล้านบาท ในระยะเวลา 3 ปี (ปี 2565 -2567 ) ในกิจการที่เกี่ยวเนื่องกับเทคโนโลยีบล็อกเชน และ Decentralized Technology Fund เพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานในระบบการจัดการรองรับสู่การเป็นดิจิทัลแบงก์กิงของธนาคาร ไม่ว่าจะเป็นระบบบล็อกเชน DeFi และอื่นๆ โดยปัจจุบันกำลังพิจารณาการลงทุนเพิ่มอีก 3 กิจการ หลังจากได้ลงทุนแล้วใน 2 กิจการได้แก่ ZIPMEX และ ADDX
นายแซม กล่าวว่า ในช่วงต้นปีหน้า ยังมีแผนจัดตั้งกองทุนใหม่ ระดมเงินลงทุนไม่เกิน 1,000 ล้านบาท ผ่าน Finnoventure Private Equity เป็นกองที่ 2 มุ่งสนับสนุนสตาร์ตอัปไทยในระดับ Seed stage ให้สามารถแจ้งเกิดสู่ระดับยูนิคอร์นได้ ขณะที่ผู้ลงทุนยังได้รับผลตอบแทนสูงกว่าการลงทุนในระดับซีรีย์ A ที่ให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 25% ต่อปี
"ที่ผ่านกลุ่มสตาร์ตอัปเริ่มมีจำนวนน้อยลง อาจเป็นเพราะภาวะการลงทุนโดยรวมไม่เอื้ออำนวย ทำให้การเข้าไปลงทุนของ VC จึงต้องพิจารณารอบคอบยิ่งขึ้น หันมาเน้นกลุ่มสตาร์ตอัปที่มีแผนงานสร้างกำไรชัดเจน มากกว่ากลุ่มที่มีเม็ดเงินการลงทุนขนาดใหญ่เท่านั้น รวมถึงจะต้องหันมาพิจารณาการลงทุนในระดับที่ต่ำกว่าซีรีย์ B มากยิ่งขึ้น เพราะกลุ่มที่จะสามารถขึ้นสู่ระดับซีรีย์ B หรือ A มีน้อยลง"
