’พลังงาน’ จ่อเก็บเงินกลุ่มเบนซินเข้ากองทุน

กลุ่มเบนซินลง 3 บาท ตามราคาตลาดโลก "พลังงาน" เล็งเก็บเงินกลุ่มผู้ใช้เบนซินเข้าเสริมสภาพคล่อง "กองทุนน้ำมัน" ส่งผลให้ราคาหน้าปั๊มอาจไม่ลดลงมากตามกลไกตลาด

นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศล่าสุด ที่ลดลงลิตรละ 3 บาท เป็นไปตามกลไกตลาดโลกเพราะนักลงทุนมีความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัวกระทบดีมานด์น้ำมัน ประกอบกับประเทศจีนล็อกดาวน์ป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในหลายเมือง ทำให้ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ลดต่ำกว่า 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ขณะที่ราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลยังไม่ปรับลดราคา เนื่องจากสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) ยังอุดหนุนลิตรละ 5.56 บาท คิดเป็น 373 ล้านบาทต่อวัน อุดหนุนแอลพีจีวันละ 45 ล้านบาท ส่วนความคืบหน้าเรื่องการกู้เงินจากสถาบันการเงินเพื่อเสริมสภาพคล่อง และการเจรจาโรงกลั่นเพื่อหาเงินเข้ามาเสริมสภาพคล่องของกองทุนนั้น คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในเดือนก.ค. 2565
นายพรชัย จิรกุลไพศาล ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) เปิดเผยว่า ยอมรับว่าในช่วงนี้เงินบาทอ่อนค่าค่อนข้างมาก 36 บาทกว่าต่อดอลลาร์ ซึ่งการอ่อนค่าของเงินบาททุก 1 บาท ส่งผลให้ราคาน้ำมันแพงขึ้น 20 สตางค์ แต่การปรับลดราคาขายปลีกน้ำมันเบนซินในประเทศลงลิตรละ 3 บาท มีผลวันที่ 3 ก.ค.2565 เวลา 05.00 น. เป็นผลจากทิศทางราคาน้ำมันตลาดโลกปรับลดลงต่อเนื่อง จากความกังวลภาวะเศรษฐกิจโลกอาจเข้าสู่ภาวะถดถอยทั่วโลก เห็นได้จากราคาน้ำมันเบนซินตลาดสิงคโปร์ วานนี้ (6 ก.ค.2565) อยู่ที่ 129 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดลงจากเทียบกับวันที่ 30 มิ.ย.2565 อยู่ที่ 149.53 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
แหล่งข่าวจากกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า หากราคาน้ำมันโลกยังลดต่อเนื่อง ทางกองทุนน้ำมันอาจพิจารณาเก็บเงินจากผู้ใช้กลุ่มเบนซินเข้ากองทุนน้ำมันเพิ่มเพื่อเสริมสภาพคล่อง จากปัจจุบันกองทุนน้ำมันติดลบกว่า 100,000 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้ราคาลดลงอีกไม่มากนัก