ทอท.ฟังความเห็นเพิ่มโอน 3 สนามบิน หลัง ครม.ตีกลับ
ทอท.รับฟังความเห็นเพิ่ม หลัง ครม.ตีกลับแผนโอนย้าย 3 สนามบินภูมิภาค คาดแล้วเสร็จ มิ.ย.นี้ ก่อนเริ่มเทคโอเวอร์ใช้สิทธิบริหารปี 2565 ชูโมเดล “DUO Airport” จับคู่สร้างฮับการบิน
รายงานข่าวจากบริษัท ท่าอากาศยานไทยจำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยถึงความคืบหน้าการโอนสิทธิบริหารท่าอากาศยานภูมิภาคของกรมท่าอากาศยาน (ทย.) จำนวน 3 แห่ง ได้แก่ ท่าอากาศยานอุดรธานี กระบี่ และบุรีรัมย์ โดยระบุว่า เรื่องดังกล่าวได้เข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 14 มิ.ย.ที่ผ่านมา แต่ยังไม่ได้รับการอนุมัติ เนื่องจาก ครม.มีความเห็นให้ขอข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเปิดรับฟังความคิดเห็นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
“ขณะนี้ ทอท.อยู่ระหว่างเตรียมดำเนินการจัดทำข้อมูล โดยก่อนที่จะนำแผนเสนอเข้าที่ประชุม ครม.นั้น จะต้องขอรับฟังความเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อน หากไม่มีเรื่องที่ต้องแก้ไขเพิ่มเติม หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเห็นได้ก็สามารถเสนอเข้า ครม.ได้เลย คาดว่าจะเสนอไปยัง ครม.ภายในเดือนนี้”
อย่างไรก็ดี ที่ผ่านมาท่าอากาศยานทั้ง 3 แห่ง ได้มีการขอใบอนุญาตท่าอากาศยานแล้ว หาก ครม.อนุมัติแผนโอนสิทธิก็จะเข้าสู่กระบวนการในการถ่ายโอนใบอนุญาต ที่ปัจจุบันยังอยู่ระหว่างการเจรจาของทั้ง ทอท.และ ทย.เพื่อดำเนินการพิจารณาเงินชดเชย ทย. คาดว่าจะดำเนินการเจรจาแล้วเสร็จภายในปี 2565 หลังจากนั้น ทอท.จะใช้เวลาราว 3 เดือน ในการเตรียมความพร้อมเข้าไปบริหารท่าอากาศยานทั้ง 3 แห่ง และให้พนักงานของ ทอท.เข้าไปทำงานทันที
สำหรับเป้าหมายการเข้ารับสิทธิบริหารท่าอากาศยานทั้ง 3 แห่ง ทอท.มั่นใจว่าจะเป็นโอกาสเพิ่มน่านฟ้าในการให้บริการ เนื่องจากในปัจจุบันมีท่าอากาศยานที่อยู่ในความดูแลของ ทอท.ทั้งในแถบภาคเหนือและภาคใต้ แต่ยังไม่มีท่าอากาศยานที่อยู่ในแถบภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งถือว่าเป็นภูมิภาคที่มีประชากรเยอะที่สุดในไทย ดังนั้นการได้สิทธิบริหารท่าอากาศยานครั้งนี้จะเปิดประตูน่านฟ้าทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ
นอกจากนี้ วิธีดำเนินการบริหารท่าอากาศยานหลังได้รับโอนสิทธิ ทอท.จะดำเนินการในรูปแบบ DUO Airport ปรับใช้มาจากความสำเร็จของท่าอากาศยานหลายแห่ง โดยเป็นการจับคู่ท่าอากาศยาน เช่น ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและท่าอากาศยานดอนเมือง, ท่าอากาศยานเชียงใหม่และท่าอากาศยานเชียงราย เป็นการสร้างศูนย์กลาง (ฮับ) ด้านการบินของภูมิภาค
