‘ฑีฆาก่อสร้าง’ จ่อไอพีโอ มิ.ย. นำเงินระดมทุนต่อยอดธุรกิจ

‘ฑีฆาก่อสร้าง’ จ่อไอพีโอ มิ.ย.  นำเงินระดมทุนต่อยอดธุรกิจ

อุตสาหกรรมรับเหมาก่อสร้างกำลังฟื้นตัว ! สะท้อนผ่านคาดการณ์ การเติบโตของอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ปี 2565 หนึ่งในผู้ประกอบการรับเหมาก่อสร้างชั้นนำของประเทศบริษัท ฑีฆา ก่อสร้าง จำกัด (มหาชน) หรือ TEKA ไอพีโอ น้องใหม่กำลังได้รับผลบวกดังกล่าวเต็มๆ

       กำลังจะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 75 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 25% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้วของบริษัท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท โดยคาดว่าจะเข้าซื้อขายวันแรก (เทรด) ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) กลางเดือนมิ.ย.2565

       โดย TEKA เป็นหนึ่งในผู้รับเหมาก่อสร้างที่โดดเด่นในงานอาคารขนาดใหญ่ โดยเฉพาะกลุ่มโครงการคอนโดฯ รวมถึง มิกซ์ยูส, โรงแรม , ชอปปิง เซ็นเตอร์ และงานอาคารสูงขนาดใหญ่ต่างๆ จากลูกค้าซึ่งเป็นดีเวลลอปเปอร์ชั้นนำของประเทศไทย

         “วีระศักดิ์ วานิชวัฒน์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฑีฆา ก่อสร้าง จำกัด (มหาชน) หรือ TEKAให้สัมภาษณ์พิเศษ “กรุงเทพธุรกิจ” ว่า การตัดสินใจนำบริษัทเข้าระดมทุนในตลาดหุ้นครั้งนี้ !! เขายอมรับว่าเพราะต้องการสร้างการเติบโตครั้งใหม่ สะท้อนผ่านเงินระดมทุนนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ และใช้ปรับปรุงประสิทธิภาพของเครื่องจักร และอุปกรณ์การก่อสร้างต่างๆ เพื่อรองรับงานก่อสร้างที่อาจเพิ่มมากขึ้นในอนาคตทั้งในด้านจำนวนโครงการ และมูลค่าโครงการ

      สะท้อนผ่าน ในปัจจุบันบริษัทมีงานที่กำลังรอเปิดประมูลจำนวน 20 โครงการ มูลค่ารวม 15,000 ล้านบาท ซึ่งบริษัทคาดว่าจะได้รับงานประมาณ 15-20% ของมูลค่างานทั้งหมด และแผนการเจาะฐานลูกค้าในอุตสาหกรรมอื่นๆ เพิ่มขึ้น เช่น ลูกค้ากลุ่มโรงพยาบาล และกลุ่มลูกค้าโรงงาน โดยเฉพาะในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ (อีอีซี) เป็นต้น

       รวมทั้งในแผนธุรกิจระยะยาว 3-5 ปีข้างหน้า (2565-2569) บริษัทมีแผนศึกษาลงทุนใน “ธุรกิจใหม่” ที่สามารถต่อยอด และสร้างการเติบโตให้บริษัทได้ในอนาคต ซึ่งจะเป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเทรดของโลกยุคใหม่

       อย่างไรก็ตาม ณ วันที่ 31 ธ.ค. 2564 บริษัทมีมูลค่างานในมือ (Backlog) 1,775.09 ล้านบาท หรือคิดเป็นโครงการที่อยู่ระหว่างการดำเนินงานจำนวน 8 โครงการ และงานบริการหลังการขายอีกจำนวนหนึ่ง และเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา บริษัทได้รับงานเพิ่มอีก 1 โครงการ นั่นคือ โครงการ The Line Vibe ซึ่งมีลักษณะเป็นโครงการคอนโดมิเนียม โดยมีเจ้าของโครงการ คือ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) SIRI มูลค่าโครงการตามสัญญาจำนวน 478.95 ล้านบาท

       สำหรับแนวโน้มผลประกอบการปี 2565 บริษัทตั้งเป้ารายได้อยู่ที่ 2,400-2,500 ล้านบาท ซึ่งเป็นรายได้ใกล้เคียงกับช่วงก่อนเกิดสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 และเติบโตจากปีก่อนที่ทำได้ราว 1,600 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากการทยอยรับรู้รายได้จากงานในมือ (Backlog) ที่จะส่งมอบในปีนี้ประมาณ 1,770 ล้านบาท ประกอบกับบริษัทยังมีงานใหม่ที่ได้เข้ามาในช่วงไตรมาส 1 ปี 2565 อีกราว 481 ล้านบาท รวมถึงงานโครงการใหม่ๆ ที่เตรียมเข้ายื่นประมูลเพิ่มเติมในช่วงที่เหลือของปีอีกจำนวนมาก

       ขณะที่ ในส่วนของปัญหาด้านราคาวัสดุก่อสร้างที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นนั้น ส่งผลให้ต้นทุนเพิ่มขึ้นราว 3-4% ซึ่งบริษัทก็มีนโยบายที่จะลดความเสี่ยงโดยการเลือกซื้อวัสดุก่อสร้างให้รวดเร็วขึ้นหรือกำหนดภายในช่วง 4 เดือนแรก หลังตกลงทำสัญญากับลูกค้า เพื่อป้องกันความเสี่ยงด้านราคาวัสดุก่อสร้างที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นในปัจจุบัน รวมถึงควบคุมคุณภาพและบริหารต้นทุนงานก่อสร้างให้ลดลงเพื่อสามารถสร้างผลกำไรให้ปรับตัวเพิ่มขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง

       สุดท้าย “วีระศักดิ์” บอกไว้ว่า การเข้าระดมทุนเนื่องจากต้องการเงินทุนเพื่อสนับสนุนแผนการเติบโตและเพื่อรองรับงานก่อสร้างที่จะเพิ่มมากขึ้นในอนาคต ทั้งด้านจำนวนลูกค้า และมูลค่าโครงการที่สูงขึ้น รวมถึงใช้ในการจัดหา ซ่อมแซม และปรับปรุงประสิทธิภาพของเครื่องจักรและอุปกรณ์การก่อสร้างต่างๆ

 

 

 

พิสูจน์อักษร โดย....สุรีย์  ศิลาวงษ์