กลยุทธ์การลงทุนรายสัปดาห์ ฟื้นตัวต่อ ปัจจัยหนุนฟันด์โฟลว์ดูดีขึ้น

กลยุทธ์การลงทุนรายสัปดาห์ ฟื้นตัวต่อ ปัจจัยหนุนฟันด์โฟลว์ดูดีขึ้น

ในสัปดาห์ที่ผ่านมา (16-20 พฤษภาคม) ตลาดหุ้นไทยดีดตัวขึ้นมาอย่างชัดเจนตามที่เราคาดเอาไว้ถึงแม้ว่าราคาน้ำมันในตลาดโลกจะขยับขึ้นเล็กน้อย และ ผู้บริหารของ Fed ยังคงแสดงท่าที hawkish เกี่ยวกับแนวโน้มนโยบายการเงิน

แต่ตัวชี้วัดความเสี่ยงที่สำคัญอย่างเช่นดัชนี US dollar index และ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐขยับลดลงเล็กน้อยในระหว่างสัปดาห์ ซึ่งเป็นสิ่งที่บ่งชี้ว่านักลงทุนรับรู้การขึ้นดอกเบี้ยและโครงการ quantitative tightening ไปมากแล้ว นอกจากนี้ ภาวะตลาดหุ้นเอเชีย และตลาดหุ้นไทยยังได้อานิสงส์จากการที่จีนมีแผนจะยกเลิกมาตรการ lockdown ที่เซี่ยงไฮ้ ภายในวันที่ 1 มิถุนายนด้วย ทั้งนี้ ในช่วงปลายสัปดาห์ ตลาดเผชิญแรงกระเพื่อมจากการที่หุ้นสหรัฐเกิด correction อย่างรุนแรง ส่วนปัจจัยภายในประเทศไทย ศบค. มีมติให้ผ่อนคลายเกณฑ์การคัดกรอง COVID เพิ่มเติมอีก และให้กลับมาเปิดสถานบันเทิงยามราตรีได้อีกครั้ง ซึ่งจะส่งผลดีกับกิจกรรมทางธุรกิจโดยรวม และการจับจ่ายใช้สอยเพื่อการบริโภคในภาคเอกชน

ในสัปดาห์นี้ (23-27 พฤษภาคม) เราคาดว่าดัชนี SET จะฟื้นตัวต่อเนื่อง แต่นักลงทุนน่าจะเตรียมตัวให้พร้อมกับตลาดที่อาจจะมีความผันผวนสูง ในขณะที่การขึ้นดอกเบี้ยของ Fed ไม่ใช่ประเด็นใหม่สำหรับตลาดอีกต่อไปแล้ว ความกลัวเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้กลายมาเป็นจุดสนใจใหม่ของตลาดแทน ถึงแม้ว่าตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐเดือนเมษายนส่วนใหญ่จะยังใช้ได้ แต่ก็แสดงสัญญาณว่าโมเมนตัมแผ่วลงไป นอกจากนี้ ยังมีผู้ประกอบการค้าปลีกสหรัฐสองสามรายออกมาเตือนถึง
ผลกระทบจากเงินเฟ้อต่อผู้บริโภคชาวอเมริกันด้วย เราคิดว่านอกจากปัจจัยมหภาคโลกแล้ว นักลงทุนยังควรติดตาม i) ตัวเลขการค้าระหว่างประเทศที่ผ่านพิธีศุลกากรเดือนเมษายนของไทยซึ่งจะมีการประกาศออกมาในสัปดาห์นี้ และ ii) สถานการณ์ทางการเมืองหลังทราบผลการเลือกตั้งผู้ว่ากรุงเทพฯเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม

 

 

ติดตามรายงานการประชุม Fed, ดัชนีเงินเฟ้อ PCE และสถานการณ์การเมืองในประเทศ

(0/+) รายงานการประชุม Fed และดัชนีเงินเฟ้อ PCE ในวันที่ 25 พฤษภาคมจะมีการเผยแพร่รายงานการประชุม FOMC รอบวันที่ 5 พฤษภาคมออกมา ซึ่งเราคาดว่าจะได้เห็นรายละเอียดจากเอกสารที่ส่วนใหญ่น่าจะค่อนไปทาง hawkish ซึ่งน่าจะมีการพูดถึงการขึ้นดอกเบี้ยแรง และการลดขนาดงบดุลอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม เราคิดว่าตลาดน่าจะรับรู้ประเด็นเหล่านี้ไปมากแล้ว และกำลังมองหาสัญญาณว่าเงินเฟ้อจะสูงสุดที่จุดไหน โดยในวันที่ 27 พฤษภาคม จะมีการเผยแพร่ดัชนีราคา PCE เดือนเมษายน ซึ่ง consensus คาดว่า core PCE จะชะลอลงเหลือ 4.9% YoY จาก 5.2% YoY ในเดือนมีนาคม

(0) กระแสข่าวการเมืองไทยหลังการเลือกตั้งผู้ว่ากรุงเทพฯ จากการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม ผลเบื้องต้นแสดงว่านายชัชชาติ สิทธิพันธ์ ชนะแบบขาดลอย และจากรายงานข่าวล่าสุด สมาชิกสภากรุงเทพฯ ส่วนใหญ่ที่ชนะการเลือกตั้งมาจากพรรคฝ่ายค้าน ซึ่งผลการเลือกตั้งที่ออกมาถือเป็นความท้าทายของพรรคร่วมรัฐบาลในการวางแผนการเลือกตั้งใหญ่ในปี 2566

risk-reward ในระยะสั้นดูดีขึ้น แนะนำซื้อสะสมหุ้นกลุ่มท่องเที่ยว & หุ้นในธีมการเปิดประเทศ, หุ้นบางตัวในกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ และหุ้นที่ผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในกลุ่มอาหาร เนื่องจากเรามองว่าสภาวะความเสี่ยงในตลาดเอเชียดีขึ้น ในขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว เราจึงมองว่า risk-reward ของตลาดในระสั้นดูดีขึ้น เราแนะนำให้นักลงทุนซื้อสะสมหุ้นในธีมท่องเที่ยวและการเปิดประเทศหุ้นบางตัวในกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ และหุ้นที่ผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในกลุ่มอาหาร โดยหุ้นที่เราชอบในธีมดังกล่าว ได้แก่ AOT*, MINT*, BDMS*, BEM*, MAJOR*, BANPU*, SPRC*, ESSO*, CPF* และ GFPT ทั้งนี้ นักลงทุนควรจะระมัดระวังความเสี่ยงที่เศรษฐกิจสหรัฐจะถดถอยด้วย ซึ่งอาจเป็นประเด็นที่ทำให้ตลาดเปลี่ยนกลับไปสู่โหมด risk-off ได้อย่างรวดเร็ว