หมดเวลาตั้งคำถามกับ Recession ถึงเวลาลงทุนกลุ่ม Healthcare

หมดเวลาตั้งคำถามกับ Recession ถึงเวลาลงทุนกลุ่ม Healthcare

ภาวะ Recession อาจไม่ใช่ภาวะที่สดใสนักในการลงทุน แต่หากเราวางแผนการลงทุนให้ดี เลือกกลุ่มที่รายได้ไม่ผันผวนตามภาวะตลาด อย่างเช่นกลุ่ม Healthcare ก็ยังสามารถสร้างผลตอบแทนในการลงทุนได้ดี

ในตลาดลงทุนช่วงนี้ มีการพูดถึงแนวโน้มการเกิด Recession มากขึ้นเรื่อย ๆ โดยล่าสุด Bloomberg Consensus มองว่า มีโอกาสที่จะเกิดภาวะ Recession ในช่วง 2 ปีข้างหน้า ถึง 98% ในขณะที่นักวิเคราะห์ต่างออกมาให้ความเห็นที่หลากหลายว่า Recession จะเกิดขึ้นเมื่อใด ทั้งเกิดขึ้นแล้ว และกำลังจะเกิดขึ้นในช่วงปีนี้ หรือปีหน้า แต่ประเด็นว่าภาวะ Recession จะเกิดขึ้นเมื่อใด ไม่สำคัญเท่ากับการเตรียมตัวว่าพร้อมรับมือกับภาวะ Recession แล้วหรือยัง 

Recession หรือ ภาวะเศรษฐกิจถดถอย เป็นภาวะที่เศรษฐกิจเติบโตช้า ตัวเลข GDP ลดลงอย่างน้อย 2 ไตรมาสเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า และมีอัตราการว่างงานสูง ซึ่งจากตัวเลข GDP ของสหรัฐอเมริกา ไตรมาส 1/2565 พบว่า ชะลอตัวลง -1.6% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า และเมื่อพิจารณากับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ที่เร็วและแรงเพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องก็มีโอกาสที่เศรษฐกิจจะชะลอตัวลงต่อ โดย Fed ได้ปรับลดคาดการณ์การเติบโต GDP ปีนี้ ลงเป็น 1.7% ขณะที่ปรับคาดการณ์เงินเฟ้อ PCE ขึ้นเป็น 5.2% และปรับเพิ่มคาดการณ์อัตราการว่างงานปี 2022 - 2024F ขึ้นไปที่ 3.7% 3.9% และ 4.1% ตามลำดับ สิ่งเหล่านี้สะท้อนถึงภาพของ Recession ที่ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ 

อย่างไรก็ตาม ในภาวะ Recession ยังมีหุ้นบางกลุ่มที่สามารถ Outperform ตลาดหุ้นโดยรวมได้ในภาวะนี้ โดยหุ้นกลุ่มที่มัก Outperform ในช่วง Recession เป็นหุ้นกลุ่ม Defensive ได้แก่ Consumer Staples (สินค้าอุปโภคบริโภค) Utilities และ Healthcare กลุ่มอุตสาหกรรมเหล่านี้เป็นกลุ่มที่จำเป็นสำหรับการดำรงชีวิต ทำให้แม้เศรษฐกิจจะอยู่ในช่วงถดถอย อัตราเงินเฟ้อสูง และดอกเบี้ยนโยบายเป็นขาขึ้น กลุ่มอุตสาหกรรมเหล่านี้ก็ยังสามารถสร้างรายได้ได้อย่างสม่ำเสมอ และมีอำนาจในการต่อรองด้านราคา (Pricing Power) สามารถผลักภาระต้นทุนที่สูงขึ้นไปยังผู้บริโภคได้ ทำให้รายได้และกำไรของกลุ่มนี้เติบโตได้แม้ในภาวะ Recession 

กลุ่ม Healthcare เป็นกลุ่มที่โดดเด่นมากที่สุดในภาวะนี้ จากข้อมูลในอดีตพบว่า ในช่วง 30 ปี ที่ผ่านมา มี Recession เกิดขึ้นรอบใหญ่ ๆ ประมาณ 4 รอบ ในแต่ละรอบผลกำไรโดยรวมของบริษัทจดทะเบียนในดัชนี S&P 500 ปรับลดลง แต่กำไรของกลุ่ม Healthcare ยังคงเติบโตได้ และในระยะยาวยังเติบโตได้อย่างต่อเนื่องในอัตราที่สูงกว่าภาพรวมอย่างชัดเจน โดยในช่วง 30 ปีมานี้ บริษัทจดทะเบียน S&P 500 มีอัตราการเติบโตของกำไร 6.9% ต่อปี ในขณะที่อัตรากลุ่ม Healthcare มีอัตราการเติบโตของกำไรเฉลี่ยอยู่ที่ 10.2% ต่อปี และหากเป็นกลุ่ม Innovative Healthcare ยิ่งเห็นภาพการเติบโตที่ชัดเจน โดย Grand View Research คาดการณ์ว่า ตลาดของ Biotechnology ในช่วงปี 2022 - 2030 จะมีอัตราการเติบโต (CAGR) อยู่ที่ 13.9% และ Digital Healthcare จะมีอัตราการเติบโต (CAGR) อยู่ที่ 27.7% 

ภาวะ Recession อาจไม่ใช่ภาวะที่สดใสนักในการลงทุน แต่หากเราวางแผนการลงทุนให้ดี เลือกกลุ่มที่รายได้ไม่ผันผวนตามภาวะตลาด อย่างเช่นกลุ่ม Healthcare ก็ยังสามารถสร้างผลตอบแทนในการลงทุนได้ หากจังหวะที่เข้าลงทุนอยู่ในช่วงที่ Recession เกิดขึ้นแล้ว ก็เท่ากับว่าได้ลงทุนในระดับราคาที่ต่ำ และหาก Recession จบเร็ว หุ้นกลุ่มนี้ก็พร้อมปรับตัวขึ้นโดดเด่น หรือในกรณีที่ Recession กินระยะเวลาที่นานขึ้น การลงทุนในกลุ่ม Healthcare ที่แข็งแกร่งก็ยังสามารถช่วยสร้างผลตอบแทนได้ เพราะสุดท้ายแล้ว ไม่มีใครรู้แน่ชัดว่า Recession เกิดขึ้นแล้วหรือยัง หรือจะเกิดขึ้นเมื่อใด จนกว่าเราจะผ่านช่วง Recession ไปแล้ว 

หากท่านใดมีข้อข้องใจเกี่ยวกับการวางแผนการเงินของตนเอง สามารถส่งคำถามของท่านมาได้ที่ [email protected] I บทความโดย ณัฐพร ธรวงศ์ธวัช AFPT Wealth Manager ธนาคารทิสโก้