สัญญาณชีพจร “ท่องเที่ยว “ โฟกัสหุ้นกลาง-เล็ก ฟื้นแรง

สัญญาณชีพจร “ท่องเที่ยว “  โฟกัสหุ้นกลาง-เล็ก ฟื้นแรง

นับถอยหลังวันที่ 1 ก.ค.2565 ตามประกาศประเทศไทย เข้าสู่การเปิดประเทศมากขึ้น และแทบจะกลายเป็นการใช้ชีวิตปกติตามวิถีใหม่ โดยเฉพาะการเดินทางเข้าออกประเทศที่เปิดทางให้การท่องเที่ยวฟื้นตัวได้อย่างเต็มที่ในครึ่งปีหลัง

    ทั้งการประกาศประชาชนสามารถถอดหน้ากากอนามัยในที่พื้นที่โล่งแจ้งได้ สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะสามารถดื่มแอลกอฮอล์ และเปิดบริการได้ถึง 02.00 น.และยกเลิกมาตรการคัดกรองอุณหภูมิในสถานที่อาคาร 

     ที่ไฮไลต์สำคัญคือ การประกาศให้ชาวต่างชาติ สามารถเดินทางเข้าประเทศไทยง่ายขึ้น ด้วยการยกเลิกลงทะเบียน Thailand Pass ทั้งชาวไทย และต่างชาติ  แต่ยังแสดงเอกสารการฉีดวัคซีนครบโดส หรือผลตรวจเชื้อโควิดเป็นลบ ยกเลิกคัดกรองอุณหภูมิรวมไปถึงการกำหนดเงินประกัน

การยกเลิกThailand Pass ถือว่ามีส่วนสำคัญการกระตุ้นภาคท่องเที่ยว ซึ่งสอดคล้องกับมาตรการผ่อนคลายในต่างประเทศไปทิศทางเดียวกับทั่วโลก เนื่องจากหลายประเทศผ่อนคลายข้อจำกัดการเข้าประเทศ

      ย้อนดูจำนวนนักท่องเที่ยวของไทย  ม.ค. - พ.ค.2565 รวมอยู่ที่ 1.31 ล้านคน เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ  3,676% จากช่วงเดียวกันปีก่อน  ขณะที่ทั้งปี 2564 มีนักท่องเที่ยว 4.27 แสนคน  โดย สศค.คาดว่าปี 2565 จะมีนักท่องเที่ยว 7 ล้านคน เติบโต 1,536% จากปี 2564

ขณะที่ สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) ได้คาดการณ์การจราจรทางอากาศและจำนวนผู้เดินทางจากต่างประเทศมายังประเทศไทยในปี 2565 จะเกินกว่า 10 ล้านคน โดยผู้เดินทางเข้าไทยของนักท่องเที่ยวต่างชาติสะสม ต้ังแต่วันที่ 1 ม.ค. - 26 มิ.ย.2565 รวม 2,027,230 คน โดยคนอินเดียเข้ามาไทยมากสุด 220,962 คน

    นอกจากนี้ประเทศที่เป็นความหวังการท่องเที่ยวไทยอย่าง "จีน"  เริ่มผ่อนคลายมาตรการ   โควิดมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการประกาศของรัฐบาลจีนลดข้อกำหนดในการกักตัวสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าสู่ประเทศจีนเหลือเพียง 10 วัน จากเดิมที่ต้องกักตัวเป็นเวลานานถึง 3 สัปดาห์ หลังกรุงปักกิ่ง และเซี่ยงไฮ้ไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ และถือเป็นครั้งแรกที่ทั้งสองเมืองไม่พบไวรัสโควิด-19 นับตั้งแต่วันที่ 19 ก.พ.ที่ผ่านมา

      รวมทั้ง สำนักการบินพลเรือนแห่งประเทศจีน เริ่มให้สายการบินสัญชาติไทยมีการเดินทางได้ 2 เที่ยวบินต่อสัปดาห์เริ่มจากกลุ่ม นักเรียน - นักศึกษา และคนทำงาน  ซึ่งมีสายการบินของไทย 2 แห่งตอบรับการจัดการบินแล้ว

