เปลี่ยน‘ม้ากลางศึก’กัมพูชา 3 เดือนแห่งความปั่นป่วน

เปลี่ยน‘ม้ากลางศึก’กัมพูชา  3 เดือนแห่งความปั่นป่วน

ท่ามกลางไทม์ไลน์การเมืองรุกไล่รัฐบาล ต้องเผชิญปัญหาภายใน-ภายนอกประเทศ และปัจจัยแทรกซ้อน ในช่วงคะแนนนิยมดิ่งเหว "แพทองธาร” จะอาศัยจังหวะชิงยุบสภาเป็น “รัฐบาลรักษาการ” หรือรอให้เกิดอุบัติเหตุการเมือง

KEY

POINTS

  • คลิปเสียงสนทนา “ฮุน เซน” เหมือนพายุโหมกระหน่ำ “แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี ไม่หยุดหย่อน
  • กลุ่มการเมือง องค์กรและภาคประชาชนหลายจังหวัด ต่างออกมาเคลื่อนไหว แจ้งความนายกฯ ร้ององค์กรอิสระตรวจสอบและจัดม็อบขับไล่รัฐบาล

สถานการณ์ ชายแดนไทย-กัมพูชา งวดเข้ามาทุกขณะ วัดได้จาก “กองทัพ” ยกระดับมาตรการเปิดด่าน ให้เฉพาะการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเท่านั้น ใน 7 จังหวัด สระแก้ว บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี จันทบุรี ตราด

ขณะที่เสถียรภาพ “รัฐบาลไทย” กลับไม่มั่นคง ด้วยปัจจัยแทรกซ้อนจาก การปรับ ครม. หลังเพื่อไทยประกาศยึดคืนกระทรวงมหาดไทย เป็นฟางเส้นสุดท้ายของภูมิใจไทย ที่ถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาล ไปทำหน้าที่ฝ่ายค้าน

ส่วนปัจจัยหลัก คลิปเสียงสนทนา “ฮุน เซน” เหมือนพายุโหมกระหน่ำ “แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี ไม่หยุดหย่อน ประกอบกับภาพความสนิทสนมของสองตระกูล ส่งผลให้สังคมไม่ไว้วางใจในการทำหน้าที่ปกป้องผลประโยชน์ชาติ

จึงเป็นที่มาของคำถาม หากไม่มีคลิปเสียง มาตรการต่างๆ ที่กองทัพเตรียมไว้ อาจถูกติดเบรก-แช่แข็ง ตั้งแต่การกวาดล้างอาชญากรรมออนไลน์ แก๊งคอลเซนเตอร์ การปิดด่าน ก็ยังคงเก็บใส่ลิ้นชักไว้เช่นเดิมหรือไม่ จึงส่งผลให้เสียงเรียกร้องให้นายกฯลาออก-ยุบสภาไม่สางซา

ล่าสุด กลุ่มการเมือง องค์กรและภาคประชาชนหลายจังหวัด ที่ออกมาเคลื่อนไหว ไล่เรียงได้ดังนี้

การแจ้งความดำเนินคดี นายกฯแพทองธาร เช่น กลุ่มสมชาย แสวงการ อดีตสว. องค์กรต่อต้านคอรัปชั่นภาคพลเมือง จ.ขอนแก่น กลุ่มประชาชน จ.เลย สภาประชาชน 4 ภาค จ.นครราชสีมา สภาประชาชน 4 ภาค พร้อมเครือข่าย จ.สงขลา

“ศรีสุวรรณ จรรยา” ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน ยื่นคำร้อง ป.ป.ช. ขอให้ไต่สวนและมีความเห็นกล่าวหา “แพทองธาร ” ปฏิบัติหน้าที่ขัดรัฐธรรมนูญรวมถึงฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงหรือไม่

“เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ” สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ร้อง กกต. ตรวจสอบ “แพทองธาร” มีความไม่ซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ อันเป็นการฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญและเข้าข่ายเป็นเหตุให้ความเป็นนายกฯสิ้นสุดลง

