อ่อนตัว หุ้นแนะนำ MAJOR ERW DOD (9 มิ.ย. 65)

อ่อนตัว หุ้นแนะนำ MAJOR ERW DOD (9 มิ.ย. 65)

คาดดัชนีฯ อ่อนตัว แนวต้าน 1,643 / 1,651 จุด (EMA 50 วัน) แนวรับ 1,630 / 1,620 จุด ทางเทคนิค ดัชนีฯ ยังคงมีสัญญาณเป็นลบ หลังจากหลุดแนวรับสำคัญที่ 1,636 จุด ทำให้ระยะสั้นดัชนีฯ ยังคงมีแนวโน้มอ่อนตัว จนกว่าจะมีการฟอร์มตัวสร้าง Reversal Pattern อีกครั้ง

แนะนำ Trading Buy หุ้นกลุ่ม Domestic Play ที่ได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของกาบริโภคในประเทศ หุ้นแนะนำ MAJOR ERW DOD สำหรับปัจจัยที่ต้องติดตามวันนี้ ได้แก่ รายงานดุลการค้าเดือน พ.ค. ของจีน, การประชุม ECB และตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ

 

กลยุทธ์ลงทุน แนะนำ

+ KTX Portfolio: พอร์ต Mid-Small Cap แนะนำ AH BAFS DOD SAT TMT PORT SMT TOG ส่วนพอร์ต Big Cap แนะนำ CRC AWC BEC JMART TCAP JMT CENTEL BH AOT EA MINT KTB PLANB (แนะนำ ขาย CRC ซื้อ MEGA)

+ Monthly Stock Picks: CHAYO GFPT JMART JMT ORI BEM BH CRC GUNKUL MINT

+ Short Term/Tactical Play: Trading Buy

+ กลุ่มที่ได้ประโยชน์จากแนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้น: กลุ่มธนาคารและกลุ่มประกันภัยและประกันชีวิต KBANK SCB TIPH BLA

+ กลุ่มได้ประโยชน์จากขาขึ้นของราคาพลังงานโลก: กลุ่ม Commodities Play PTTEP TOP ESSO BCP KSL AGE

+ กลุ่มได้ประโยชน์จากาการเปิดเมืองเปิดประเทศ: MBK MAJOR CPN CENTEL ERW BA AAV AOT

+ กลุ่มที่เกี่ยวข้องกับกัญชงและกัญชา: DOD STPI CBG ICHI SAPPE RS TACC

+ SET50 / SET100 Index Rebalance: +JMART JMT AAV ASK BYD FORTH ONEE PSL TIPH –RATCH STGT BPP MAJOR RS SIRI STEC SYNEX TTA

 

ปัจจัยบวก

+ กัญชง-กัญชา: ประกาศกระทรวงสาธารณสุขให้พืชกัญชาไม่จัดเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 นับตั้งแต่วันที่ 9 มิ.ย. 2022 ทำให้ทุกส่วนของกัญชา กัญชง ไม่เป็น ยาเสพติด ยกเว้นสารสกัดที่มีสาร THC เกิน 0.2% โดยน้ำหนัก ซึ่งส่งผลบวกต่อหุ้นที่ทำธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับกัญชา

 

 

 

ปัจจัยลบ

- OECD: ออกมาปรับลด GDP ของโลกลงและเตือนว่าเศรษฐกิจโลกมีความเสี่ยงหลายด้าน เหลือเพียงขยายตัว +3% จากที่เคยมองไว้ที่ขยายตัว +4.5% เมื่อปลายปี 2021

- Thailand: มุมมองของคณะกรรมการกนง. ที่เริ่มเปลี่ยนแปลงไป จากการเน้นกระตุ้นเศรษฐกิจมาเป็นการรักษาเสถียรภาพทดแทน พร้อมทั้งเริ่มส่งสัญญาณทยอยปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมวานนี้ จะเป็นลบต่อกลุ่มเงินทุนและหลักทรัพย์ ลิสซิ่ง พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ส่งออก (จากแนวโน้มเงินบาทที่อาจจะไม่อ่อนค่าอย่างที่ผ่านมา)

 

ประเด็นสำคัญ

       - Opportunity Day: SO BTS +BTSGIF SC CHOW SISB NWR RAM

       - จีน: ดุลการค้าเดือน พ.ค. โดย Consensus คาด +USD58bn. (Vs เดือน เม.ย. +USD51.12bn.)

       - EU: การประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) คาดยังคงอัตราดอกเบี้ยที่ 0%

       - USA: ผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงาน โดย Consensus คาดที่ 2.1 แสนราย

 

Global Market Summary: วันทำการที่ผ่านมา

+ ตลาดหุ้นไทยกลับมาปิดบวก: ดัชนีฯ แกว่งตัวในกรอบ 1,631.12-1,641.08 จุด ก่อนปิดตลาดที่ 1,636.89 จุด +4.97 จุด วอลุ่มซื้อขาย 5.7 หมื่นล้านบาท นำบวกโดยกลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร +0.69% กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม +0.68% กลุ่มพลังงานและสาธารณูปโภค +0.51% กลุ่มขนส่งและโลจิสติกส์ +0.34% หุ้นบวก >4% CPH TRUE YUASA UTP CPL DTAC NEX BE8 AFC CPR CM ARIN VARO TCJ CMO ECL PIMO หุ้นลบ >4% BJC SOLAR TVD BM SRICHA KC TRITN

 

