PTTGC - ขาดทุนจากการป้องกันความเสี่ยง

PTTGC - ขาดทุนจากการป้องกันความเสี่ยง

คาดว่ากำไรสุทธิใน 2Q ที่ 1.2 พันลบ.(EPS 0.27 บาท) ลดลง 72% qoq และ 95% yoy ธุรกิจโรงกลั่นถูกกระทบจากผลขาดทุนจากการป้องกันความเสี่ยง คาดว่าการดำเนินงานใน 3Q จะดีขึ้นเนื่องจากไม่มีการปิดซ่อมบำรุง และอาจพลิกมีกำไรจากการป้องกันความเสี่ยง

ยังคงแนะนำ ถือ และราคาเป้าหมาย 50 บาท จาก PBV ปี FY22F ที่ 0.7x คิดเป็น PE ที่ 12.4x

 

คาดว่ากำไรสุทธิใน 2Q จะอยู่ที่ 1.2 พันลบ. ลดลง 72% qoq และ 95% yoy

คาดผลประกอบการของธุรกิจโรงกลั่นจะแข็งแกร่ง โดยที่ market GRM เพิ่มขึ้นเป็น US$20/bbl นำโดย crack spread ที่เพิ่มขึ้นของน้ำมันดีเซล PTTGC จะบันทึกกำไรจากสต็อกน้ำมัน 2.3 พันลบ. เนื่องจากป้องกันความเสี่ยงไว้ 50% ของปริมาณยอดขาย (22 ล้าน bbl) ในช่วง 2Q-4Q22 70% เป็นน้ำมันดีเซล ประเมินว่าบริษัทจะขาดทุนจากการป้องกันความเสี่ยง US$360 ล้าน (1.28 หมื่นลบ.) คาดว่ากำไรธุรกิจ Olefins ลดลง qoq โดยคาดว่าอัตราการใช้กำลังการผลิตของ crackers จะลดลงเหลือ 75% เนื่องจากมีการปิดซ่อมบำรุง cracker  1 ล้าน ton (39 วัน) ใน 2Q ขณะที่คาดว่าอัตราการใช้กำลังการผลิตของโรงงาน PE จะลดลงเหลือ 90% ทั้งนี้ ราคาของ HDPE, LLDPE และ LDPE เพิ่มขึ้น 1-3% qoq โดยราคา HDPE เพิ่มขึ้นเป็น US$1,341/t, ราคา LLDPE เพิ่มขึ้นเป็น US$1,383/t และราคา LDPE เพิ่มขึ้นเป็น US$1,658/t ในขณะที่กำไรของธุรกิจ Aromatics น่าจะดีขึ้น qoq โดยเราคาดว่า EBITDA จะอยู่ที่ 420 ลบ. เนื่องจาก spread ของ PX และ BZ เพิ่มขึ้น เงินบาทที่อ่อนค่าลงทำให้ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน 2.0 พันลบ.

 

 

 

 

 

 

 

3Q จะดีขึ้นเพราะไม่มีการปิดซ่อมบำรุง และอาจมีกำไรจากการป้องกันความเสี่ยง

Spread ของน้ำมันดีเซลของ PTTGC เมื่อสิ้นงวด 2Q จะทำให้บริษัทต้องบันทึกผลขาดทุนจากการป้องกันความเสี่ยงที่รับรู้แล้ว US$50/bbl และผลขาดทุนจากการป้องกันความเสี่ยงที่ยังไม่รับรู้ US$30/bbl โดยอิงจากกราฟของ spread น้ำมันดีเซลในตลาดซื้อขายล่วงหน้า แต่หลังจากนั้น US$28-30 ดังนั้น บริษัทอาจจะพลิกจากที่มีผลขาดทุนจากการป้องกันความเสี่ยงมามีกำไรจากการป้องกันความเสี่ยงใน 3Q แทน นอกจากนี้ เรายังคาดว่า PTTGC จะเพิ่มสัดส่วนของ gas feedstock เป็น 78% ใน 3Q จากระดับเฉลี่ยที่ 74% ใน 1H เนื่องจาก gas cracker 1 ล้านตันกลับมาเดินเครื่องผลิตแล้ว ซึ่งจะทำให้ margin ของ olefins และอนุพันธ์ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม PTTGC มีกำหนดจะปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่นนาน 50 วันใน 4Q

 

คงคำแนะนำ ถือ และราคาเป้าหมายที่ 50 บาท บริษัทกำลังเผชิญช่วงที่ยากลำบาก

กำลังการผลิต PE ใหม่จะลดลงเหลือ +6 ล้านตันในปี 2023 จาก +10 ล้านตันในปี 2022 ซึ่งเป็นสัญญาณว่าแนวโน้มอุตสาหกรรมน่าจะดีขึ้นในปีหน้า ในขณะที่ภาวะเศรษฐกิจโลกที่อ่อนแอจะยังคงกด margin ของปิโตรเคมีให้ยังอยู่ในระดับต่ำ ทั้งนี้ ราคาเป้าหมายของเราที่ 50 บาท อิงจาก PBV ที่ 0.7x  (ROE ที่ 5.8%) คิดเป็น PE ปี FY22F ที่ 12.4x