หุ้น BLESS เปิดแผนขายไอพีโอ รุกขยายโครงการแนวราบ

        กำลังเตรียมเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไป (IPO) จำนวน 200 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 1.40 บาท มูลค่าตราไว้ (Par) 0.50 บาท โดยคาดเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ในวันที่ 7 ก.ค.2565

        โดย ปัจจุบัน BLESS ผู้ประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่อยู่อาศัยเพื่อขาย มีโครงการอสังหาริมทรัพย์หลากหลายรูปแบบ ประกอบด้วย บ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮม และคอนโดมิเนียม Low Rise ภายใต้ชื่อโครงการ Blessington, Mellizo Park, Bless Town, Blessity Park, Bless Ville และ Bleisure

            “ชัยวัฒน์ โกวิทจินดาชัย” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เบล็สแอสเสท กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ BLESS ให้สัมภาษณ์ “กรุงเทพธุรกิจ” ว่า การเข้าระดมทุนในครั้งนี้ !ถือเป็น “การปลดล็อก” ข้อจำกัดในการลงทุนเพิ่มโอกาส และขีดความสามารถให้บริษัทขยายการลงทุน สะท้อนผ่านเงินระดมทุนจำนวน 270.34 ล้านบาท บริษัทนำเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ ไปใช้เป็นเงินลงทุนในการ “ซื้อที่ดิน” และ “พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์” จำนวน 220 ล้านบาท พร้อมชำระคืนหนี้เงินกู้ยืม จำนวน 15 ล้านบาท และเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน จำนวน 35.34 ล้านบาท

“เงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้ประมาณ 270.34 ล้านบาทนั้น บริษัทจะนำเงิน ไปใช้ในการขยายธุรกิจ เช่น ใช้เป็นเงินลงทุนในการซื้อที่ดิน และพัฒนาโครงการอสังหาฯ ใหม่ๆ โดยจะเน้นโครงการบ้านเดี่ยวระดับกลาง-บน และนำไปชำระคืนหนี้เงินกู้ยืม ส่วนที่เหลือ บริษัทจะนำไปเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงานของบริษัท”

 

      สอดคล้องกับแผนธุรกิจของบริษัทที่มุ่งเน้นสร้างการเติบโตในช่วง 3 ปีข้างหน้า เน้นขยายโครงการแนวราบทั้งหมด เนื่องจากโครงการแนวราบมีความต้องการ (ดีมานด์) ในระดับสูง ถือเป็นการสร้างโอกาสการเติบโตธุรกิจในอนาคต โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าระดับรายได้ปานกลาง-ระดับบน โดยบริษัทวางเป้าหมายรายได้เติบโตไม่น้อยกว่า 20% ต่อปี!!โดยบริษัทเน้นกลยุทธ์สามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้ทุกความต้องการในยุค New Normal

โดยในปี 2565 บริษัทตั้งเป้ารายได้จะเติบโตไม่น้อยกว่า 20% จากปีก่อนที่ทำได้ 795 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทมีโครงการอสังหาริมทรัพย์ อาทิ โครงการทาวน์โฮม Bless Ville บางปูที่รอรับรู้รายได้ปีนี้จำนวนมากประกอบกับปัจจุบันบริษัทยังมียอดขายที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) อีกประมาณ 400 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยเข้ามาภายในช่วง 3-6 เดือนข้างหน้า รวมถึงยังมีอานิสงส์จากมาตรการภาครัฐ เช่น การลดค่าโอน-ค่าจดจำนอง ที่มาช่วยผู้ประกอบการ และลูกค้ามากขึ้น

      อย่างไรก็ตาม บริษัทเน้นพัฒนาโครงการที่อยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ณ วันที่ 31 ธ.ค.2564 บริษัทมี โครงการที่ปิดการขายแล้ว จำนวน 6 โครงการ มีโครงการที่อยู่ในระหว่างการขาย 8 โครงการ มูลค่ารวม 3,000-4,000 ล้านบาท และโครงการในอนาคต จำนวน 1 โครงการ

     “การเข้าระดมทุน และจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ maiในครั้งนี้ จะเพิ่มโอกาสการเติบโตให้กับธุรกิจของ BLESS เป็นอย่างมาก ทำให้ฐานะทางการเงินมีความแข็งแกร่ง มีต้นทุนทางการเงินที่ถูกเมื่อเทียบกับคู่แข่งนอกตลาด”

     สำหรับ “จุดเด่น” ที่สำคัญอีกประการหนึ่งที่ทำให้ BLESS มีความน่าสนใจ ซึ่งสามารถรักษาระดับอัตรากำไรขั้นต้นให้อยู่ในระดับกว่า 30% ในช่วงที่ผ่านมา เนื่องจากมีบริษัทย่อยที่ประกอบธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ได้แก่ บริษัท เบล็สบิลด์ จำกัด (BB) ทำให้บริษัทสามารถควบคุมคุณภาพ มาตรฐาน ต้นทุนการก่อสร้างและปรับเปลี่ยนการบริหารงานภายในได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    ทั้งนี้ คาดว่าภาพรวมตลาดอสังหาฯ ของไทย ปีนี้จะเจริญเติบโตมากขึ้นกว่า 10-15% จากปีก่อน สะท้อนผ่านภาพทุกบริษัทเริ่มกลับมาลงทุนเปิดโครงการใหม่กันมากขึ้น จากเดิมตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ผู้ประกอบการชะลอการเปิดโครงการลงจำนวนมาก

    ท้ายสุด “ชัยวัฒน์” บอกไว้ว่า เราเป็นอสังหาริมทรัพย์หลากหลายรูปแบบประกอบด้วย บ้านเดี่ยว,บ้านแฝด,ทาวน์โฮม และคอนโดมิเนียม Low Rise ดังนั้น จึงสามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้ทั้งหมด และคาดว่าภาพรวมตลาดอสังหาฯ ของไทยปีนี้ จะเจริญเติบโตมากขึ้นกว่า 10-15% จากปีก่อน เนื่องจากทุกบริษัทเริ่มกลับมาเปิดโครงการใหม่กันมากขึ้น ดังนั้น บริษัทจึงมั่นใจว่าผลดำเนินงานจะเติบโตต่อเนื่อง

 

 

พิสูจน์อักษร โดย....สุรีย์  ศิลาวงษ์