ธปท.ผ่อนเกณฑ์ธุรกรรมอัตราแลกเปลี่ยนเริ่ม 13 พ.ค.นี้

ธปท.ผ่อนเกณฑ์ธุรกรรมอัตราแลกเปลี่ยนเริ่ม 13 พ.ค.นี้

ธปท.ผ่อนเกณฑ์ธุรกรรมแลกเปลี่ยนเงินตรา เริ่ม 13 พ.ค.นี้ หวังช่วยบริหารความเสี่ยงภาคธุรกิจ กำหนดโอนเงินต่างประเทศออกไปยังต่างประเทศได้เสรี พร้อมยกเลิกการมีวงเงินโอนออก และขยายขอบเขตบริหารความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนให้กว้างขึ้นอีก

นางอลิศรา มหาสันทนะ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)เปิดเผยว่า ธปท.ได้ผลักดันให้เกิดระบบนิเวศน์ของตลาดอัตราแลกเปลี่ยนใหม่ (New FX ecosystem) เพื่อแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างของตลาดอัตราแลกเปลี่ยนไทยอย่างยั่งยืน โดยการผ่อนคลายเกณฑ์ควบคุมการแลกเปลี่ยนเงินมาอย่างต่อเนื่อง

ล่าสุดได้ผ่อนคลายหลักเกณฑ์เกี่ยวกับธุรกรรมแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (FX regulatory framework) ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ 13 พ.ค.2565 เป็นต้นไป สรุปสาระสำคัญ ได้ดังนี้ 

1.โอนเงินตราต่างประเทศ (FX) ออกไปยังต่างประเทศได้เสรีขึ้น และชำระ FX ในประเทศได้ตามความจำเป็น โดย 1.1 ให้สามารถโอน FX ออกไปต่างประเทศได้ตามภาระที่มี ยกเว้นเพียงธุรกรรมที่อาจส่งผลต่อเสถียรภาพการเงินอย่างมีนัยสำคัญ เช่น การชำระค่าสินทรัพย์ดิจิทัล การส่ง FX ออกไปทำธุรกรรมเกี่ยวกับเงินบาทกับสถาบันการเงินในต่างประเทศ (THB offshore)

1.2 ยกเลิกการมีวงเงินโอน FX ออก โดยให้เหลือเฉพาะวงเงินของการส่งเงินให้เปล่าแก่บุคคลในต่างประเทศได้ไม่เกิน 50,000 ล้านดอลลาร์ สรอ.ต่อปี และ 1.3 นิติบุคคลสามารถซื้อ FX เพื่อชำระในประเทศได้ตามความจำเป็น โดยไม่ต้องขออนุญาต เช่น การชำระค่าสินค้าบริการในประเทศเป็น FX เพราะต้องอ้างอิงราคาตลาดโลก (เช่น น้ำมัน)

2.ขยายขอบเขตการบริหารความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนให้กว้างขึ้น โดยผู้ประกอบการไม่จำเป็นต้องมีความเสี่ยงจากการมีรายรับ รายจ่ายสกุล FX กับต่างประเทศโดยตรงเท่านั้น แต่สามารถรวมความเสี่ยง FX อื่นๆ ที่ไม่ใช่ทางตรงได้ด้วย เช่น ความเสี่ยงจากการชำระค่าสินค้าที่อ้างอิงราคาตลาดโลกกับคู่ค้า
ในประเทศ ความเสี่ยงจากการกู้ยืมเงินสกุลอื่นที่ไม่ตรงกับรายได้ของบริษัท (currency mismatch)

นอกจากนี้ ผู้ประกอบการจะสามารถใช้ประมาณการรายรับ รายจ่ายสกุล FX ในอนาคต และความเสี่ยง FX ของกิจการในเครือมาป้องกันความเสี่ยงได้ จากเดิมที่ทั้งหมดนี้ ต้องขออนุญาตก่อน

3.ไม่ต้องแสดงเอกสารการทำธุรกรรม FX หากธนาคารเข้าใจลักษณะธุรกิจ และความเสี่ยง FX ของลูกค้าอยู่แล้ว เช่น กลุ่มที่มีวงเงิน FX หรือมีธุรกรรมต่างๆ กับธนาคารอยู่แล้ว

นางอลิศรา กล่าวว่า การปรับหลักเกณฑ์ดังกล่าวข้างต้น จะช่วยให้เกณฑ์การแลกเปลี่ยนเงินของประเทศมีความสมดุลมากขึ้นระหว่างด้านขาเข้า และขาออก อีกทั้ง ยังช่วยให้ภาคธุรกิจสามารถทำธุรกรรมการเงินระหว่างประเทศ และบริหารความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนได้สะดวกยิ่งขึ้นด้วยต้นทุนที่ต่ำลง

ทั้งนี้ การผลักดัน New FX ecosystem ซึ่งเป็นนโยบายระยะยาวที่ต้องดำเนินการต่อเนื่อง เพื่อสนับสนุนให้ผู้ประกอบการมีภูมิคุ้มกันป้องกันผลกระทบจากค่าเงินได้ดียิ่งขึ้น ภายใต้ภาวะตลาดการเงินที่มีความผันผวนสูงและคาดเดาได้ยาก

อย่างไรก็ดี ในระยะถัดไป ธปท. มีแผนที่จะปรับ FX service provider landscape ผ่านการปรับปรุงหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับผู้ให้บริการธุรกรรม FX ที่ไม่ใช่ธนาคาร (non-bank) เช่น money changer (MC) และ money transfer (MT) เพื่อให้ลูกค้ารายย่อย และ SMEs เข้าถึงบริการ FX ได้สะดวกขึ้น และช่วยลดต้นทุนการทำธุรกรรม

โดยมีแนวทางเบื้องต้น ได้แก่ 1.ขยายขอบเขตการให้บริการ FX ของ non-bank ในปัจจุบัน เช่น ให้ทำธุรกรรมได้หลากหลายวัตถุประสงค์ขึ้น 2.ขยายขอบเขตของใบอนุญาตให้รองรับบริการรูปแบบใหม่ เช่น ซื้อขาย FX ผ่าน platform 3.ปรับแนวทางการอนุญาต non-bank ในการให้บริการธุรกรรม FX ให้ยืดหยุ่นขึ้น ซึ่งจะเอื้อให้ non-bank สามารถให้บริการได้หลากหลาย และปรับเปลี่ยนธุรกิจได้คล่องตัวยิ่งขึ้น

 

 

 

พิสูจน์อักษร โดย....สุรีย์  ศิลาวงษ์