28 มิ.ย. กลุ่มพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตย นำโดย จตุพร พรหมพันธุ์ ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ นิติธร ล้ำเหลือ พิชิต ไชยมงคล แก้วสรร อติโพธิ ชุมนุมที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ แสดงพลังขับไล่รัฐบาล

 1 ก.ค. ศาลรัฐธรรมนูญจะรับวินิจฉัย หลัง 36 สว.ยื่นให้ตรวจสอบคลิปเสียง “นายกฯ” กระทำขัดรัฐธรรมนูญ ไม่ซื่อสัตย์สุจริต และ ฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมร้ายแรง พร้อมขอให้สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่หรือไม่

นายกฯ “แพทองธาร” เหมือนตกอยู่ในจังหวะนรก ปมคลิปเสียงฮุน เซน ถูกผูกโยงว่า รู้เห็นคดีเหตุลอบสังหาร “ลิม กิมยา” นักการเมืองฝ่ายค้านกัมพูชา ใน กทม.เมื่อต้นปีที่ผ่านมา

“รัฐบาลควรพุ่งเป้าเรื่องการสืบสวนข้อเท็จจริง การสังหารนักการเมืองฝ่ายค้านกัมพูชาในประเทศไทย ซึ่งเป็นความเร่งด่วนที่รัฐบาลต้องดำเนินการ สร้างแต้มต่อในเวทีต่างประเทศ ว่าเรายึดมั่นหลักสากล และสิทธิมนุษยชน รับมือกรณีข้อพิพาทระหว่างไทยกับกัมพูชา ลุกลามถึงเวทีนานาชาติ”

“ถ้านายกฯจริงจัง เดินหน้าเรื่องนี้ จะลบข้อครหา ว่าตนเองรับรู้เกี่ยวกับเหตุการณ์นี้หรือไม่ เพราะเกิดขึ้นช่วง น.ส.แพทองธาร เป็นนายกฯ ถ้าไม่ดำเนินการ คนก็จะตั้งคำถามต่อว่า สาเหตุที่ไม่ดำเนินการ เป็นเพราะรับรู้ด้วยหรือไม่” พริษฐ์ วัชรสินธุ โฆษกพรรคประชาชน ระบุ

ขณะที่ “พรรคภูมิใจไทย”ในฐานะฝ่ายค้าน เร่งเกมในสภาฯ เตรียมยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 151 ต่อ “นายกฯ และครม.” หลังสภาฯ เปิดประชุม3 ก.ค.นี้

ฉากทัศน์ของรัฐบาล “แพทองธาร” ถูกประเมินว่า อยู่ได้แบบวันต่อวัน แม้จะยื้อเวลา ขอโอกาสแก้ปัญหา หวังกู้วิกฤติศรัทธาประชาชนจนกว่าร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ผ่านสภาฯ ก่อนพิจารณาตัวเองอีกครั้ง

“นายกฯหมดคุณสมบัติ อยู่ไปก็คงยาก 2-3 เดือนก็เต็มที่แล้ว เพราะขณะนี้กระแสไปเร็วมาก ส่วนข่าวนายกฯจะลาออกหลัง ร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯผ่านสภา ผมคิดว่าไม่จำเป็น เพราะอีก 3 เดือนกว่าจะผ่าน ปัญหาคือจะอยู่ถึงหรือไม่” วิทยา แก้วภราดัย รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ระบุ

ด้าน “ฮุน เซน” ยังไม่หยุดความเคลื่อนไหว โพสต์ข้อความทำนายทายทัก อนาคตแพทองธาร คาดว่าประเทศไทยจะมีนายกฯ คนใหม่ภายใน 3 เดือนข้างหน้า

ห้วง 3 เดือนอันตราย “นายกฯ-รัฐบาล” ไร้เสถียรภาพ ขาดความเชื่อมั่น นำมาซึ่งภัยแทรกซ้อน กลุ่มไม่หวังดีฉวยจังหวะซ้ำเติมวิกฤติประเทศ เช่น การก่อความไม่สงบจังหวัดชายแดนภาคใต้ ช่วงค่ำ 25 มิ.ย.

