Sideway หุ้นรายงานพิเศษ CSC (23 พฤษภาคม 2565)

Sideway หุ้นรายงานพิเศษ CSC (23 พฤษภาคม 2565)

วันศุกร์ที่ผ่านมา ดัชนีปรับตัวขึ้น โดยมีแรงซื้อเข้ามาในหุ้นกลุ่มเปิดเมือง เช่น ธนาคาร ค้าปลีกและท่องเที่ยว เช่น SCB และ AOT รวมถึงกลุ่มพลังงาน

ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชีย ได้แรงหนุนจากธนาคารกลางจีนประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR) ประเภท 5 ปี สู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2562 ขณะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ LPR ประเภท 1 ปีไว้ที่ระดับ 3.7% ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,622.95 จุด+16.97 จุด +1.06% มูลค่าการซื้อขาย 66,204 ลบ.ต่างชาติ +3,093.50 ลบ. TFEX +6,179 สัญญา ตราสารหนี้ +6,980.50 ลบ.
 

ปัจจัยบวก

+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 8.77 จุด +0.03% ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาดัชนีดาวโจนส์ลดลง 2.9% ดัชนี S&P500 ลดลง 3.0% และดัชนี Nasdaq ร่วงลง 3.8% การซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน ดัชนีดาวโจนส์ยังคงปรับตัวลงในรายสัปดาห์เป็นสัปดาห์ที่ 8 ติดต่อกันยาวนานที่สุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2475 ซึ่งเป็นช่วงภาวะเศรษฐกิจตกต่่าครั้งใหญ่ ขณะที่ดัชนี S&P500 และดัชนี Nasdaq ปิดลบเป็นสัปดาห์ที่ 7 ติดต่อกันยาวนานที่สุดนับตั้งแต่สิ้นสุดภาวะฟองสบู่ดอทคอมในปี 2544
+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 1.02 ดอลลาร์ +0.9% ปิดที่ 113.23 ดอลลาร์/บาร์เรล ในรอบสัปดาห์สัญญาน้ำมันดิบสหรัฐ +2.5% ได้แรงหนุนจากความวิตกเกี่ยวกับภาวะอุปทานน้ำมันที่ตึงตัว
+ นายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานธนาคารกลางสหรัฐ สาขาเซนต์หลุยส์กล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะไม่เผชิญกับภาวะถดถอยทั้งในปีนี้และในปีหน้า
+ ญี่ปุ่นจะเพิ่มจำนวนการรับนักเดินทางขาเข้าขึ้นเป็น 20,000 คนต่อวัน เริ่มตั้งแต่เดือนหน้าเป็นต้นไป หลังจากเริ่มผ่อนคลายการควบคุมพื้นที่ชายแดนจากการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
+ รัฐบาลเผยต่างชาติลงทุนในไทย 4 เดือนแรกปีนี้ 3.6 หมื่นลบ. เน้นอุตสาหกรรมเป้าหมาย
+ศบค.เคาะ 1 มิ.ย. ปลดล็อกสถานบันเทิงผับ บาร์ คาราโอเกะ อาบ อบ นวด ในพื้นที่สีฟ้าและสีเขียว เปิดบริการ จำหน่ายและบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต้องไม่เกิน 24.00 น.
 

 

 

+/- ศบค.รายงานการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่รวม 4,099 ราย ATK 4,789 ราย มีผู้เสียชีวิต 29 ราย รักษาหาย 8,856 ราย

