เบื้องหลัง‘กาสิโน’ ฐาน‘โดรนพิฆาต’ ทัพเขมร

ศึกรบชายแดนครั้งใหม่ ยังไม่มีทีท่าว่าจะจบวันไหน ทั้งไทยและกัมพูชา แม้จะมีข่าวว่า “ทรัมป์” ส่งสัญญาณจะขอมาพูดคุยกับ “อนุทิน ชาญวีรกูล” และ “ฮุน มาเนต” เพื่อนำไปดูดีลสันติภาพเหมือนครั้งที่แล้ว

เฉพาะหน้า การเจรจายุติการสู้รบคงไม่เกิดขึ้นในเร็ววันนี้ เนื่องจากกองทัพไทยมีโจทย์ใหญ่คือ ต้องจัดการให้ทัพเขมร “สิ้นสภาพ” เพื่อไม่ให้เป็นภัยความมั่นคงต่อไทย

มีข้อน่าสังเกต ในการสู้รบหนนี้ ปรากฏว่า “กาสิโน” ตกเป้าหมายของเครื่องบินรบ F16 และกระสุนปืนใหญ่ของทหารไทย

เนื่องจากทหารกัมพูชาได้ใช้ “กาสิโน” เป็นฐานปล่อยโดรนพลีชีพ และที่ซุกซ่อนรถยิงจรวดหลายลำกล้อง BM-21 ทหารไทยจึงต้องจัดการเพื่อรักษาความปลอดภัยให้ทหารในแนวหน้า

ด้านโฆษกกองทัพไทยแถลงว่า จำเป็นต้องใช้สิทธิแห่งการป้องกันตนเอง ด้วยการปฏิบัติการที่จำเพาะเจาะจงต่อเป้าหมายทางทหารเท่านั้น และจำกัดวงความเสียหายอย่างแม่นยำที่สุด

“กาสิโน” เป้าหมายพิกัดทางทหารของไทย จากที่เป็นข่าวไปแล้วนั้นมีอยู่ 5 แห่ง คือ

ช่องจอม จ.สุรินทร์ - กาสิโนโอร์เสม็ด
ช่องอานม้า จ.อุบลราชธานี - กาสิโนช่องอานม้า
ช่องสายตะกู จ.บุรีรัมย์ - กาสิโนย่านจุ๊บโกกี
จุดผ่อนปรนบ้านตาพระยา จ.สระแก้ว - กาสิโน (บันเตียเมียนเจย)
บ้านชำราก จ.ตราด - กาสิโนทมอดา หรือบ่อนท่าเส้น

นับแต่ทหารไทย-กัมพูชา เปิดฉากการสู้รบเมื่อวันที่ 8 ธ.ค.2568 เครื่องบิน F16 ก็ได้ทิ้งระเบิดใส่กาสิโนช่องอานม้า ซึ่งทางทหารไทยบอกว่า เป็นกาสิโนร้าง แต่ทหารเขมรนำมาใช้เป็นหน่วยบังคับโดรนของหน่วยองครักษ์ BHQ

1.กาสิโนช่องอานม้า อ.จอมกระสาน จ.พระวิหาร ตรงข้าม อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี

ปี 2555 มีกลุ่มทุนจีนมาสร้างกาสิโน รอการยกระดับจากจุดผ่อนปรนเป็นจุดผ่านแดนถาวร แต่ฝ่ายความมั่นคงคัดค้านการเปิดจุดผ่านแดนถาวร 

ปีที่แล้ว มีข่าวว่า กลุ่มสแกมเมอร์ที่หนีออกจากเมียนมา ได้มารวมตัวอยู่ในอาคารกาสิโนแห่งนี้

2.กาสิโน อ.โอร์เสม็ด จ.อุดรมีชัย ตรงข้ามกับช่องจอม อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์

ตั้งแต่ปี 2544 รัฐบาลสมัยนั้น มีการสร้างถนนสายช่องจอม-โอร์เสม็ด และ “ลี ยงพัด” ได้ลงทุนเปิดกาสิโนชื่อ โอร์เสม็ดรีสอร์ท ตรงข้าม ต.โอร์เสม็ด อ.สำโรง จ.อุดรมีชัย ตรงข้ามด่านช่องจอม อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ควบคู่กาสิโนที่ อ.อัลลองเวง จ.อุดรมีชัย ตรงข้ามด่านช่องสะงำ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ

ระยะหลัง กาสิโนทั้ง 2 แห่งของ “ลี ยงพัด” กลายเป็นอาณาจักรสแกมเมอร์ มีการสร้างตึกอาคารสำนักงานใหม่ติดกับกาสิโน ต.โอร์เสม็ด

3.กาสิโนย่านจุ๊บโกกี อ.บันเตียอำปึล จ.อุดรมีชัย ตรงข้ามกับจุดผ่อนปรนช่องสายตะกู อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์

ปี 2557 ทางการไทย-กัมพูชา ได้เปิดจุดผ่อนปรนการค้าช่อง “สายตะกู-จุ๊บโกกี” ซึ่งจุดผ่อนปรนนี้อยู่ห่างจากตัว จ.บุรีรัมย์ แค่ 84 กม.

ต่อมา “ออกญา ลืมเฮง” ได้ลงทุนเปิดสายตะกูรีสอร์ท แอนด์ กาสิโน หรือ “บ่อนสายตะกู” ต.อัมปึล อ.บันเตียอัมปึล จ.อุดรมีชัย ติดกับจุดผ่อนปรนการค้าช่องสายตะกู ต.จันทบเพชร อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์

ทั้ง “ออกญา ลี ยงพัด” และ “ออกญา ลืมเฮง” ต่างก็อยู่ในเครือข่ายทุนนิยมพวกพ้องของสมเด็จฮุน เซน

4.กาสิโนฝั่งกัมพูชา จ.บันเตียเมียนเจย ตรงข้ามจุดผ่อนปรนทางการค้าบ้านตาพระยา อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว

ไม่มีข้อมูลว่า กาสิโนแห่งนี้เป็นของใคร แต่คนไทยเรียกว่า “บ่อนตาพระยา” อยู่ในเขตบ้านคลองแผง อ.ตาพระยา ซึ่งเป็นจุดที่นายทุนเขมรรุกเข้ามายึดครองแผ่นดินไทย เหมือนกรณีบ้านหนองจาน

5.กาสิโนทมอดา บ้านทมอดา ต.เวียลเวง อ.เวียลเวง จ.โพธิสัตว์ ตรงข้ามบ้านท่าเส้น ต.แหลมกลัด อ.เมืองตราด จ.ตราด

ปี 2560 มีการเปิดด่านช่องทางการค้าบ้านท่าเส้น-บ้านทมอดา จึงมีกลุ่มทุนจีนพัฒนาพื้นที่ชายแดนฝั่งกัมพูชา เป็นเมืองใหม่ “ทมอดาซิตี้” ตามมาด้วย “กาสิโนทมอดา” หรือคนไทยเรียกว่า “บ่อนท่าเส้น”

เจ้าของกาสิโนทมอดาคือ “ออกญาตรี เพียบ” ที่ได้สัมปทานในการทำป่าไม้ทั้งหมดในเขมร และมีความใกล้ชิด “บุน รานี” คู่ชีวิตฮุนเซน 

ปฏิบัติการทางทหารของไทยต่อกาสิโนดังกล่าวข้างต้น ส่วนใหญ่ใช้เครื่องบินทิ้งระเบิด และปืนใหญ่ยิงถล่ม ยกเว้นกาสิโนทมอดา ทหารเรือได้ยิงจรวดโทว์ ขีปนาวุธร่อนพิสัยไกล เข้าทำลายส่วนบนยอดตึกเพื่อทำลายฐานบังคับโดรนทหารเขมร

ดังที่ทราบกัน การสู้รบรอบนี้ ทหารเขมรได้ใช้อาวุธ “โดรนพลีชีพ” และใช้พื้นที่ “กาสิโน” เป็นฐานบังคับโดรน กองทัพไทยจึงต้องมุ่งทำลายอาคารกาสิโนอย่างต่อเนื่อง