DELTA คาดว่าจะขึ้นตามกระแสโลก (1 มิ.ย. 65)

DELTA คาดว่าจะขึ้นตามกระแสโลก (1 มิ.ย. 65)

ทีมวิจัยของ KGI Taiwan ยังคงมองบวกกับแนวโน้มธุรกิจ data center และรถไฟฟ้า โดยในบทวิเคราะห์อุตสาหกรรมของ KGI Taiwan เรื่อง “IT Hardware: Strong server demand with rising CSP capex” ซึ่งเผยแพร่เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2565

ระบุว่าอุปสงค์ cloud server มีแนวโน้มเป็นบวกตามการเติบโตของงบลงทุน (CAPEX) ซึ่งเป็นไปตามแผน CAPEX ของ CSPs ยักษ์ใหญ่ (Facebook และ Google ตั้งงบ CAPEX ปี นี้เพิ่มขึ้นถึง 59% YoY และ 38% YoY ตามลำดับ) ดังนั้น จึงคาดว่ายอดการส่งออก server ทั่วโลกจะโต 8% ในปีนี้ และ 10% ในปี 2566 (Figure 2)

 

DELTA คาดว่าจะขึ้นตามกระแสโลก (1 มิ.ย. 65)

 

นอกจากนี้ ในบทวิเคราะห์อุตสาหกรรมของ KGI Taiwan เรื่อง “Auto parts sector: EV a clear bright spot amid near-term challenges” ซึ่งเผยแพร่เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2565 ทางทีมเชื่อว่ายานยนต์ไฟฟ้าจะเป็นกลุ่มที่มีแนวโน้มสดใส โดยคาดว่ายอดขาย EV จะโตถึง 65% YoY ในปีนี้เป็น 10.73 ล้านคัน และอัตราการใช้รถ EV (penetration rate) จะอยู่ที่ 13.2% ทั้งนี้ คาดว่ายอดขายรถ EV ทั่วโลกจะโตถึง 34% CAGR (ปี 2564-2568) ดังแสดงใน Figure 4 และคาดว่าอัตราการใช้รถ EV จะเพิ่มขึ้นเป็น 22.8% ในปี 2568 (Figure 5)

 

DELTA คาดว่าจะขึ้นตามกระแสโลก (1 มิ.ย. 65)

 

DELTA คาดว่าจะขึ้นตามกระแสโลก (1 มิ.ย. 65)

เกาะตามกระแสโลก

เราคาดว่า DELTA จะได้อานิสงส์จากกระแสโลก เพราะรายได้จากธุรกิจ data center อยู่ที่ประมาณ 25%ของรายได้รวม และรายได้จากธุรกิจยานยนต์คิดเป็นประมาณ 15% ของรายได้รวม อย่างไรก็ตามเรายังมีความกังวลกับบางประเด็นใน 2Q65 ได้แก่ i) การที่ประเทศจีนใช้มาตรการ lockdown ii) วันหยุดในเทศกาลสงกรานต์ และ iii) กรณีพิพาทระหว่างรัสเซีย และยูเครนซึ่งอาจจะกดดันรายได้ของ DELTA ในไตรมาสที่สอง อย่างไรก็ตาม เงินบาทที่อ่อนค่าลงจะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้อัตรากำไรดีขึ้นได้บ้าง ดังนั้น เราจึงคาดว่ากำไรของ DELTA จะเพิ่มขึ้น YoY แต่ลดลง QoQ ทั้งนี้ เราคาดว่าโมเมนตัมของผล
การดำเนินงาน DELTA จะดีขึ้นในครึ่งหลังของปีนี้จากการเกาะตามกระแสโลก

 

 

Valuation & action

เรายังคงราคาเป้าหมายสิ้นปี 2565 ที่ 480 บาท อิงจาก PER ที่ 62.0x (ค่าเฉลี่ยในอดีต +1.0 S.D.) และ ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” DELTA

 

Risks

ภัยธรรมชาติ, มีการปิดโรงงานนอกแผน, ลูกค้าเปลี่ยนไปสั่งสินค้าจาก supplier รายอื่น, ขาดแคลนวัตถุดิบ, เงินบาทแข็งค่าขึ้น (เราใช้สมมติฐานอัตราแลกเปลี่ยนปี 2565-66 ที่ 33.50 บาท/ดอลลาร์ฯ)