ธนารักษ์เดินหน้าลงนาม”วงษ์สยาม”พัฒนาท่อส่งน้ำอีอีซี​ 3 พ.ค.นี้

ธนารักษ์เดินหน้าลงนาม”วงษ์สยาม”พัฒนาท่อส่งน้ำอีอีซี​ 3 พ.ค.นี้

ธนารักษ์เดินหน้าลงนาม”วงษ์สยามก่อสร้าง”พัฒนาระบบท่อส่งน้ำในภาคตะวันออกในวันที่ 3 พ.ค.นี้ หลังบอร์ดที่ราชพัสดุมีมติให้เป็นผู้ชนะการประมูลขณะที่ คดีการฟ้องร้องให้เพิกถอนการประมูลโดยบริษัทอีสวอเตอร์ยังอยู่ในขั้นการพิจารณาของศาลปกครองกลาง​

รายงานข่าวจากกรมธนารักษ์เปิดเผยว่า กรมธนารักษ์จะจัดให้มีการลงนามในสัญญาโครงการบริหารและดำเนินกิจการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก(อีอีซี)กับบริษัท วงษ์สยามก่อสร้าง จำกัดในวันที่ 3 พ.ค.นี้

 

ทั้งนี้ การลงนามดังกล่าวเป็นไปตามมติคณะกรรมการที่ราชพัสดุในการประชุมเมื่อวันที่ 14 มี.ค.2565 ที่เห็นชอบให้บริษัท วงษ์สยามก่อสร้าง จำกัด เป็นผู้ชนะการประมูลและได้รับสิทธิบริหารและดำเนินกิจการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก

อย่างไรก็ดี เมื่อ วันที่ 19 เม.ย. 2565 บริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือ EASTW แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า ตามที่บริษัทได้ยื่นฟ้องคณะกรรมการคัดเลือกเอกชนเพื่อบริหารและดำเนินกิจการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก และกรมธนารักษ์ ต่อศาลปกครองกลาง เมื่อวันที่ 23 ก.ย.2564 กรณีคณะกรรมการคัดเลือกเอกชนฯ ซึ่งแต่งตั้งโดยกรมธนารักษ์ได้มีคำสั่งยกเลิกการคัดเลือกเอกชนเพื่อบริหารและ ดำเนินกิจการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก และการออกประกาศ พร้อมหนังสือเชิญชวนฉบับใหม่ เป็นเหตุให้บริษัท ได้รับความเสียหาย และ ต่อมาบริษัท ได้ยื่นคำร้องขอศาลได้โปรดมีคำสั่งเกี่ยวกับวิธีการชั่วคราวก่อนการพิพากษาอีกครั้ง เมื่อวันที่ 7 มี.ค.2565 นั้น

บริษัทขอแจ้งความคืบหน้าเกี่ยวกับคดีที่มีการยื่นคำฟ้องต่อศาลปกครองกลางข้างต้นเพิ่มเติมว่า เมื่อวันที่ 12 เม.ย. 2565 ศาลปกครองกลางได้มีคำสั่งยกคำร้องขอเกี่ยวกับวิธีการชั่วคราวก่อนการพิพากษาซึ่งบริษัทได้ยื่นคำร้องไว้ต่อศาลเมื่อวันที่ 7 มี.ค.2565

โดยในตอนหนึ่งของคำสั่งศาลดังกล่าวได้ระบุไว้ด้วยว่า แม้ต่อมาจะได้มีการลงนามเพื่อเข้าทำสัญญาในโครงการที่พิพาทแล้ว แต่หากปรากฏว่าการดำเนินการเพื่อคัดเลือกคู่สัญญาไม่ชอบด้วยกฎหมาย ศาลย่อมมีอำนาจเพิกถอนการดำเนินการดังกล่าวได้ และหากบริษัทเห็นว่าได้รับความเดือดร้อนเสียหายก็ชอบที่จะใช้สิทธิฟ้องเรียกค่าเสียหายต่อไปได้

ทั้งนี้ บริษัทขอเรียนว่าคำสั่งยกคำร้องดังกล่าว ไม่ใช่คำสั่งศาลในส่วนของคดีหลักที่บริษัทฟ้องขอให้เพิกถอนมติหรือคำสั่งยกเลิกการคัดเลือกเอกชนฯ ของคณะกรรมการคัดเลือกเอกชนฯ และเพิกถอนการดำเนินการตามประกาศและหนังสือเชิญชวนฉบับใหม่ แต่อย่างใด

โดยในส่วนของคดีหลักดังกล่าวยังคงอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลปกครองกลาง และเมื่อศาลปกครองกลางมีคำสั่งหรือคำพิพากษาในส่วนของคดีหลักแล้ว คดียังสามารถอุทธรณ์และเข้าสู่กระบวนพิจารณโดยศาลปกครองสูงสุดต่อไปได้