ABM มีรายได้ไตรมาส 1 /2565 พุ่งเกือบ 30% ปัจจัยหนุนราคาขายกะลาปาล์มเพิ่ม

ABM มีรายได้ไตรมาส 1 /2565 พุ่งเกือบ 30% ปัจจัยหนุนราคาขายกะลาปาล์มเพิ่ม

ABM แจ้งผลดำเนินงานไตรมาส 1 /65 มีรายได้ 612.89 ล้านบาท โต 28.29% จากยอดขายในประเทศพุ่งเกิน 50% เร่งเดินหน้าปรับปรุงระบบโลจิสติกส์รองรับการเติบโต พร้อมซื้อไม้โตเร็วกว่า 3,000 ไร่ ตอบรับกระแสพลังงานสะอาดรักษ์โลก

นางสาวธิญาดา เมฆพงษ์สาทร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอเชีย ไบโอแมส จำกัด (มหาชน) หรือ ABM ผู้ประกอบธุรกิจจัดหาและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เชื้อเพลิงชีวมวล เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 1 ปี 2565 บริษัทมีรายได้รวม 612.89 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 136.54 ล้านบาท หรือ 28.66% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการขายเชื้อเพลิงชีวมวลโดยรวม และมีกำไรสุทธิ 6.37 ล้านบาท

เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน บริษัทมีรายได้จากการขายสินค้าและการให้บริการ อยู่ที่ 610.07 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 138.35 ล้านบาท หรือ 29.33% จากปริมาณการขายเพิ่มขึ้น และราคาขายที่เพิ่มสูงขึ้นโดยเฉพาะกะลาปาล์ม ส่วนรายได้อื่นๆ อยู่ที่ 2.82 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน เนื่องจากบริษัทได้รับเงินชดเชยจากสินค้าเสียหายและมีหนี้สูญที่ได้รับคืน

      สำหรับปริมาณการขายเชื้อเพลิงชีวมวลโดยรวมของบริษัท ในไตรมาสแรก อยู่ที่ 170.64 พันตัน เพิ่มขึ้น 24.36% แบ่งเป็นปริมาณการขายในประเทศ 137.80 พันตัน เพิ่มขึ้น 59.81% จากการกลับมาใช้ชีวมวลเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากราคาเชื้อเพลิงพลังงานประเภทอื่น ถีบตัวสูงขึ้นมากในปัจจุบัน และการขายต่างประเทศอยู่ที่ 32.84 พันตัน โดยบริษัทยังคงเป็นผู้จัดจำหน่าย และส่งออกหลักเชื้อเพลิงชีวมวล ทั้งกะลาปาล์ม  ไม้สับ และส่วนอื่นๆ ของไม้ ขี้กบ ขี้เลื่อย และชีวมวลอัดแท่ง และสินค้าอื่นๆ

ทั้งนี้ บริษัทคาดการณ์แนวโน้มการดำเนินงานในปี 2565 จะสามารถทำรายได้เติบโต 40-50% จากปีที่ผ่านมา ที่มีรายได้รวม 1,931.75 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 26.80 ล้านบาท ตามภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศและทิศทางเศรษฐกิจโลกที่ทยอยฟื้นตัว

       “ผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ผ่านมา บริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้นจากปริมาณการขายเชื้อเพลิงชีวมวลโดยเฉพาะการจำหน่ายในประเทศที่สูงเกินกว่า 50% เนื่องจากราคาสินค้าเชื้อเพลิงชนิดอื่นมีราคาสูงขึ้น ทำให้ความต้องการสินค้าชีวมวลเพิ่มขึ้น โดยบริษัท ประกาศเดินหน้าสร้างความมั่นคงด้านพลังงาน ตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าด้านพลังงานสะอาด เพื่อการใช้พลังงานอย่างยั่งยืน”  นางสาวธิญาดา  กล่าว

       นางสาวธิญาดา  กล่าวอีกว่า จากการขาดแคลนสินค้าบางประเภทช่วงก่อนหน้า โดยเฉพาะไม้สับ บริษัทจึงได้ทำสัญญาซื้อไม้โตเร็ว (Acacia Species) พื้นที่ประมาณ 3,000 ไร่ เพื่อเป็นแหล่งวัตถุดิบในการผลิตสินค้า และป้องกันความเสี่ยงจากการขาดแคลนในอนาคต ซึ่งคาดว่าจะได้ผลผลิตมากถึง 30,000 ตัน ประกอบกับบริษัท มีแผนจะผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ และได้มาตรฐานสากลมากยิ่งขึ้น ด้วยการลงทุนในระบบขนส่งสินค้า (โลจิสติกส์) ของบริษัทเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการขนส่ง พร้อมเพิ่มจำนวนรถขนส่ง และการปรับปรุงพื้นที่และคลังสินค้าในการรองรับสินค้าที่เพิ่มขึ้น และการเติบโตในอนาคต

 

 

 

พิสูจน์อักษร โดย....สุรีย์  ศิลาวงษ์