ปัจจัยลบ

- ข้อมูลจากริฟินิทีฟ ลิปเปอร์ (Refinitiv Lipper) บ่งชี้ว่า นักลงทุนทั่วโลกได้ปรับลดการลงทุนในกองทุนพันธบัตรและกองทุนหุ้นในสัปดาห์นี้ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 18 พ.ค. เนื่องจากมีความวิตกว่า ภาวะเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นจะทำให้เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย
- WHO คาดว่าปริมาณผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในหลายพื้นที่ทั่วโลกหลังมีการยืนยันพบผู้ติดเชื้อหรือสงสัยติดเชื้อมากกว่า 100 รายในยุโรป และอยู่ระหว่างยกระดับการเฝ้าระวัง อย่างไรก็ดี นักวิทยาศาสตร์ไม่คาดว่าการระบาดของโรคฝีดาษลิงจะพัฒนาไปสู่การแพร่ระบาดใหญ่เหมือนอย่างโรคโควิด-19 เนื่องจากไวรัสนี้ไม่ได้แพร่กระจายง่ายเหมือนกับไวรัส SARS-COV-2
- รัฐบาลรักษาการอัฟกานิสถานมีคำสั่งห้ามส่งออกข้าวสาลีมีผลบังคับใช้ในทันที เพื่อตอบสนองความต้องการข้าวสาลีภายในประเทศ
- ยูเครนไม่ยอมรับข้อตกลงหยุดยิงกับรัสเซีย รวมถึงจะไม่ยอมรับข้อตกลงใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการส่งมอบดินแดน
- ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า เงินเฟ้อไทยปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง คาดการณ์อัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยทั้งปี 65 จะเร่งตัวขึ้นถึง 4.9% สูงที่สุดในรอบ 14 ปี
- กรมการค้าภายในอนุญาตให้ผู้ผลิตและจำหน่ายปุ๋ยเคมี ทยอยปรับขึ้นราคาขายหน้าโรงงานตามต้นทุนแม่ปุ๋ย และค่าขนส่งที่ปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

 

แนวโน้มตลาดวันนี้  

คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยมีโอกาสแกว่งตัวผันผวนในลักษณะ Sideway โดยนักลงทุนยังวิตกกังวลการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดเพื่อสกัดเงินเฟ้อ ขณะที่ ศบค. มีมติปรับลดพื้นที่สีหรือแบ่งโซนในการควบคุมโรคโควิด ช่วยหนุนหุ้นกลุ่มท่องเที่ยว คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,615-1,630 จุด

 

 

กลยุทธ์การลงทุน    

• ศบค. มีมติปรับลดพื้นที่สีหรือแบ่งโซนในการควบคุมโรคโควิด : AOT AAV BA BEM BTTS ERW CENTEL MINT AWC ASAP

• MSCI ประกาศหุ้นเข้า/ออก มีผลวันที่ 31 พ.ค. MSCI Global Standard Index : เข้า JMT ออก STGT
MSCI Global Small Cap : เข้า ASK BYD DITTO FORTH KEX PSG SABUY STGT,STARK VIBHA ออก EASTW JMT
• อินเดียผู้ส่งออกข้าวสาลีรายใหญ่ของโลก สั่งห้ามส่งออกข้าวสาลี TMILL
• โรงกลั่นน้ำมันในเกาหลีใต้ระเบิด เป็นประเด็นบวกต่อ TOP SPRC

 

หุ้นรายงานพิเศษ

                                             CSC – “ได้ผลประโยชน์จาก ศบค.คลายล็อกดาวน์”

Sideway หุ้นรายงานพิเศษ CSC (23 พฤษภาคม 2565)

 

•บริษัทรายงานกำไรงวด 1Q65 เท่ากับ 80 ลบ. +23%YoY +171%QoQ โดยมียอดขายเท่ากับ 922 ลบ. +29%YoY +20%QoQ โดยทั้งรายได้และกำไรปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดว่าจะโตอยู่ในกรอบราว 7-10%YoY ซึ่งฟื้นตัวชัดเจนจากสถานการณ์โควิด-19 ที่คลี่คลายลง ทำให้ลูกค้าเพิ่มคำสั่งซื้อมากขึ้น อย่างไรก็ดี %GPM อ่อนลงมาที่ 11% จากปีก่อนอยู่ที่ระดับ 12.4% เนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบที่เร่งตัวขึ้น ขณะที่ %SG&A ปรับลดลงมาที่ 5% จากปีก่อนอยู่ที่ระดับ 10% เนื่องจากค่าใช้จ่ายสำรองผลประโยชน์ระยะยาวพนักงานที่ลดลง

