"หุ้นไทย" ปิดตลาด ร่วง 18.97 จุด โบรกเกอร์คาด พรุ่งนี้ดัชนีผันผวนต่อเนื่อง
"หุ้นไทย" ปิดตลาด (5 ก.ค. 65) ที่ 1,541.30 จุด ปรับตัวลดลง 18.97 จุด หรือ 1.22 % จากความกังวลเงินเฟ้อเดือนมิ.ย. พุ่ง 7.66% กดดัน กนง.ขึ้นดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้ - เงินบาทอ่อนค่า - ผู้ติดเชื้อโควิดจีนเพิ่ม บล.เอเซีย พลัส คาดพรุ่งนี้ดัชนีผันผวนต่อเนื่อง ในกรอบ 1,515-1,550 จุด
“หุ้นไทย” ปิดตลาด (5 ก.ค.65) ที่ 1,541.30 จุด ปรับตัวลดลง 18.97 จุด หรือ 1.22% มูลค่าการซื้อขาย 76,693.20 ล้านบาท
5 อันดับ หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด คือ
1. ADVANC ปิดที่ 204.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00%
2. PTTEP ปิดที่ 162.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.20%
3. BDMS ปิดที่ 26.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 %
4. JM ปิดที่ 69.25 บาท ลดลง 6.73%
5.AOT ปิดที่ 70.25 บาท ลดลง 0.1.06%
นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์(บล.)เอเซีย พลัส เปิดเผยว่าดัชนีหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลดลงแรงในช่วงบ่าย เนื่องจากความกังวลการประกาศตัวเลขเงินเฟ้ออยู่ที่ 7.66% สร้างแรงกดดันให้คณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) ขึ้นอัตราดอกเบี้ย
โดยฝ่ายวิจัย บล.เอเซีย พลัส คาดว่าปีนี้กนง.จะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยดอกเบี้ยในการประชุมทั้ง 3 ครั้งที่เหลือของปีนี้ ครั้งละ 0.25% ทำให้สิ้นปีนี้ดอกเบี้ยของไทย รวมทั้งหมดจะอยู่ที่ระดับ 1.25% รวมถึงเงินบาทที่อ่อนค่า และจำนวนผู้ติดเชื้อโควิดของจีนกลับมาสูงขึ้น
สำหรับแนวโน้มดัชนีหุ้นไทยในวันพรุ่งนี้ (6 ก.ค.2565) ยังคงผันผวนต่อเนื่องจากปัจจัยที่กดดันดัชนีในวันนี้ คาดว่าอยู่ในกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,515 จุด และแนวต้านอยู่ที่ 1,550 จุด โดยกลยุทธ์การลงทุนแนะถือเงินสด 20% ของพอร์ตเพื่อรอจังหวะเข้าซื้อครั้งละ 5-10% เน้นหุ้นกลุ่มเปิดเมือง หุ้นที่ได้รับประโยชน์จากดอกเบี้ยขาขึ้น และเงินบาทอ่อนค่า
พิสูจน์อักษร โดย....สุรีย์ ศิลาวงษ์