โบรก คาด'ค่าการกลั่น' ยังพุ่งอีก 6 เดือน จ่ออัพ 'กำไร' โรงกลั่น

โบรก คาด'ค่าการกลั่น' ยังพุ่งอีก 6 เดือน จ่ออัพ 'กำไร' โรงกลั่น

“โบรก” เล็งปรับเพิ่มกำไรกลุ่มโรงกลั่น ปีนี้ หลังค่าการกลั่นพุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์แตะ 21.61 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล “บล. ซีเอสจี-ซีไอเอ็บี” ชี้ปัจจัยบวกเปิดประเทศ-สงครามยืดเยื้อ ดัน “จีอาร์เอ็ม” สูงกว่าปีก่อน “บล.กสิกรไทย” คาดทรงตัวสูงต่อเนื่องอีก 6 เดือนข้างหน้า 

  ความเคลื่อนไหวราคาหุ้นกลุ่มโรงกลั่น วานนี้ (28 เม.ย.) ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องตลอดวัน นำโดย มจ.สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง (SPRC)ปิดที่ราคาสูงสุดของวัน 10.70 บาท เพิ่มขึ้น 5.94%  บมจ.ไทยออยล์ (TOP) ปิดอยู่ที่ 55.75 บาท เพิ่มขึ้น 4.21%

นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย )  เปิดเผยว่า ค่าการกลั่น (GRM) วานนี้ ปรับตัวเพิ่มขึ้นอยู่ที่  21.61 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จากวันก่อนที่ 19.09 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ทำจุดสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ จากซัพพลายดิสรัปและความต้องการ(ดีมานด์) เพิ่มขึ้น ทั้งน้ำมันอากาศยาน น้ำมันดีเซลและน้ำมันเบนซิน 

ทั้งนี้ ปัจจุบันค่าการกลั่นปรับตัวดีกว่าช่วงไตรมาส 1 ปีนี้ ที่ 8.055 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และ 4 เดือนแรกปีนี้เฉลี่ยที่ 10.50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ถือว่าสูงกว่าคาดการณ์ทั้งปีนี้ที่ 6-7 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล  ทำให้บริษัทมีโอกาสปรับคาดการณ์ค่าการกลั่นทั้งปีนี้เพิ่มขึ้น  

 สำหรับมุมมองระยะสั้นช่วงที่เหลือไตรมาส 2 ปีนี้ ค่าการกลั่นยังยืนในระดับสูงต่อเนื่อง คาดว่าค่าการกลั่นเฉลี่ยสูงกว่า 10 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในช่วงครึ่งปีแรก2565 เนื่องจากหลายประเทศทั่วโลกกลับมาเปิดเมือง มีการเดินทางและท่องเที่ยวระหว่างประเทศและในประเทศเพิ่มขึ้น อีกทั้งสงครามรัสเซีย-ยูเครน ยืดเยื้อ

นายกิติชาญ กล่าวว่า ในช่วงครึ่งหลังปีนี้คาดแนวโน้มค่าการกลั่นน่าจะปรับตัวลงแต่ไม่แรง จากค่าการกลั่นที่ปรับขึ้นมาค่อนข้างมากแล้ว แต่ก็น่าจะมีอัพไซด์และนิวไฮเกิดขึ้นได้เช่นกัน หากไม่มีการระบาดของโควิด-19 จนกลับมาสู่การล็อกดาวน์ โดยเฉพาะในจีน  

สำหรับหุ้นเด่นกลุ่มโรงกลั่นที่ได้ประโยชน์ จากค่าการกลั่นปรับตัวดีขึ้น อย่าง SPRC คาดการณ์ปีนี้กำไรปกติ (ไม่รวมสต็อกน้ำมัน) ที่ 2,843 ล้านบาท และคาดการณ์ไตรมาส 1 ปี 65 มีกำไรสุทธิ 3,582 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 79%  จากช่วงเดียวกันปีก่อน  และ TOP คาดการณ์ปีนี้กำไรปกติ (ไม่รวมสต็อกน้ำมัน) ที่ 12,393 ล้านบาท และคาดการณ์ไตรมาส 1 ปี 65  มีกำไรสุทธิ 6,729 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 100% จากช่วงเดียวกันปีก่อน  

ดังนั้น คาดมีโอกาสปรับเพิ่มคาดการณ์สิ้นปีนี้ แนวโน้มกำไรของ บจ.โรงกลั่นสองไตรมาสแรกดีต่อเนื่อง จากการปรับสต็อกเกรน ที่ราคาน้ำมันดิบไตรมาส 1 ปีนี้ เพิ่มขึ้น 45% หากไตรมาส 2 ปีนี้ ราคาน้ำมันดิบขึ้นและค่าการกลั่นยังยืนในระดับสูงต่อเนื่อง ยังต้องรอการประกาศงบไตรมาส 2 ปีนี้ก่อน จากนั้นจะมีการทบทวนคาดการณ์ปีนี้ครั้งใหม่ แนะนำซื้อ SPRC และ TOP ราคาเหมาะสมปีนี้ที่ 12 บาท และ 63 บาท

นายจักรพงศ์ เชวงศรี ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กสิกรไทย กล่าวว่า คาดค่าการกลั่นยังทรงตัวอยู่ในระดับสูงต่อเนื่องไม่ต่ำกว่า 6 เดือน ถึง 1 ปี เนื่องจากปัจจัยบวกการตรึงตัวของราคาน้ำมันในภูมิภาค หลังจากยุโรปคว่ำบาตรรัสเซีย และหันมาซื้อพลังงานจากเอเชียแทน เพื่อสำรองไว้ก่อนเข้าฤดูหนาว 

อย่างไรก็ตาม คาดปรับประมาณการกำไรกลุ่มโรงกลั่นเพิ่มขึ้น จากปัจจัยบวกค่าการกลั่นอยู่ในระดับสูง หลังผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2565 ประกาศออกมาก่อน คาดหุ้นกลุ่มโรงกลั่นได้รับปัจจัยบวก เพียงแต่จะมากหรือน้อย เพราะ บางบริษัทมีการทำเฮดจิ้งไว้ล่วงหน้า แต่หากบริษัทไหนไม่ได้ทำเฮดจิ้งไว้ล่วงหน้าก็รับผลบวกจากค่าการกลั่นที่สูงขึ้นเต็มๆ