CPN ไตรมาส1/65 กำไร 2.32พันล้าน วูบ39% เหตุเศรษฐกิจไทยปีนี้ชะลอตัวลง

CPN ไตรมาส1/65 กำไร 2.32พันล้าน วูบ39% เหตุเศรษฐกิจไทยปีนี้ชะลอตัวลง

เซ็นทรัลพัฒนา เผยไตรมาสแรกของปี65 มีรายได้  8,072 ล้านบาท ลดลง15%และมีกำไรสุทธิ  2,328 ล้านบาท ลดลง 39% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ยังมีผลกระทบจากปัจจัยภายนอก สงครามรัสเซีย-ยูเครน ทำให้เศรษฐกิจไทยปีนี้ชะลอตัวลง

บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)ว่า  เพื่อที่จะพลิกพื้นเศรษฐกิจในประเทศ ที่ได้รับผลกระทบจากโรคระบาดโควิด19 ระลอกที่ 4 ในช่วงปลายปี 2564 นั้น ทางรัฐเริ่มผ่อนคลายมาตรการควบคุมในตรมาสแรกของปี 2565 ซึ่งรวมถึงการผ่อนคลายกฎเกณฑ์การเข้าประเทศด้วย เมื่อเห็นว่า ความรุนแรง และอัตราการเสียชีวิตจากสายพันธุ์ใหม่ โอมิครอน ไม่หนักเท่าสายพันธุ์ก่อนโควิด19 หน้านี้

บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย ("บริษัท" หรือ "เซ็นทรัลพัฒนา") จะเป็นบริษักฯ หนึ่งที่ได้รับผลประโยชน์หลักจากการ
เปลี่ยนแปลงนโยบายเหล่านี้ เนื่องจากธุรกิจของบริษัทฯ ได้รับผลกระทบจากโรคระบาดโควิด19 อย่างมีนัยสำคัญ จำนวนนักท่องเที่ยวขาเข้าในตรมาสแรกปี 2565 มีมากเกือบ 500,000 ราย ซึ่งช่วยกระตุ้นอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศที่ถดถอยมานาน ถึงแม้ว่าจำนวนนักท่องเที่ยวนี้ยังน้อยกว่าก่อนช่วงระบาดของโควิด19 มาก แต่การผ่อนคลายมาตรการ และกฎเกณฑ์ในอนาคตจะช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวได้ตลอดปีนี้ ถึงแม้ว่าสภาพเศรษฐกิจจะปรับตัวดีขึ้นในไตรมาสแรกของปี แต่ความขัดแย้งที่ยึดเยื้อระหว่างรัสเซีย และยูเครน รวมถึงอัตราเงินเยนที่เพิ่มสูงขึ้น เป็นปัจจัยลบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจประเทศในปีนี้ ดังนั้นสำนักงานเศรษฐกิจการคลังได้ปรับลดการคาดการณ์ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศปี2565 จาก 4% เหลือ 3.5%

บริษัทฯ ประกาศรายได้รวมในไตรมาสแรกของปี 2565 ที่  8,072 ล้านบาท และกำไรสุทธิ ที่  2,328 ล้านบาท ลดลง 15% และ 39% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนตามลำดับ หากไม่รวมรายการที่มิได้เกิดขึ้นเป็นประจำและผลกระทบทางมาตรฐานบัญชีแล้ว
บริษัทฯ จะมีรายได้และกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 23% และ 72% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนตามลำดับ และฟื้นตัวต่อเนื่องจากไตรมาส 4 ปีก่อนเช่นเดียวกัน

จากการฟื้นตัวของการดำเนินงานศูนย์การค้า การให้ส่วนลดสนับสนุนผู้เช่าลดลง และการฟื้นตัวของธุรกิจโรงแรม รวมถึงการควบคุมต้นทุน ค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่ส่งผลให้อัตรากำไรจากการดำเนินงานดีขึ้นด้วยในไตรมาสแรกของปี 2565 บริษัทฯ เพิ่มพื้นที่ให้เช่าสุทธิในโตรมาสแรกของปีได้เกือบ 15,000 ตร.ม. จากการขยายเซ็นทรัลวิลเลจ เฟส 2 และการปรับปรุงพื้นที่ของ เซ็นทรัล พระราม 2 ปัจจุบัน บริษัทฯ บริหารศูนย์การค้าทั้งหมด 55 แห่ง รวมพื้นที่ให้เช่าสุทธิเกือบ 2.2 ล้าน ตร.ม. และมีอัตราการเช่าพื้นที่เฉลี่ยอยู่ที่ 91%

สืบเนื่องจากที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นของบริษัท สยามฟวเจอร์ ดีเวลอปเมนทจำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 1/2022 อนุบัติให้เพิกถอนหลักรัพย์ของกิจการออกจากการเปนหลักรัพยจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ คณะกรรมการตลาดหลักทรัพยฯ ได้
อนุบัติคำขอแล้วเมื่อวันที่ 28 กุบภาพันธ์ 2565 ทาง บริษัทฯ มีการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์เพื่อเพิกถอนหลักทรัพย์เพิ่มเติม


สำหรับจำนวนหุ้นที่เหลืออีก 3.11% ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด เป็นระยะเวลา 45 วันตั้งแต่ 4 มีนาคม 2565 ถึง 13 พฤษภาคม 2565
บริษัทฯ มีการพัฒนาสู่ความเป็นเลิศด้านความยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง ในปัจจุบันบริษัทฯ สามารถประหยัดพลังงานไปแล้วกว่า 9% จากปี 2562 มีสัดส่วนการใช้พลังงานแสงอาทิตย์กว่า 2.8% ของการใช้พลังงานทั้งหมด มีสัดส่วนการนำขยะกลับมาใช้ใหม่กว่า 17% บริษัทฯ ได้จัดและอำนวยความสะดวกให้มีการบริจาคโลหิตในศูนย์การค้า ซึ่งมีการบริจาคโลหิตไปแล้วเกือบ 2 ล้านลูกบาศก์เซนติเมตร อีกทั้งยังสร้างและกระจายรายได้สู่ชุมชนเกือบ 43 ล้านบาทด้วย บริษัทฯ มีเป้าหมายที่จะเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้ถึง 10% ในทุกๆ ศูนย์การค้า และพัฒนาโครงการใหม่ๆ ให้เป็นอาคารสีเขียวแบบ 100% อีกด้วย