ไทยเปิดฉากประชุมรมต.การค้าเอเปค ดึงสมาชิกร่วมมือฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังโควิด

ไทยเปิดฉากประชุมรมต.การค้าเอเปค ดึงสมาชิกร่วมมือฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังโควิด

“จุรินทร์” เปิดการประชุมรัฐมนตรีการค้าเอเปค กำหนดแนวทางฟื้นฟูและขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศสมาชิกให้เติบโตหลังวิกฤตโควิด-19 ด้านอภิมหาอำนาจ จีน-รัสเซีย-อเมริกา ร่วมประชุมพร้อมเพียง แม้สถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างประเทศยังคงคุกรุ่น

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์  รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานการประชุมรัฐมนตรีการค้าเอเปค(Ministers Responsible for Trade Meeting: MRT) โดยมีสมาชิก 21 เขตเศรษฐกิจเอเปกเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพียง อาทิ สหรัฐ จีน รัสเซีย ญี่ปุ่น  แคนาดา  เกาหลีใต้ เปรู ไทย

นายจุรินทร์ กล่าวว่า ขอต้อนรับท่านรัฐมนตรีการค้าเอเปค ผู้แทนสภาที่ปรึกษาทางธุรกิจเอเปค และผู้เข้าร่วมประชุมทุกท่านเข้าสู่การประชุมรัฐมนตรีการค้าเอเปคประจำปี 2022 ซึ่งประเทศไทยมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสเป็นเจ้าภาพ จัดการประชุมขึ้นในรูปแบบกายภาพอีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่เอเปคมีความจำเป็นต้องจัดการประชุมผ่านระบบออนไลน์ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา

ไทยเปิดฉากประชุมรมต.การค้าเอเปค ดึงสมาชิกร่วมมือฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังโควิด

 

สำหรับการประชุมรัฐมนตรีการค้าครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเปิดโอกาสให้รัฐมนตรีได้ร่วมหารือ เพื่อกำหนดแนวทางขับเคลื่อน การดำเนินการเอเปคให้มีความคืบหน้าต่อไป โดยเฉพาะวาระการดำเนินการสำคัญ คือ FTAAP รวมทั้งการส่งเสริมการค้าในระบบพหุภาคีและการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและการเติบโตในสถานการณ์ โควิด-19 และอนาคต โดยประเทศไทยในฐานะเจ้าภาพได้กำหนดธีมหลักในการประชุมเอเปคในปีนี้ คือ “Open. Connect. Balance”

OPEN คือการเปิดขว้างไปสู่ทุกโอกาสด้านการค้าการลงทุน และการส่งเสริมการรวมตัวทางเศรษฐกิจและการขับเคลื่อนการจัดทำ FTAAP  ผ่านมุมมองใหม่ที่เรียนรู้จากสถานการณ์ โควิด-19 เพื่อสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ ให้ทุกภาคส่วนในสังคม ส่วน CONNECT คือการเชื่อมโยงในทุกมิติโดยเฉพาะการฟื้นฟูการเดินทางระหว่างกันที่สะดวกและปลอดภัย รวมทั้งความเชื่อมโยงทางดิจิทัลและห่วงโซ่อุปทานในภูมิภาค และสุดท้าย BALANCE คือการสร้างสมดุลของการเจริญเติบโตและการพัฒนาอย่างรอบด้าน ผ่านการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบ โดยประเด็นสำคัญคือการคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและสร้างความมั่นคงทางอาหาร  การเกษตร เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชน

ไทยเปิดฉากประชุมรมต.การค้าเอเปค ดึงสมาชิกร่วมมือฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังโควิด

 

ทั้งนี้ประเทศไทยได้นำโมเดลเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียนและเศรษฐกิจสีเขียวหรือที่เรียก BCG Model (Bio-Circular-Green Economy)มาเป็นแนวทาง หรือแนวคิดหลักในการขับเคลื่อน SMEs และ Micro SMEs ของทุกเขตเศรษฐกิจ ทั้ง 21 เขต ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพถือว่าประเด็นนี้เป็นอีกหนึ่งประเด็นที่มีความสำคัญ โดยได้มีการคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจของเอเปคในภาพรวมจะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องในระดับปานกลาง GDP ของเอเปค ขยายตัว 5.9% ในปี 2021 และจะขยายตัวต่อเนื่องในอัตรา 4.2 % ในปี 2022 และน่าจะขยายตัว 3.8%  ในปี 2023 น

อกจากนี้ในปีที่ผ่านมาเอเปคยังได้มีการรับรองวิสัยทัศน์ปุตราจายา ปี 2040 และแผน “เอาทีอารอ” ที่ได้กำหนดวิสัยทัศน์และแนวทางการดำเนินให้กับเอเปค เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ผ่านการสนับสนุนระบบการค้าแบบพหุภาคีและการพัฒนาการค้าดิจิทัลและอีคอมเมิร์ซ การส่งเสริมและฟื้นฟูเศรษฐกิจการสร้างความเชื่อมโยงในทุกมิติ ทั้งคนสินค้าและบริการรวมทั้งระบบการขนส่งการเดินทางของประชาชนและกฎระเบียบ การส่งเสริมให้วิสาหกิจเข้าไปมีส่วนร่วมในห่วงโซ่อุปทานโลก และการตอบสนองวิกฤตในอนาคตได้อย่างรวดเร็ว เพื่อที่จะนำไปสู่การเติบโตที่ครอบคลุมทั่วถึงและยั่งยืนของภูมิภาคเอเปคต่อไป

“ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าผลของการประชุมรัฐมนตรีการค้าเอเปคในปีนี้จะมีส่วนสำคัญในการช่วยกำหนดทิศทางเชิงนโยบายในการฟื้นฟูและกระตุ้นการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาคในด้านต่างๆภายหลังยุคโควิด-19 และเตรียมรับมือกับวิกฤตที่คล้ายคลึงกันในอนาคตได้เป็นอย่างดี”

เอเปค หรือ ความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (Asia-Pacific Economic Cooperation : APEC)  มีสมาชิกรวม 21 เขตเศรษฐกิจ ได้แก่ ออสเตรเลีย แคนาดา ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ จีน ฮ่องกง นิวซีแลนด์ สหรัฐอเมริกา บรูไน อินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ ไทย จีนไทเป ชิลี เม็กซิโก ปาปัวนิวกินี เปรู รัสเซีย และเวียดนาม