Rebound หุ้นรายงานพิเศษ KEX (18 ก.ค. 65)

Rebound หุ้นรายงานพิเศษ KEX (18 ก.ค. 65)

วันศุกร์ที่ผ่านมา ระหว่างชั่วโมงการซื้อขายดัชนีปรับตัวลงต่ำสุดราว -19 จุด แต่มีแรงซื้อกลับในช่วงเย็น ทำให้ดัชนีลดช่วงลบลง นำโดยการปรับตัวขึ้นของกลุ่มค้าปลีก ขณะที่หุ้น Big Cap. ในกลุ่มพลังงาน และธนาคาร ที่ปรับตัวลงไปมากในระหว่างวัน ก็ลดช่วงลบลงเช่นกัน

โดยปัจจัยกดดันตลาดคาดมาจากเงินบาทที่อ่อนค่าต่อเนื่อง ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,533.37 จุด -3.45 จุด -0.22% มูลค่าการซื้อขาย 64,657 ลบ. ต่างชาติ -1,063.84 ลบ. TFEX -27,988 สัญญา ตราสารหนี้ -1,749.03 ลบ.

 

ปัจจัยบวก

+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดพุ่งขึ้น 658.09 จุด +2.15% ได้แรงหนุนจากการเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน ข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง อาทิ ยอดค้าปลีกในเดือนมิ.ย. ดีดตัวขึ้น 1%MoM และดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 51.1 ในเดือนก.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาด และนักลงทุนคลายความวิตกเกี่ยวกับการที่ FED จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากเกินคาด แต่ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีดาวโจนส์ติดลบ 0.2%
+สหรัฐเปิดเผยว่า สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเพิ่มขึ้น 1.4%MoM ในเดือนพ.ค. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.3%MoM หลังจากเพิ่มขึ้น 1.3%MoM ในเดือนเม.ย. สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจพุ่งขึ้น 17.7%YoY บ่งชี้ถึงความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจที่ว่ายอดขายจะเพิ่มขึ้นในช่วงหลายเดือนข้างหน้า
+ บริษัท เดอะนีลเส็น คอมปะนี (ประเทศไทย) จ่ากัด เปิดเผยภาพรวมการใช้เงินโฆษณาในช่วง 1H65 มีมูลค่าที่ 58,365 ล้านบาท +8.11%YoY สื่อทีวียังเป็นสื่อที่มีสัดส่วนของการใช้เงินโฆษณาสูงสุดที่ 54% มูลค่า 31,743 ล้านบาท ลดลง 1.09% สถานการณ์โควิดเริ่มผ่อนคลายทำให้ผู้ประกอบการออกมาทำกิจกรรมการตลาดมากขึ้น

 

ปัจจัยลบ 

- แม้วันศุกร์สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดพุ่งขึ้น 1.81 ดอลลาร์ +1.9% ปิดที่ 97.59 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยร่วงลง 6.9% ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่เช้านี้ราคาน้ำมัน WTI ร่วงหลุดระดับ $97 กังวลจีนหวนล็อกดาวน์หลังติดเชื้อโควิดพุ่ง

- รัฐบาลมาเก๊าจะขยายเวลาล็อกดาวน์ต่อไปจนถึงวันศุกร์ที่ 22 ก.ค. จากเดิมที่จะสิ้นสุดในวันจันทร์ที่ 18 ก.ค. ซึ่งเป็นการสั่งปิดบ่อนคาสิโนทั้งหมดเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 2 ปีเพื่อหยุดยั้งการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
- เศรษฐกิจจีนปี 65 มีแนวโน้มเติบโตลดลงจากเดิม หลังรายงาน GDP 2Q65 ขยายตัวเพียง 0.4%YoY ต่ำกว่าที่คาดการณ์ที่ 1.5%YoY GDP 1H65 เติบโตเพียง 2.5% เนื่องจากจีนล็อกดาวน์เมืองสำคัญในช่วงเดือนมี.ค.-เม.ย. 65 หลังจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในจีนเร่งตัวสูงขึ้น
- ส.อ.ท.คาดครึ่งปีหลังเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวแต่ไม่สมดุล กังวลเงินเฟ้อ-บาทอ่อน-ราคาพลังงานแพงกระทบต้นทุน น่าเป็นห่วงกลุ่ม SME
+/- FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนักเพียง 30% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 1.00% และให้น้ำหนัก 70% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% หลังจากมหาวิทยาลัยมิชิแกนเปิดเผยผลสำรวจของผู้บริโภคต่ำกว่าครั้งก่อนหน้า
+/- ศบค. รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส โควิด-19 ในประเทศพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2,025 ราย เสียชีวิต 18 ราย

