ตระกูล ‘คุณปลื้ม’ เอาไง ‘เด็กบ้านใหญ่’ โผล่หนุน ‘หนู’

เลือกตั้งสมัยหน้า “บ้านใหญ่เมืองชล” ยังสวมเสื้อสีแดง หรือจะเลือกเส้นทางใหม่ “พลังบูรพา” พรรคอะไหล่ยังรออยู่

ในจำนวนรายชื่อ สส. 146 คน ที่ประกาศสนับสนุน อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นนายกรัฐมนตรี พบว่า มาจากพรรคเพื่อไทย 8 คน นำโดย ศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ สส.กาญจนบุรี เขต 4

ศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ เป็นหนึ่งเดียวของ สส.เมืองกาญจน์ ค่ายสีแดง ที่ไม่ได้สังกัดซุ้มบ้านใหญ่ “หมอหนุ่ย” สุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม

ที่เหลืออีก 7 คน เป็นตะวันออก 2 คนคือ อนันต์ ปรีดาสุทธิจิตต์ สส.ชลบุรี เขต 5 และ พล.ต.ต.สุรพล บุญมา สส.นครนายก เขต 1

อีสานเหนือ 1 คนคือ ประเสริฐ บุญเรือง สส.กาฬสินธุ์ เขต 6

อีสานกลาง 2 คนคือ กิตติ สมทรัพย์ สส.ร้อยเอ็ด เขต 6 และ นรากร เมืองนารักษ์ สส.ร้อยเอ็ด เขต 4

อีสานใต้ 2 คนคือ นพ.ภูมินทร์ ลีธีรประเสริฐ สส.ศรีสะเกษ เขต 4 และนุชนาถ จารุวงษ์เสถียร สส.ศรีสะเกษ เขต 9

มี สส.สมัยแรกอย่าง อนันต์ ปรีดาสุทธิจิตต์ สส.ชลบุรี เขต 5 (อ.พนัสนิคม และ อ.เกาะจันทร์) ซึ่งสังกัดซุ้มบ้านใหญ่ตระกูล “คุณปลื้ม” มาร่วมขบวนแหกค่ายสีแดงด้วย

“สจ.นัน” อนันต์ ปรีดาสุทธิจิตต์ เป็น ส.อบจ.ชลบุรี เขต อ.เกาะจันทร์ กลุ่มเรารักชลบุรี และอยู่ในเครือข่าย วิทยา คุณปลื้ม นายก อบจ.ชลบุรี มาหลายสมัย

ก่อนลงสนามผู้แทนฯ “สจ.นัน” ประธานสภา อบจ.ชลบุรี จึงได้รับความไว้วางใจจาก สนธยา คุณปลื้ม ให้ลงสมัคร สส.ชลบุรี ในนามพรรคเพื่อไทย

อย่างที่ทราบกัน บ้านใหญ่ “คุณปลื้ม” ในสีเสื้อเพื่อไทย พ่ายเกือบทุกเขต ยกเว้นเขต 5 “สจ.นัน” เข้าป้าย และ สส.หนึ่งเดียวที่กู้หน้าบ้านใหญ่เมืองชล

ไม่แน่ใจว่า อนันต์ ปรีดาสุทธิจิตต์ ตัดสินใจทิ้งพรรคเพื่อไทย ได้บอกกล่าวกับสนธยา คุณปลื้ม หรือไม่

อีกด้านหนึ่ง บ้านใหญ่เมืองชล อาจกำลังจะตัดสินใจทางการเมืองอีกครั้ง เพราะอย่าลืมว่า “พรรคพลังบูรพา” ยังเป็นพรรคสำรองของ “ตระกูลคุณปลื้ม”

สมัยที่แล้ว สนธยาตัดสินใจเกือบนาทีสุดท้ายที่เลือกสวมเสื้อสีแดง หลังปี 2562 พาซุ้มบ้านใหญ่ไปสังกัดพรรคลุง แล้วเกิดความขัดแย้งกับสุชาติ ชมกลิ่น

สส.สายตะวันออกอีกคนหนึ่งคือ พล.ต.ต.สุรพล บุญมา สส.นครนายก เขต 1 (อ.เมืองนครนายก อ.ปากพลี) น้องชาย ธวัชชัย บุญมา อดีต สว.นครนายก

“ผู้การแดง” พล.ต.ต.สุรพล บุญมา อดีตรองผู้บังคับการตำรวจภูธรนครนายก ลงเล่นการเมืองครั้งแรก ในสีเสื้อเพื่อไทย แต่ก็อยู่กันคนละสายกับ “เสี่ยแหมะ” สิทธิชัย กิตติธเนศวร อดีต สส.นครนายก

