"เซ็นทรัล" ปักหมุดแลนด์มาร์คใหม่ "วงศ์อมาตย์ บีช วิลเลจ" มอลล์ริมหาดแห่งแรก

ยุทธศาสตร์ Central of Life ของ “กลุ่มเซ็นทรัล” ทุนค้าปลีกไทยยักษ์ใหญ่ของตระกูลจิราธิวัฒน์ ถูกใช้เป็นหลักยึดในการพัฒนาโครงการรีเทลต่างๆ ที่นอกเหนือจากการเป็นพื้นที่ค้าขาย เป็นศูนย์การค้าแบบเดิมๆ แต่ทุกโปรเจกต์จะต้องเป็นศูนย์กลางแห่งการใช้ชีวิตในยุคสมัยนั้นๆ 

พงศ์ ศกุนตนาค กรรมการผู้จัดการใหญ่ สายพัฒนาธุรกิจ กลุ่มเซ็นทรัล กล่าวว่า โรดแมปของการพัฒนาธุรกิจค้าปลีก ศูนย์การค้ากลุ่มเซ็นทรัลมุ่งปักหมุดทำเลศักยภาพ ในจังหวัดมีการขยายตัวทางเศรษฐกิจสูง “TOP5-GDP” ได้แก่ กรุงเทพฯ ภูเก็ต เชียงใหม่ ชลบุรี ระยอง  

โดยเฉพาะพื้นที่ “พัทยา” จ.ชลบุรี มีการพัฒนาและเติบโตทางโครงสร้างพื้นฐานอย่างรอบด้านและต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เพื่อรองรับการเป็นเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี (EEC)

หลายปีที่ผ่านมา เซ็นทรัลกรุ๊ป ได้ขยายการลงทุนโครงการธุรกิจขนาดใหญ่อย่างต่อเนื่องในเมืองพัทยากว่า 10 โครงการ อาทิ เซ็นทรัล เฟสติวัล พัทยา, เซ็นทรัล มารีน่า, เซ็นทรัล แกรนด์ มิราจ, ฮิลตัน พัทยา และเซ็นทารา พัทยา โฮเต็ล เป็นต้น สะท้อนถึงศักยภาพการเติบโตของดีมานด์และกำลังซื้อในพื้นที่ได้เป็นอย่างดี 

ล่าสุด กลุ่มเซ็นทรัล จัดสรรงบประมาณ 3,000 ล้านบาท พัฒนาโครงการแลนด์มาร์คแห่งใหม่  วงศ์อมาตย์ บีช วิลเลจ (Wongamat Beach Village) ในคอนเซ็ปต์ ยูนีค เนเชอรัล บีช ปาร์ค แอนด์ ไลฟ์สไตล์ มอลล์ (Unique Natural Beach Park and Lifestyle Mall) นับเป็นแห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทยที่โครงการตั้งอยู่ริมหาดวงศ์อมาตย์ โดยให้บริการหลากหลายแบรนด์ร้านอาหารและไลฟ์สไตล์ เช่น ร้านอาหารระดับพรีเมี่ยม ทั้งไทยและนานาชาติ ร้านคาเฟ่ ร้านของที่ระลึกร้านสินค้าไลฟ์สไตล์ ซูเปอร์มาร์เก็ต รวม 29 ร้าน 

พร้อมกิจกรรมพิเศษตลอดปี เจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติกำลังซื้อสูง เป็น "New Destination" ในฐานะไฮไลต์ของอีอีซี ตั้งเป้าหมายมีผู้มาใช้บริการรวมมากกว่า 1 ล้านคนต่อปี ซึ่งคาดการณ์จากตัวเลขนักท่องเที่ยวเมืองพัทยาที่อยู่ที่เกือบ 16 ล้านคน ในปี 2562 เป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์ร่วมฟื้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยว

“วงศ์อมาตย์ บีช วิลเลจ” จะเข้ามาปลุกกระแสพัทยาที่คุณไม่เคยรู้จักมาก่อน!  แบ่งการพัฒนาเป็น 3 เฟส โดยเฟส 1-2 พื้นที่ 13.5 ไร่ เปิดให้บริการเฟสแรกภายในสิ้นปี 2565 เฟส 2 ปี 2566 วางแนวคิดการออกแบบ “แหงนหน้าเห็นท้องฟ้า ระดับสายตาเห็นต้นไม้ ก้าวเท้าเหยียบผืนทราย” เน้นการคงไว้ซึ่งธรรมชาติของหาดพัทยา โดยมีพื้นที่สีเขียว 3ใน4 ของโครงการ เน้นการพัฒนาและเติบโตร่วมกันกับชุมชมอย่างยั่งยืน ทั้งนี้มีพื้นที่อีกกว่า 50 ไร่ สำหรับการพัฒนาเฟส 3 ซึ่งจะพิจารณาดีมานด์และโอกาสของธุรกิจขณะนั้นเป็นหลัก 