 

แนวโน้มตลาดวันนี้

คาดดัชนีในวันนี้รีบาวนด์ตามดาวโจนส์หลังจากที่ปรับตัวลงติดต่อกัน 3 วันทำการจากความกังวลเรื่องเฟดเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ย ขณะที่ราคาน้ำมันเริ่มปรับตัวขึ้นช่วยหนุนหุ้นกลุ่มพลังงาน และปัจจัยทางเทคนิคเริ่มเข้าสู่ภาวะ Oversold สนับสนุนการรีบาวนด์ มองกรอบการเคลื่อนไหวในวันนี้ที่ 1,527-1,545 จุด

 

กลยุทธ์การลงทุน  

• กนง.มีโอกาสปรับขึ้นดอกเบี้ยช่วงครึ่งปีหลัง + หุ้นแบงก์ได้ประโยชน์จากธปท.เลิกเพดานจ่ายปันผลและทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้นเราชอบแบงก์ใหญ่ KBANK BBL KTB TISCO
• กังวลโควิด-19 ระลอกใหม่ : BH BDMS CHG BCH PRINC WPH
• หุ้นเด่น IAA Consensus : BBL BEM CPN KBANK
• ค่า Ft ขึ้นขณะที่ต้นทุนพลังงานปรับตัวลง : GPSC BGRIM GULF

 

 

 

หุ้นรายงานพิเศษ

                                                                  KEX “Neutral”
                                                    Bloomberg Consensus 19.75 บาท

•งวด 1Q65 รายงานขาดทุน 491 ลบ. พลิกขาดทุนจาก 1Q64 ที่กาไร 303 ลบ. แต่ขาดทุนลดลงจาก 4Q64 ที่ขาดทุน 604 ลบ. โดยขาดทุนจากปีก่อนจากการปรับใช้กลยุทธ์ลดราคาค่าบริการตั้งแต่ช่วง 3Q64 แต่ปรับดีขึ้นจากไตรมาสก่อนจากการบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น

•ผบห.คาดผลประกอบการอาจพลิกมีกำไรภายในปี 2565 โดยตั้งเป้ารายได้เติบโต 20%YoY และปริมาณการจัดส่งพัสดุ +30%YoY รวมทั้งจะปรับใช้กลยุทธ์ Smart pricing lower pressure คือการปรับเพิ่มค่าบริการบนสถานการณ์การแข่งขันที่เริ่มคลี่คลายลง นอกจากนี้ บริษัทจับมือกับพันธมิตรใหม่หลายราย เพื่อเปิดบริการใหม่ๆ อาทิ Kerry Cool และ Kerry XL เป็นต้น

•ปรับกลยุทธ์ภายใต้สถานการณ์น้ำมันที่เร่งขึ้นแรงในปีนี้ : เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. 65 บริษัทปรับค่าบริการเป็นแบบ Additional Fuel Charge คือเก็บค่าน้ำมันส่วนเพิ่ม โดยมีรายละเอียด คือ 1) หากราคาน้ำมันดีเซล <= 30 บาทต่อลิตร ไม่เก็บค่าน้ำมันส่วนเพิ่ม 2) หากราคาน้ำมันดีเซลอยู่ในช่วง 31-34 บาทต่อลิตร เก็บค่าน้ำมันส่วนเพิ่ม 2 บาทต่อกล่องพัสดุ และ 3) หากราคาน้ำมันดีเซล > 34 บาท โดยทุกๆการเพิ่มขึ้น 2 บาทต่อลิตร จากราคาน้ำมันที่ 34 บาท จะเก็บค่าน้ำมันส่วนเพิ่ม 1 บาท (จากค่าน้ำมันส่วนเพิ่มในข้อ 2)

