Focus หุ้นรายตัว (วันที่ 4 กรกฎาคม 2565)

Focus หุ้นรายตัว (วันที่ 4 กรกฎาคม 2565)

ตลาดหุ้นเมื่อวันศุกร์ SET ปิดบวก 4 จุด นักลงทุนเข้าซื้อหุ้นคืนหลังจากที่ดัชนีลดลงแรงในช่วง 2 วันก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังกังวลกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย และระมัดระวังการลงทุนก่อนวันหยุดสุดสัปดาห์

ทำให้มูลค่าการซื้อขายโดยรวมค่อนข้างเบาบาง สัปดาห์หน้าติดตามการแก้ปัญหา Trade War จีนกับสหรัฐในวันที่ 6 ก.ค.

 

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้     

ประเมิน SET แกว่งตัว 1,565 – 1,580 จุด แม้ภาวะตลาดจะได้ sentiment บวกตลาดหุ้นรอบบ้านที่ดีดตัวขึ้น อย่างไรก็ตามการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธ.กลางทั่วโลกเพื่อสกัดเงินเฟ้อส่งผลให้มีความกังวลเศรษฐกิจหดตัวโดยล่าสุดดัชนี PMI ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายของสหรัฐเดือนมิ.ย.ปรับตัวลงต่ำสุดในรอบเกือบ 2 ปีนั้นส่งผลให้ Fund flow ชะลอตัว ดังนั้นแนะนำซื้อกลุ่มที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวต่อไป

 

กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy

          GPSC BGRIM GULF SCGP SCC อานิสงส์ราคาน้ำมันดิบอ่อนตัวลง

          AOT AAV BA CENTEL ERW MINT มาตรการสนับสนุนการท่องเที่ยวในประเทศ

          TU ASIAN CFRESH GFPT กลุ่มส่งออกได้อานิสงส์เงินบาทอ่อนค่า

 

หุ้นแนะนำวันนี้

ASIAN (ปิด 17.60 ซื้อ/เป้า 23 บาท) ได้ประโยชน์ค่าเงินบาทกลับมาอ่อนค่าหนุนแนวโน้มงบ 2Q22 ดีต่อเนื่อง และ 3Q22 เป็น High season, ปลายปีเตรียม IPO บริษัทลูกในธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง (AAI) เข้าตลาดฯ

BEM (ปิด 8.80 ซื้อ/เป้า 10 บาท) จำนวนผู้เข้าใช้บริการรถไฟฟ้าใต้ดิน และ ทางด่วนเพิ่มขึ้นใกล้แตะระดับก่อนโควิด-19 หนุนรายได้และกำไรทยอยฟื้นตัว, ประมูลงานรถไฟฟ้าสายสีส้ม (CK + BEM) มีโอกาสชนะประมูลมากที่สุด(เพราะงานส่วนใหญ่เป็นงานใต้ดิน)

 

 

 

บทวิเคราะห์วันนี้

         TU (ปิด 16.60 ปรับลดเป็นถือ/เป้าใหม่ 19 เดิท 22.2 บาท), Energy sector

 

ประเด็นสำคัญวันนี้

(-) PMI ภาคการผลิตของสหรัฐลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปี สัญญาณเตือน ศก. ที่ต้องระวัง: เมื่อวันศุกร์ถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) รายงาน ดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือน มิ.ย. ลดลงสู่ระดับ 53  จาก 56.1 ในเดือน พ.ค. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 54.9  นับเป็นการลดลงทำสถิติต่ำสุดในรอบ 2 ปี การลดลงของกิจกรรมการผลิตเป็นสัญญาณเดือนถึงการชะลอตัวของ ศก. โดยเฉพาะหากตัวเลขดังกล่าวหลุดต่ำกว่าระดับ 50 ถือว่าไม่ดี

(+) น้ำมันดิบฟื้นตัว ตลาดยังกังวลกับภาวะอุปทานตึงตัว: ราคาน้ำมันดิบ WTI กลับมาเพิ่มขึ้น 2.67 ดอลลาร์ (+2.5%) ปิดที่ระดับ 108.43 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ตลาดยังกังวลกับภาวะอุปทานตึงตัว หลังจากบริษัทเนชันแนล ออยล์ คอร์ปอเรชั่นของรัฐบาลลิเบียประกาศภาวะสุดวิสัยที่ท่าเรือขนถ่ายน้ำมันเนื่องจากการประท้วงและการปิดล้อมกระทบต่อการผลิตและการส่งออกน้ำมันดิบของประเทศ

(+) สัปดาห์นี้ ติดตามอัตราเงินเฟ้อของไทย, Trade war จีนสหรัฐ และ Nonfarm payrolls สหรัฐ: โดยวันที่ 5 ก.ค. ไทยจะรายงานอัตราเงินเฟ้อหากตัวเลขยังพุ่งสูงจะกดดันให้แบงก์ชาติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย, และวันที่ 6 ติดตาม Trade war ระหว่างจีนกับสหรัฐจะยุติลงหรือไม่หลังจากที่กำแพงภาษีในยุคของ โดนัล ทรัมป์ จะสิ้นสุดลง และปลายสัปดาห์ 8 ก.ค. ติดตามตัวเลข การจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐ(Nonfarm Payrolls) เพื่อวัความแข็งแกร่งของตลาดแรงงาน