Selective Buy (ประจำวันที่ 5 กรกฎาคม 2565)

Selective Buy  (ประจำวันที่ 5 กรกฎาคม 2565)

ตลาดหุ้นวานนี้ SET ปิดลบ 12 จุด นักลงทุนยังกังวลกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยหลังสหรัฐแจ้งตัวเลขดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือน มิ.ย. ลดลงสู่ระดับ 52.7 ต่ำสุดในรอบ 2 ปี

ประกอบกับนักลงทุนลดความเสี่ยงเพื่อรอดูตัวเลขอัตราเงินเฟ้อของไทยที่จะประกาศในวันนี้ หากตัวเลขยังพุ่งสูงกว่าระดับ 7% จะกดดันให้แบงก์ชาติเร่งขึ้นดอกเบี้ย

 

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้     

ประเมิน SET แกว่งตัว 1,550 – 1,570 จุด แม้จะได้ sentiment บวกตลาดหุ้นรอบบ้านดีดตัวขึ้นรวมถึงราคาน้ำมันดิบขึ้นยืน 110 US/Barrels อีกครั้ง อย่างไรก็ตามความกังวลเศรษฐกิจถดถอยจากการเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางทั่วโลกเพื่อสกัดเงินเฟ้อ และ Fund flow ต่างชาติที่ไหลออกจะเป็นแรงกดดันดัชนี ดังนั้นยังคงแนะนำ Selective buy กลุ่มที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวเช่นเดิม

 

กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy

         PTTEP TOP IVL SPRC BCP BANPU ราคาน้ำมันดิบฟื้นตัวขึ้น

         AOT AAV BA CENTEL ERW MINT มาตรการสนับสนุนการท่องเที่ยวในประเทศ

         ASIAN GFPT กลุ่มส่งออกได้อานิสงส์เงินบาทอ่อนค่า

 

หุ้นแนะนำวันนี้

PTTEP (ปิด 159 ซื้อ/เป้า 185 บาท) ราคาน้ำมันดิบกลับมาฟื้นตัว (Brent) นักลงทุนยังกังวลกับภาวะซัพพลายน้ำมันดิบตึงตัว เนื่องจากหลายชาติสมาชิกของกลุ่ม OPEC ประสบปัญหาการผลิต เป็น Sentiment บวกโดยตรงกับ PTTEP นอกจากนี้ยังไม่มี Overhang เหมือนโรงกลั่นและ PTT

ASIAN (ปิด 17.20 ซื้อ/เป้า 23 บาท) ได้ประโยชน์ค่าเงินบาทกลับมาอ่อนค่าหนุนแนวโน้มงบ 2Q22 ดีต่อเนื่อง และ 3Q22 เป็น High season, ปลายปีเตรียม IPO บริษัทลูกในธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง (AAI) เข้าตลาดฯ

 

 

 

บทวิเคราะห์วันนี้

         ADVANC (ปิด 200 ปรับเป็นซื้อ/เป้าใหม่ 253 เดิม 230 บาท), Banking sector

 

ประเด็นสำคัญวันนี้

(+) กลุ่มน้ำมัน – ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ฟื้นตัวต่อเนื่องกังวลซัพพลายตึงตัว: ตลาดน้ำมัน NYMEX ปิดทำการแต่ตลาดน้ำมันดิบ Brent ยังเปิดทำการปกติซึ่งเมื่อคืนราคาปรับตัวขึ้นอีก 1.87 ดอลลาร์ (+1.6%) ปิดที่ระดับ 113.5ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เป็นผลจากกลุ่ม OPEC ผลิตน้ำมันดิบได้ต่ำกว่าเป้าที่กำหนดหลังจากหลายชาติสมาชิกประสบปัญหาการผลิตโดยเฉพาะลิเบีย

(-) โควิด-19 ยังไม่จบอาจมีอาฟเตอร์ช็อกคาดจุดพีครอบนี้จะอยู่ประมาณเดือน ก.ย.: กรมควบคุมโรคฯ เตือนอย่าพึ่งประมาทจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 อาจกลับมาเพิ่มขึ้นหรือเป็นอาฟเตอร์ช็อกตามมาหลังจากที่มีการระบาดใหญ่ไปแล้วในช่วงต้นปีซึ่งการระบาดรอบนี้อาจจะทยอยเพิ่มขึ้นจากการผ่อนคลายมาตรการ เปิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจ และเปิดประเทศ คาดว่าจุดพีคจะอยู่ในช่วงเดือน ก.ย. เป็นลบกับหุ้นธีมเปิดเมือง

(-) วันนี้ติดตามตัวเลขเงินเฟ้อของไทยหากพุ่งแรงจะกดดันให้แบงก์ชาติเร่งขึ้นดอกเบี้ย: เบื้องต้น Consensus คาดอัตราเงินเฟ้อทั่วไปของไทยเดือน มิ.ย.จะพุ่งขึ้นแตะระดับ 7.5-7.6% เพิ่มขึ้นจากระดับ 7.1% ในเดือน พ.ค. นับเป็นการเพิ่มขึ้นทำสถิติสูงสุดในรอบ 13 เดือน เป็นสัญญาณลบต่อภาพรวม ศก. และอาจจะกดดันให้แบงก์ชาติเร่งขึ้นดอกเบี้ยเพื่อควบคุมถือเป็นลบต่อ Sentiment การลงทุนในตลาดหุ้นโดยเฉพาะกลุ่มที่ Sensitive ต่อดอกเบี้ย อาทิ อสังหาฯ และ ไฟแนนซ์