ความเห็น เรามีมุมมองเป็นกลางต่อแนวโน้มผลประกอบการในปี 2565 โดยแม้รายได้จะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นประกอบกับการผลักภาระต้นทุนน้ำมันบางส่วนให้กับผู้บริโภค อย่างไรก็ดี บริษัทยังเผชิญกับการแข่งขันในตลาด และผลกระทบของราคาน้ำมันที่เร่งขึ้นแรง ทำให้ผลประกอบการอาจฟื้นตัวได้ไม่ชัดเจน โดย Bloomberg Consensus คาดปี 65 ขาดทุนราว 786 ลบ. จากปี 64 ขาดทุน 47 ลบ.

 

หุ้นมีข่าว

(+) SCGP (Bloomberg consensus 2.69 บาท) ได้ลงนามในสัญญาเพื่อเข้าซื้อหุ้นในสัดส่วน 100% ใน Peute Recycling B.V. (Peute) ซึ่งเป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจรีไซเคิลวัสดุบรรจุภัณฑ์ครอบคลุมทั้งกระดาษรีไซเคิลและพลาสติกรีไซเคิล ตั้งอยู่ที่ Dordrecht ประเทศเนเธอร์แลนด์ โดยการเข้าซื้อหุ้นข้างต้นได้ดำเนินการสำเร็จเรียบร้อยแล้ว SCGP ได้ชำระเงินสำหรับการเข้าถือหุ้นรวมเป็นเงินทั้งสิ้น 78.19 ล้านยูโร หรือประมาณ 2,875 ล้านบาท (ที่มา ทันหุ้น)

(+) VIBHA (Bloomberg consensus 2.69 บาท) มองครึ่งปีหลัง 2565 ผู้ป่วย OPD และ IPD ฟื้นตัวแรง แถมรายได้โควิด-19 หนุน พร้อมรับทรัพย์จากเงินลงทุนและส่วนแบ่งกำไรต่อเนื่อง เล็งซื้อกิจการเพิ่ม เชื่อธุรกิจโรงพยาบาลโอกาสเติบโตต่อ เดินหน้าขยายโรงพยาบาลตามแผน ส่วนปีนี้คาดรายได้เติบโตได้ดี เทียบกับปี 2562 (ที่มา ทันหุ้น)

(+) SK (Bloomberg consensus - บาท) ส่งสัญญาณปริมาณงานครึ่งปีหลังฟู เดินหน้าเทิร์นอะราวด์เต็มตัว อวดแบ็กล็อกแน่น 180 ล้านบาท กลุ่มงานผลิตภัณฑ์คอนกรีตขายดี ตุนงานเต็มหน้าตัก 130 ล้านบาท เล็งจรดปากกาเซ็นงานเพิ่ม 70 ล้านบาท จ้องชิงเค้กก้อนใหญ่ 3 พันล้านบาท เติมพอร์ต (ที่มา ทันหุ้น)

(+) ILM (Bloomberg consensus 21.50 บาท) ส่งซิกครึ่งปีหลังยอดขายสาขาเดิมยังโตดีเป็นตัวเลขสองหลัก สวนกระแสเงินเฟ้อ ชี้ปรับตัวรับโควิด ต้นทุนได้ เตรียมเปิดสาขา Index Livingmall รูปแบบมิกซ์ยูส และคอมมูนิตี้ มอลล์ ลิตเติ้ลวอล์ก มูลค่าลงทุนราว 300 ล้านบาท (ที่มา ทันหุ้น)