“พัทยา เป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีทั้งคุณภาพและศักยภาพความพร้อมในหลากหลายด้าน วงศ์อมาตย์ บีช วิลเลจ จะเนรมิตพื้นที่ริมหาดวงศ์อมาตย์ ให้เป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ริมทะเลที่แรกและที่เดียวของประเทศไทย ผ่านการนำความเรียบง่ายและงดงามของธรรมชาติแบบดั้งเดิมของหาดวงศ์อมาต พัทยา ในอดีตที่แวดล้อมไปด้วยต้นไม้ใหญ่ หาดทราย สวนร่มรื่นริมหาดอย่างเป็นเอกลักษณ์ กลับคืนสู่ปัจจุบัน พร้อมสร้างสถาปัตยกรรมและไลฟ์สไตล์รูปแบบใหม่ให้คนทุกเพศทุกวัย เป็น Central of Life ของผู้คนในพัทยาและพื้นที่ใกล้เคียง"

รวมทั้งยังเป็น Living Space ของการพบปะสังสรรค์ พักผ่อนหย่อนใจและสร้างแรงบันดาลใจแห่งความคิดสร้างสรรค์ ผ่านหลากหลายกิจกรรมเวิร์กช็อป งานศิลปะและงานคราฟท์ กิจกรรมกีฬาทางน้ำและบนชายหาด ความบันเทิง ในรูปแบบศิลปะ (Creative & Arts Culture) ที่รายล้อมอยู่รอบโครงการอีกด้วย

มาพร้อม "Beach Park" หรือสวนสาธารณะริมหาด ให้ผู้คนในชุมชนและนักท่องเที่ยวได้ใช้เป็นพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจและใช้เวลาร่วมกัน

พงศ์ ขยายความถึงแนวทางการพัฒนาโครงการของกลุ่มเซ็นทรัลว่า ไม่เพียงการเลือกปักหลักในทำเลศักยภาพเท่านั้น!! 

หากแต่การลงทุนแต่ละครั้ง ต้องสร้างความแปลกใหม่ และก้าวทันโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา!  ภายใต้นโยบายการลงทุนที่ทุกโครงการต้องมี “กำไร” ใน 2 ส่วนสำคัญ นั่นคือ เจ้าของ และร้านค้า  หลักการต่อมา โปรเจคนั้นต้องมีความแตกต่างจากคู่แข่ง หรือ แม้กระทั่งในเครือเซ็นทรัลด้วยกัน 

ปัจจุบัน พอร์ตธุรกิจภายใต้ความรับผิดชอบของ “พงศ์” มีทั้งแผนการปลุกปั้นโครงการใหม่อย่างต่อเนื่อง บนแลนด์แบงก์ของกลุ่มเซ็นทรัลที่มีอยู่จำนวนไม่น้อย แต่ละโครงการลงทุนมากกว่า 500-1,000 ล้านบาทขึ้นไป

รวมถึงการพัฒนาโปรเจคเก่าสู่ภาพลักษณ์ใหม่ ซึ่งมีโครงการ 10 ศูนย์การค้าในความดูแล อาทิ จิวเวลรีเทรดเซ็นเตอร์ บ้านสีลม ไชน่าเวิลด์ โครงการย่านอุดมสุข รวมถึง ปอร์โต้ ภูเก็ต และตลาดจริงใจ เชียงใหม่ 

“โครงการใหม่ภายใต้คอนเซปต์ใหม่ ทุก 2-3 ปีจะเห็นอย่างน้อย 1 โครงการ พร้อมๆ กับการมองหาโอกาสพัฒนาโครงการเดิมเพื่อสร้างศักยภาพทางการแข่งขันมากขึ้น อย่างเช่น การพัฒนาเฟส 2 ปอร์โต้ ภูเก็ต ซึ่งมีที่ดินรองรับอีก 30-40 ไร่”

ในฐานะดีเวลลอปเปอร์และผู้นำตลาดของกลุ่มเซ็นทรัล ต้องเร่งผลักดัน ยกระดับธุรกิจให้ก้าวขึ้นไปอีกระดับ! ซึ่งเวลานี้ทั้งอุตสาหกรรมค้าปลีกและโรงแรมเริ่มไต่ระดับฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ความพรักพร้อมของ “โมเดลธุรกิจ” เมื่อถูกที่ ถูกทาง และถูกจังหวะ ย่อมได้เปรียบเหนือคู่แข่งอย่างแน่นอน