     ปัจจัยดังกล่าวทำให้มีกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวได้ผลดีทั้งทางตรง และทางอ้อม   หุ้นใหญ่ในกลุ่มท่องเที่ยว และราคาหุ้นขึ้นมาตอบรับ  CENTEL และ ERW จะได้รับประโยชน์ดังกล่าวเนื่องจากมีโรงแรมส่วนใหญ่อยู่ในไทย 80% และ 90% ตามลำดับ ขณะที่ AOT จะได้ประโยชน์จากผู้ใช้บริการท่าอากาศยานทั้งขา เข้า และขาออก รวมถึงรายได้จากการลงจอดของเครื่องบิน

     บริษัทหลักทรัพย์ (บล.)เคทีบีเอสที  การยกเลิก Thailand pass ในวันที่ 1 ก.ค. ซึ่งจะเป็นการปลดล็อกมาตรการการผ่อนคลายท่องเที่ยวได้มีประสิทธิภาพมากที่สุด เพราะปัจจุบันมีขั้นตอน และระยะเวลารอคอยในการอนุมัติจากทางการไทยในการเข้าประเทศไทยค่อนข้างนานราว 5-7 วัน

    ประเด็นเรื่องการยกเว้นวีซ่าประเภทท่องเที่ยว และการขยายเวลาพำนักให้เป็น 45 วัน จากเดิมที่ 15 วัน คาดว่าปัจจัยทั้งหมดจะช่วยกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวต่างชาติได้เพิ่มขึ้นอีกมาก ซึ่งจะเป็น upside เพิ่มต่อประมาณการนักท่องเที่ยวในปี 2565 ที่คาดว่าจะอยู่ที่ 6.0 ล้านคน จากปีก่อนที่ 4.3 แสนคน (4 เดือนแรกปี 65 อยู่ที่ 8 แสนคน)

       นอกจากนี้คาดว่าหลังจากนี้จะมีการเร่งประกาศโควิดเป็นโรคประจำถิ่น ซึ่งจะยิ่งเป็นตัวช่วยปลดล็อกให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาได้ง่ายมากขึ้น ซึ่งคล้ายกับการเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบ โดยหุ้นในกลุ่มโรงแรมที่จะได้รับผลบวกจากข่าวดังกล่าวจากมากไปน้อยเรียงตามสัดส่วนรายได้ในประเทศไทย ได้แก่ ERW, CENTEL, MINT, SHR

      สำหรับหุ้นกลุ่ม Tourism  ยังให้น้ำหนักการลงทุนเป็น "มากกว่าตลาด" ชอบ ERW CENTEL, AOT จากประเด็นนี้ซึ่งให้น้ำหนักการลงทุนเป็น "มากกว่าตลาด" โดยจากประเด็นนี้ ERW (ซื้อ/เป้า 3.90 บาท) และ CENTEL (ซื้อ/เป้า 50.00 บาท) จะได้ sentiment เชิงบวกมากสุด

       ขณะที่ MINT (ซื้อ/เป้า 44.00 บาท) เพราะคาดไตรมาส 2 - ไตรมาส 4 ปี 65 จะพลิกกลับมาเป็นกำไรทุกไตรมาส และจะโตเด่นเหนือกลุ่ม นอกจากนี้ชอบ AOT (ซื้อ/เป้า 76.00 บาท) ได้ประโยชน์โดยตรงจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว

      ด้าน บล.โนมูระ พัฒนสิน ให้น้ำหนักไปที่ตัวเลือกลงทุนกลุ่ม Laggard อาทิ VGI, MAKRO, KTC, BEM, MAJOR , HTC หรือหุ้นที่มีโอกาสฟื้นตัวเร็ว กว่าตลาดคาด เช่น JUBILE, CPN, CPALL, CRC, SABINA, ILM

     รวมไปถึงการประกาศ “ถอดแมสก์” ในที่โล่ง บวกต่อ BH, BDMS ที่ช่วงฤดูกาลโรคทางเดินหายใจจะกลับมาใกล้เคียงช่วงปกติ แต่ความคาดหวังถัดไปการผ่อนคลายการตรวจ ATK อาจจะลบต่อกลุ่มจำหน่ายสินค้าเวชภัณฑ์

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์    ศิลาวงษ์