ก.ล.ต. ผนึก4 องค์กรตลาดทุน ยกระดับความปลอดภัยระบบคอมพิวเตอร์ภาคตลาดทุน

ก.ล.ต. ผนึก4 องค์กรตลาดทุน ยกระดับความปลอดภัยระบบคอมพิวเตอร์ภาคตลาดทุน

ก.ล.ต.ร่วมกับ "สมาคมโบรก- ตลท.- สมาคมบลจ. -สมาคมการค้าผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลไทย ลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการยกระดับศูนย์ประสานรักษาความมั่นคงปลอดภัยระบบคอมพิวเตอร์ ภาคตลาดทุน สนุนผู้ประกอบธุรกิจภาคตลาดทุนให้พร้อมรับมือภัยคุกคามทางไซเบอร์

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ร่วมกับสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย (ASCO) ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สมาคมบริษัทจัดการลงทุน (AIMC) และสมาคมการค้าผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลไทย (TDO) ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการยกระดับศูนย์ประสานการรักษาความมั่นคงปลอดภัยระบบคอมพิวเตอร์ ภาคตลาดทุน (TCM-CERT) ทำหน้าที่เป็น "Sectorial CERT ภาคตลาดทุน" เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบธุรกิจภาคตลาดทุนให้พร้อมรับมือภัยคุกคามทางไซเบอร์

การยกระดับ TCM-CERT เพื่อทำหน้าที่เป็น "Sectorial CERT ภาคตลาดทุน" ตามพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ พ.ศ. 2562 โดยขยายการดำเนินภารกิจให้ครอบคลุม (1) การเฝ้าระวังภัยคุกคามทางไซเบอร์ (2) การรับมือและแก้ไขภัยคุกคามทางไซเบอร์ (3) การสนับสนุนให้เกิดความรู้ความเข้าใจด้านความมั่นคงปลอดภัยทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (Cybersecurity) และ (4) เป็นผู้ประสานงานกับสำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) ที่เป็นหน่วยงานหลักในการเฝ้าระวัง รับมือและแก้ไขภัยคุกคามทางไซเบอร์ของประเทศ รวมทั้งร่วมกับ สกมช. ในการเสริมสร้างบุคลากรในภาคตลาดทุนให้มีความเชี่ยวชาญด้าน Cybersecurity ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อทุกภาคส่วนในตลาดทุน ในการรับมือภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น

นางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า "ความร่วมมือขององค์กรสำคัญภาคตลาดทุน และการประสานงานกับ สกมช. ในด้านการรับมือภัยคุกคามทางไซเบอร์ครั้งนี้ นับเป็นอีกก้าวสำคัญที่จะนำไปสู่การเสริมสร้างความน่าเชื่อถือของภาคตลาดทุนไทย ซึ่ง ก.ล.ต. มีความยินดีและพร้อมให้ความร่วมมือกับทุกภาคส่วน เพื่อประโยชน์ของผู้ประกอบธุรกิจและนักลงทุน

โดยที่ผ่านมา ก.ล.ต. ได้ให้ความสำคัญกับการส่งเสริม สนับสนุนและพัฒนาเพื่อให้ผู้ประกอบธุรกิจในตลาดทุนมีความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์และความพร้อมรับมือภัยคุกคามทางไซเบอร์ (Cyber Resilience) มาอย่างต่อเนื่อง โดยกำหนดเป็นส่วนหนึ่งในแผนยุทธศาสตร์ ก.ล.ต. ด้านการเป็นตลาดทุนดิจิทัล เพื่อส่งเสริมศักยภาพเศรษฐกิจของประเทศ"

นายพิเชษฐ สิทธิอำนวย นายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย กล่าวว่า "สมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทยมีความยินดีที่ได้รับความไว้วางใจเป็นผู้ดำเนินการหลัก ในการยกระดับ TCM–CERT ให้เป็น Sectorial CERT ภาคตลาดทุนโดยมีเป้าหมายเพื่อจัดตั้งและดำเนินการให้มีศูนย์ประสานการรักษาความมั่นคงปลอดภัย ระบบคอมพิวเตอร์ สำหรับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในตลาดทุน และด้วยความร่วมมือของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ทางสมาคมเชื่อมั่นว่าจะช่วยให้ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ในตลาดทุนไทยมีความเข้มแข็งและสร้างความมั่นใจในด้านความปลอดภัยของระบบให้กับนักลงทุนในการลงทุนในตลาดทุนไทย"

นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า "ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยินดีที่ได้ร่วมกับพันธมิตรทุกภาคส่วน ในการยกระดับด้านความมั่นคงปลอดภัยทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (Cybersecurity) ของภาคตลาดทุน ซึ่งปัจจุบันเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ กำหนดนโยบายและดำเนินงานให้เป็นไปตามกฎเกณฑ์ของหน่วยงานกำกับดูแล สอดคล้องตามมาตรฐานสากล นอกจากนี้ยังสร้างความตระหนักรู้ในเรื่อง Cybersecurity แก่ภาคตลาดทุนไทย สะท้อนความมุ่งมั่นของตลาดหลักทรัพย์ฯ ด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่น่าเชื่อถือ เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศและสังคมไทยอย่างยั่งยืน ภายใต้วิสัยทัศน์ "To Make The Capital Market 'Work' for Everyone""

นางชวินดา หาญรัตนกูล นายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน กล่าวว่า "ปัจจุบันเทคโนโลยีถูกนำมาใช้เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ความสะดวก รวดเร็ว ลดต้นทุน ลดทรัพยากร และยกระดับการบริการลูกค้าหรือผู้ลงทุน แต่ในขณะเดียวกันก็มีความเสี่ยงที่อาจตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ลูกค้าหรือผู้ลงทุนซึ่งถือเป็นเป้าหมายสำคัญที่ต้องดูแล ซึ่งภัยคุกคามทางไซเบอร์ก็ไม่มีขีดจำกัดในด้านพรมแดนและโอกาสในการเกิดความเสี่ยง ความร่วมมือในภาคตลาดทุนเพื่อยกระดับการป้องกันและแก้ไขภัยคุกคามทางไซเบอร์ภาคตลาดทุนจาก TCM-CERT เป็น Sectorial CERT เป็นการรวมพลังกันในการยกระดับศักยภาพ และความพร้อมในการประสานความร่วมมือรับมือภัยคุกคามทางไซเบอร์เพื่อช่วยกันดูแลปกป้องผู้ลงทุนทั้งหมดในตลาดทุนเป็นสำคัญ"

นายอัฏฐ์ ทองใหญ่ อัศวานันท์ ประธานสมาคมการค้าผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลไทย กล่าวว่า "ภัยคุกคามทางไซเบอร์เป็นปัญหาของธุรกิจทุกภาคส่วน โดยเฉพาะเมื่อภาคธุรกิจในปัจจุบันได้เข้าสู่ธุรกิจดิจิทัลกันมากขึ้น ซึ่งภัยคุกคามดังกล่าวส่งผลโดยตรงต่อธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลเช่นเดียวกัน การที่ทางสมาคมสินทรัพย์ดิจิทัลไทยเข้าร่วมใน Sectorial CERT จะช่วยให้สมาชิกของสมาคม ได้สามารถร่วมกันวางนโยบายและแลกเปลี่ยนข้อมูลในด้าน Cybersecurity เพื่อความเป็นเอกภาพของธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล และเพื่อเป็นกลไกในการอนุวัตความร่วมมือระหว่างกันของหน่วยงานกำกับดูแลและผู้ประกอบธุรกิจให้มีความสอดคล้อง มีประสิทธิภาพ และช่วยยกระดับความปลอดภัยของธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับดิจิทัลโดยรวม"

นายพีรเดช ตันเรืองพร ประธานสมาคมการค้าผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลไทย กล่าวว่า "ผมดีใจที่ภาครัฐได้เปิดอีกช่องทางหนึ่งให้สมาคม TDO ได้มีโอกาสทำงานร่วมกันกับภาครัฐและอุตสาหกรรมใกล้เคียง ในโลกที่เทคโนโลยีเป็นตัวขับเคลื่อนนวัตกรรมใหม่ ๆ ความเสี่ยงเกิดขึ้นจากเทคโนโลยีก็พัฒนาด้วยความไวไม่แพ้กัน ผมมองว่าการร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนจะเป็นกุญแจหลักในการส่งเสริมและพัฒนาอุตสาหกรรมไปในทิศทางที่ถูกต้อง"