- ตลาดหุ้นสหรัฐฯ และยุโรปปิดลบ: DJIA -0.81% S&P500 -1.08% NASDAQ -0.73% โดยหุ้น 10 ใน 11 กลุ่มในดัชนี S&P500 ปิดลบ นำโดยกลุ่มอสังหาฯ -2.43% หุ้นกลุ่มวัสดุ -2.10% หลังจากราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นสร้างความกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อและแนวโน้มของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด และกลุ่มเทคฯ หลังยิลด์พันธบัตรสหรัฐฯ 10 ปี พุ่งเหนือ 3.0% ส่วนตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ CAC40 -0.80% DAX -0.76% FTSE -0.08% จากความกังวลเกี่ยวกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง และการคาดการณ์แนวโน้มธุรกิจวาณิชธนกิจที่ซบเซาของเครดิตสวิส ถ่วงหุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลง

+ ราคาน้ำมันดิบและทองคำปิดบวก: WTI +USD2.70 ปิดที่ USD122.11/บาร์เรล Brent +USD3.01 ปิดที่ USD123.58/บาร์เรล จากปริมาณคลังสำรองทางยุทธศาสตร์ลดลงสู่ระดับ 519.3 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือน มี.ค. 1987 แม้ EIA จะรายงานตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบสูงกว่าคาดก็ตาม (+2.02 ล้านบาร์เรล Vs คาด -1.97 ล้านบาร์เรล) ส่วนราคาทองคำปิดบวก 2 วันติดต่อกัน +USD4.40 ปิดที่ USD1,856.50/ออนซ์ จากความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อ หนุนความต้องการซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย

 

ประเด็นสำคัญ

- WHO: WHO ได้รับแจ้งเกี่ยวกับจำนวนผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงทั่วโลกมากกว่า 1,000 ราย โดยไม่นับรวมจำนวนผู้ติดเชื้อในแอฟริกา ซึ่งฝีดาษลิงถือเป็นโรคประจำถิ่นในภูมิภาคดังกล่าว ทางด้านศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ (CDC) ประกาศยกระดับเตือนภัยโรคฝีดาษลิงสู่ระดับ 2 โดยเตือนให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ที่มีแผลตามผิวหนัง รวมทั้งสัตว์ป่วยหรือเสียชีวิต ส่วนผู้ที่มีอาการของโรคก็ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับผู้อื่น และรีบเข้าพบแพทย์ (มีความเสี่ยงกลุ่มท่องเที่ยว หากการแพร่ระบาดลุกลามมากยิ่งขึ้น)

- Thailand: กนง. มีมติ 4 ต่อ 3 เสียง ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0.50% ต่อปี โดยกรรมการเสียงข้างมาก เห็นควรให้คงอัตราดอกเบี้ย เพื่อให้มั่นใจว่าเศรษฐกิจไทยระยะต่อไปจะฟื้นตัวได้ตามคาด ขณะที่กรรมการเสียงข้างน้อย 3 เสียง เห็นควรให้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ต่อปี พร้อมทั้งปรับคาดการณ์เศรษฐกิจไทยปี 2022 เป็น 3.3% เพิ่มขึ้นจาก 3.2% จากเศรษฐกิจใน 1Q22 ออกมาดีกว่าที่คาด ประกอบกับเห็นสัญญาณการท่องเที่ยวกลับมาได้ไวขึ้น ขณะที่ คาดว่าอัตราเงินเฟ้อในปีนี้จะขึ้นไปอยู่ที่ระดับ 6.2% จากเดิมคาดไว้ที่ 4.9% จากผลของราคาพลังงาน โดยเงินเฟ้อจะสูงสุดในช่วง 3Q22 ปีนี้ จากนั้นจะทยอยลดลง และเข้าสู่กรอบเป้าหมำยในปี 2023 ซึ่งทั้งปีคาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 2.5% เพิ่มขึ้นจากประมาณการเดิมที่ 1.7% (+หุ้นกลุ่มธนาคาร ประกันภัยและประกันชีวิต พาณิชย์ และการท่องเที่ยวและสันทนาการ –กลุ่มเงินทุนและหลักทรัพย์ โรงไฟฟ้า และพัฒนำอสังหาริมทรัพย์)

- Thailand: ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน (FETCO Investor Confidence Index) ที่สำรวจในเดือน พ.ค. 2022 พบว่า ดัชนีใน อีก 3 เดือนข้างหน้า อยู่ที่ระดับ 83.91 ลดลง 12.1% จากเดือนก่อนหน้า อยู่ในเกณฑ์ "ทรงตัว" ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 โดยนักลงทุนมองว่าการฟื้นต้วของภาคท่องเที่ยว จะเป็นปัจจัยหนุน ความเชื่อมั่นมากที่สุด ส่วนปัจจัยที่ฉุดความเชื่อมั่นมากที่สุด คือ นโยบายการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด


- OECD: OECD ประกาศปรับลดตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจโลกในปีนี้ โดยได้รับผลกระทบจากการทำสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน รวมทั้งการปิดเมืองและท่าเรือตามนโยบาย COVID-19 เป็นศูนย์ของจีน ซึ่งกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานระหว่างประเทศ ทั้งนี้ OECD คาดว่าเศรษฐกิจโลกจะขยายตัว 3.0% ในปีนี้ ลดลงจากตัวเลขคาดการณ์ 4.5% ในเดือน ธ.ค. 2021 (-กลุ่ม Global Play และกลุ่มส่งออก)

 

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำ Trading Buy (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

หุ้นแนะนำรายสัปดาห์: PSL SPA BLA AGE

หุ้นแนะนำเก็งกำไร: MAJOR ERW DOD

Derivatives: แนะ Wait & see