Voyager Digital แพลตฟอร์ม 'คริปโท' ยื่นล้มลายลาย เจ้าหนี้กว่าแสนราย

Voyager Digital แพลตฟอร์ม 'คริปโท' ยื่นล้มลายลาย เจ้าหนี้กว่าแสนราย

Voyager Digital แพลตฟอร์ม 'คริปโท' ยื่นล้มลายลาย คาดมีเจ้าหนี้กว่าแสนราย พร้อมแผนฟื้นฟู จากผลกระทบต่อเนื่อง3ACผิดนัดชำระหนี้เงินกู้-คริปโท มีมูลค่าลดลงกว่า 60%

สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า บริษัทโวยาเจอร์  ดิจิทัล (Voyager Digital, LLC) โบรกเกอร์คริปโทรายใหญ่ ได้ยื่นฟ้องล้มละลายในบทที่ 11 ของวันที่ 6 ก.ค. 2565 โดยมีเจ้าหนี้มากกว่า 100,000 รายและมีทรัพย์สินและหนี้สิน มูลค่าตั้งแต่ประมาณ 1 พันล้านดอลลาร์ถึง 10 พันล้านดอลลาร์ โดยการยื่นฟ้องล้มละลายครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากบริษัท ระงับการถอน ซื้อขาย และฝากเงินไปยังแพลตฟอร์ม เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เนื่องจากขาดสภาพคล่อง

สตีเฟน เออร์ลิช  ประธานกรรมการบริหารของ บริษัทโวยาเจอร์ ระบุว่า การปรับโครงสร้างองค์กรใหม่อย่างครอบคลุมนี้ เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการปกป้องทรัพย์สินบนแพลตฟอร์มและเพิ่มมูลค่าสูงสุดสำหรับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมด รวมถึงลูกค้าด้วย แผนการปรับโครงสร้างองค์กรที่เสนอ จะดำเนินการคืนเงินให้กับลูกค้า โดยรายได้จะมาจากการชำระคืนของ 3AC , หุ้นสามัญในบริษัทที่ปรับโครงสร้างใหม่ และโทเคนโวยาเจอร์ 

"ความผันผวนและเหตุการณ์ต่างๆที่สร้างผลกระทบเป็นวงกว้างต่อเนื่องในตลาดคริปโท ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา รวมทั้งการผิดนัดชำระหนี้ของ Three Arrows Capital ในการกู้ยืมจาก Voyager Digital, LLC ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของบริษัท ทำให้เราต้องดำเนินการอย่างรอบคอบและเด็ดขาดในตอนนี้"

โวยาเจอร์เป็นผู้เสียหายรายล่าสุดท่ามกลางตลาดคริปโทที่อยู่ในขาลง ในเดือนนี้ หลังจากเซลเซียสเป็นแพลตฟอร์มรายแรกที่ระงับการถอนเงิน ตามมาด้วย Three Arrows Capital และการแลกเปลี่ยนอื่น ๆ อีกหลายแห่งที่ประกาศว่าขาดสภาพคล่องอย่างรุนแรง

 

เมื่อสัปดาห์ที่แล้วโวยาเจอร์ กล่าวว่าได้ออกหนังสือแจ้งการผิดนัดกองทุนป้องกันความเสี่ยงคริปโทในสิงคโปร์ ของบริษัท Three Arrows Capital (3AC) เนื่องจากล้มเหลวในการชำระเงินตามสัญญาเงินกู้จำนวน 15,250 บิตคอยน์ หรือ ประมาณ 324 ล้านดอลลาร์ และเหรียญสเตเบิลคอยน์ มูลค่า 350 ล้านดอลลาร์  ต่อมาในสัปดาห์นั้น 3AC ได้ยื่นฟ้องล้มละลายในบทที่ 15

การล้มละลายนี้เกิดขึ้นเนื่องจากตลาดคริปโท มีมูลค่าลดลงกว่า 60% ในปีนี้ สิ่งนี้ทำให้ผู้เล่นที่มีเลเวอเรจมากเกินไปหลายรายเผชิญกับการเรียกมาร์จิ้น ซึ่งพวกเขาไม่สามารถทำได้เนื่องจากราคาคริปโทที่ลดลง