•ความเห็น เรามีมุมมองบวกต่อผลประกอบการงวด 1Q65 และช่วงที่เหลือของปีนี้ คาดออเดอร์ที่เริ่มกลับเข้ามา ทำให้ %U.rate ปรับเพิ่มขึ้น จึงเกิดการประหยัดต่อขนาด และทำให้ %GPM อ่อนลงจากต้นทุนวัตถุดิบที่แพงขึ้นไม่มาก นอกจากนี้ การเริ่มกลับมาใช้ชีวิตประจำวันตามปกติ อาทิ โรงเรียน และสถานบันเทิงเปิดให้บริการตามปกติ รวมทั้งพนักงานเริ่มกลับเข้าไปทำงานออฟฟิศ จะเร่งให้การบริโภคเครื่องดื่มเพิ่มมากขึ้น ดังนั้น เราอาจพิจารณาปรับเพิ่มประมาณการกำไรและราคาเหมาะสมปี 65 ที่ราว 205 ลบ. +6%YoY และ 37 บาท ตามลำดับ

 

หุ้นมีข่าว

(+) BEM (Bloomberg Consensus 10.00 บาท) ชี้ทราฟฟิกสุดแกร่งทั้งทางด่วนล้านคัน-รถไฟฟ้า 2.9 แสนคนต่อวัน ยกคิวอีเวนต์ศูนย์ประชุมแน่น ดันทราฟฟิกวิ่งขึ้นอีก กำงบลงทุน สร้าง S-Curve ลั่นพร้อมประมูลโครงการรถไฟฟ้าสีส้ม พ.ค.-มิ.ย. นี้ มี Double Deck โครงการอื่นรออยู่ เคลียร์ชัดต้นทุนค่าไฟที่เร่งตัวขึ้น 15-20% ไม่กระทบย้ำปีนี้กำไรฟื้นแกร่ง (ที่มา ทันหุ้น)

(+) JMART (Bloomberg Consensus 53.50 บาท) ฟุ้งไตรมาส 2/2565 ฟอร์มแจ่ม รับทรัพย์ทุกธุรกิจโตต่อเนื่อง ชูยอดขายออนไลน์โตมากกว่า 100% แถมคอนเฟิร์มปีนี้ผลงานโต 50% จากปีก่อน ระบุเงินระดมทุนใหม่ ดันธุรกิจขยายตัวเด่น แถมเล็งเข็นบริษัทย่อย JVC เข้าตลาดปี 2567 เสริมแกร่งอนาคต (ที่มา ทันหุ้น)

(+) UKEM (Bloomberg Consensus - บาท) จ้องลงทุนธุรกิจเทรนด์ใหม่ ยานยนต์ไฟฟ้า-พลังงาน แย้มอยู่ระหว่างศึกษา หวังเสริมฐานโต พร้อมปักเป้ารายได้ปีนี้พุ่งขึ้น 15% ต่อจากปีก่อน หลังลูกค้าเริ่มกลับมาผลิตได้มากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มยานยนต์ที่ฟื้นชัด ลุยเจาะสินค้าอุปโภคบริโภค แย้มไตรมาส 2/2565 เตรียมเปิดกระเป๋ารับทรัพย์ขุดบิทคอยน์ (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) NDR (Bloomberg Consensus - บาท) ส่งซิกผลงานไตรมาส 2/2565 สดใส ลุ้นเทิร์นอะราวด์ ชี้ต้นทุนดีขึ้น เดินหน้าลดต้นทุน มั่นใจผลประกอบการทั้งปีเป็นบวก ส่วนยอดขายคาดกลับมายืนที่ระดับ 900-1,000 ล้านบาท ด้านบอสใหญ่ "ชัยสิทธิ์ สัมฤทธิวณิชชา" แย้มตุนออเดอร์รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าแล้ว 7 พันคัน ชี้ดีมานด์เพียบ (ที่มา ข่าวหุ้น)