ระยะหลัง “ผู้การแดง” ไปไหนมาไหนกับ “เสี่ยอ๋า” วุฒิชัย กิตติธเนศวร อดีต สส.นครนายก พรรคภูมิใจไทย

หันไปสำรวจ สส.อีสานที่อำลา “นายใหญ่” ในล็อตแรก ปรากฏว่า มี สส. 6 สมัย 2 คนคือ กิตติ สมทรัพย์ สส.ร้อยเอ็ด และ ประเสริฐ บุญเรือง สส.กาฬสินธุ์

“กำนันหิด” ประเสริฐ บุญเรือง สส.กาฬสินธุ์ เขต 6 บ้านใหญ่ อ.เขาวง ที่มีฐานเสียงเป็นคนภูไท และได้รับเลือกเป็น สส.เมืองน้ำดำ ในนามพรรคความหวังใหม่ ก่อนจะย้ายมาพรรคไทยรักไทย

สมัยแดงทั้งแผ่นดิน “กำนันหิด” ก็เป็นแกนนำ นปช.โซนเมืองน้ำดำ ทุ่มทุนปลุกคนเสื้อแดงสู้เพื่อนายใหญ่ และไม่ทิ้งพรรคเพื่อไทย

ช่วงการจัดตั้งรัฐบาลแพทองธาร “กำนันหิด” มีความน้อยใจที่ไม่ได้รับการดูแลจากพรรค ทั้งที่เป็น สส.อาวุโส

“เสี่ยโบ้” กิตติ สมทรัพย์ สส.ร้อยเอ็ด เขต 6 (อ.สุวรรณภูมิ อ.โพนทราย และ อ.หนองฮี) เติบโตมาจากตระกูลพ่อค้าชาวจีนที่ฝังรกรากอยู่ใน อ.สุวรรณภูมิ

กิตติลงเล่นการเมืองแจ้งเกิดในนามพรรคไทยรักไทย ปี 2544 โดยปักหลักอยู่กับพรรคทักษิณมาตลอด คาดว่า สมัยหน้า กิตติ สมทรัพย์ อาจส่งภรรยา-ภัทรวดี สมทรัพย์ ลงสนามแทน

ส่วน นรากร นาเมืองรักษ์ สส.ร้อยเอ็ด เขต 4 (อ.เสลภูมิ อ.ธวัชบุรี และ อ.ทุ่งเขาหลวง) เป็นลูกชาย นิรันดร์ นาเมืองรักษ์ อดีต สส.ร้อยเอ็ด 7 สมัย มีฐานเสียงหลักอยู่ในเขต อ.เสลภูมิ

ส่วน สส.อีสานใต้ 2 คน ที่ทิ้งเพื่อไทยนั้น มีเหตุผลมาจากแบรนด์ชินวัตรติดลบจากวิกฤติชายแดนไทย-กัมพูชา

นพ.ภูมินทร์ ลีธีระประเสริฐ สส.ศรีสะเกษ เขต 4 (อ.กันทรลักษณ์) เป็นคนโคราชมารับราชการที่ จ.ศรีสะเกษ เป็น สส.สมัยแรก ในนามพรรคความหวังใหม่ ปี 2535 และย้ายมาพรรคไทยรักไทย

หมอภูมินทร์ ทิ้งพรรคทักษิณไป 3 สมัย ก่อนจะกลับมาเพื่อไทย และได้เป็น สส.ศรีสะเกษอีกครั้งเมื่อปี 2566

“ครูนุช” นุชนาถ จารุวงษ์เสถียร สส.ศรีสะเกษ เขต 9 เป็นผู้แทนฯหน้าใหม่ ไม่แคร์กระแส “งูเห่าสีแดง” เพราะความนิยมเพื่อไทยตกต่ำ และตัวครูนุชมั่นใจในฐานเสียงส่วนตัว

ว่ากันว่า สส.เพื่อไทยทั้ง 8 คนนี้ จะตามศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ ย้ายไปสังกัดพรรคภูมิใจไทย ในการเลือกตั้งสมัยหน้า ผู้ที่เชื่อม “ศักดิ์ดา” กับค่ายสีน้ำเงินคือ สิรภพ ดวงสอดศรี อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน(พิพัฒน์ รัชกิจประการ)

หลัง “อนุทิน” ก้าวขึ้นเป็นนายกฯคนใหม่ คาดว่าจะมี สส.เพื่อไทยไหลออกจากพรรคอีกจำนวนหนึ่ง โดยเฉพาะ สส.อีสาน ที่ได้รับผลกระทบจากกระแสคนรักชาติ ไม่เอาตระกูลชินวัตร