กังวล FED เร่งขึ้นดอกเบี้ย (19 พฤษภาคม 2565)

กังวล FED เร่งขึ้นดอกเบี้ย (19 พฤษภาคม 2565)

ตลาดหุ้นวานนี้ SET พลิกปิดบวก 6 จุด แม้จะถูกกดดันจากแรงเทขายหุ้น JTS แต่แรงซื้อหุ้นพื้นฐานในหุ้น กลุ่มพลังงาน ค้าปลีก และกลุ่มรถไฟฟ้า ช่วยหนุนให้ตลาดพลิกปิดบวก

โดยวันนี้ JTS ลดลง 23% กดดัชนีมากถึง 6 จุด ดังนั้นหากไม่ร่วม JTS วันนี้ SET Index จะเพิ่มขึ้นอย่างน้อยประมาณ 10 จุด

 

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้     

ประเมิน SET ปรับตัวลงแนวรับ 1,605 - 1,610 จุด  หลัง FED ยืนยันแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสูงสุดเท่าที่จำเป็นเพื่อควบคุมเงินเฟ้อไม่ให้พุ่งขึ้นรุนแรงจนสร้างความเสียหายต่อภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งเป็นลบต่อ sentiment การลงทุนในตลาดหุ้นทั่วโลกและกดดันให้ราคาน้ำมันดิบทรุดตัวลงแรงซึ่งเป็นลบต่อกลุ่มพลังงานอีกด้วย จึงแนะนำรอซื้อช่วงอ่อนตัวโดยเน้นหุ้นกลุ่มที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว 

 

กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy

         กลุ่มเดินเรือ PSL TTA ค่าระวางเรือเทกองฟื้นตัวขึ้น

         TU ASIAN GFPT KCE HANA กลุ่มส่งออกได้อานิสงส์เงินบาทอ่อนค่า

         AOT MINT CENTEL ERW BDMS BH BEM BTS อานิสงส์การเปิดประเทศ

 

หุ้นแนะนำวันนี้

BDMS (ปิด 26.75 ซื้อ/เป้า 31 บาท) กำไรดีพึ่งจะเริ่มต้น โดยเราจะเห็นการเติบโตของกำไรเร่งตัวขึ้นในทุกไตรมาสของปีนี้จากจำนวนผู้ป่วยที่ไม่ใช่โควิดที่ทยอยเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มผู้ป่วยจากต่างประเทศ ที่จะเข้ามามากขึ้นจากการเปิดประเทศ

CKP (ปิด 5.65 ซื้อ/เป้า 6.50 บาท) ทยอยซื้อก่อนเข้าสู่ High Season ในช่วงฤดูฝนขณะที่ราคายังอยู่ในโซนล่าง นอกจากนี้ยังมีประเด็นบวกจาการเซ็นสัญญาเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายไฟฟ้าหลวงพระบาง 1,400MW จะเป็น Upside ให้กับ CKP ในระยะกลางถึงยาว

 

 

 

บทวิเคราะห์วันนี้

BANPU, CHG, TRUE, PROPERTY SECTOR

 

ประเด็นสำคัญวันนี้

(-) ดาวโจนส์ร่วง 1,165 จุด กังวลเงินเฟ้อกระทบกำลังซื้อและกำไรบริษัทจดทะเบียน: ดัชนีดาวโจนส์ทรุดตัวลงอย่างรุนแรง 1,165 จุด (-3.57%) ปิดที่ 31,490 จุด เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มค้าปลีกและกลุ่มเทคโนโลยีเพราะกังวลว่าอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นจะกระทบกำลังซื้อซึ่งสะท้อนให้เห็นจากผลกำไรของกลุ่มธุรกิจค้าปลีกที่ลดลง นอกจากนี้ประธานเฟดยังส่งสัญญาณพร้อมที่จะปรับขึ้นดอกเบี้ยเพื่อกดเงินเฟ้อให้ลดลง

(-) น้ำมันดิบลดลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 จากข่าวโรงกลั่นสหรัฐเร่งเพิ่มการผลิต: ราคาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 2.81$ (-2.5%) ปิดที่ 109.59$/bbl ลดลงในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นดาวโจนส์ และมีข่าวโรงกลั่นในสหรัฐเร่งเพิ่มปริมาณการกลั่นโดยล่าสุดอัตราการกลั่นของโรงกลั่นในสหรัฐเพิ่มชึ้นแตะระดับ 95% ใกล้เต็มกำลังการผลิต

(+) สรุปผลกำไรบริษัทจดทะเบียนไตรมาส 1/22 ของไทยมีกำไรเพิ่มขึ้น 8.3%qoq และ 11.47% yoy: จากการรวบรวมผลกำไรของบริษัทจดทะเบียน 808 บริษัทคิดเป็น 97% ของ Market Cap รวมทั้งตลาดมีกำไรสุทธิใน 1Q22 ที่ 2.87 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.31%qoq และ 11.47%yoy หลักๆ มาจากกำไรที่สูงขึ้นของกลุ่มพลังงานและกลุ่มธนาคาร