สอดรับกับกรณีตำรวจจับกุมผู้ต้องสงสัยนำจักรยานยนต์ ซุกซ่อนวัตถุต้องสงสัยจอดทิ้งไว้ที่ท่าอากาศยานภูเก็ต ก่อนเจ้าหน้าที่ ชุด EOD เข้ามาเก็บกู้ และทำลายวัตถุต้องสงสัย รวมถึงหาดป่าตอง และที่ จ.กระบี่ อีก 2 จุด

พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการรทหารบก ในฐานะ รองผอ.กอ.รมน. ประชุมหน่วยขึ้นตรง กอ.รมน. เน้นย้ำงานด้านข่าวกรอง และมวลชนพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ป้องกันคนร้ายสร้างสถานการณ์ในห้วงประเทศประสบปัญหาไม่มั่นคง

เช่นเดียวกับ สถานการณ์ชายแดน ไทย-กัมพูชา ผบ.ทบ.ขอให้ กอ.รมน. สนับสนุน กองทัพภาคที่ 1 และกองทัพภาคที่ 2 เฝ้าระวังตรวจสอบแรงงานเข้าเมืองผิดกฎหมายทั่วประเทศ

ตามข้อสันนิษฐาน ก่อนชายแดนไทย-กัมพูชา ปะทุ ความปั่นป่วนจะเกิดภายในประเทศก่อน จากบทเรียนในอดีตก็มีให้เห็น ทั้งการสู้รบกับกัมพูชาปี 2554 การเผาสถานทูตไทยในกัมพูชาปี 2546 นำมาซึ่งความสับสนอลม่าน

อนาคต 3 เดือน ไม่เพียง“เก้าอี้นายกฯ”อาจเกิดความเปลี่ยนแปลง แต่รวมถึงตำแหน่ง “แม่ทัพภาคที่ 2” คนที่เข้ามารับไม้ต่อจาก“แม่ทัพกุ้ง” พล.ท.บุญสิน พาดกลาง ที่จะเกษียณอายุราชการในเดือนกันยายนนี้

โฟกัสไปที่ “รองเติ่ง” พล.ต.วีระยุทธ รักศิลป์ รองแม่ทัพภาคที่ 2 ซึ่งดูสายงานยุทธการและการข่าว เพื่อนเตรียมทหารรุ่น 26 ของ ผบ.ทบ.และ “แม่ทัพกุ้ง” ถูกวางตัวเข้ามารับไม้ต่อ ในช่วงไฟต์บังคับ ที่ต้องเปลี่ยนม้ากลางศึก

เช่นเดียวกับตำแหน่ง “รมว.กลาโหม” ฝุ่นตลบในการปรับครม. ความพยายามของฝ่ายการเมืองส่งชื่อ “บิ๊กนัย” พล.อ.สุนัย ประภูชะเนย์ อดีต ผบ.หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ ทีมงาน “ทวี สอดส่อง”รมว.ยุติธรรม ซึ่งเคยปรากฏตัว เมื่อวันที่ “ทักษิณ ชินวัตร” ไปปาฐกถาปราบปรามยาเสพติด

ส่วน “บิ๊กเล็ก”พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ ศบ.ทก.แคนดิเดต รมว.กลาโหมอีกคน

ท่ามกลางไทม์ไลน์การเมืองรุกไล่รัฐบาล ต้องเผชิญปัญหาภายใน-ภายนอกประเทศ และปัจจัยแทรกซ้อน สถานการณ์ในช่วงคะแนนนิยมดิ่งเหว ก็เป็นเรื่องน่าคิดว่า ในห้วง 3 เดือนต่อจากนี้ นายกฯ“แพทองธาร” จะอาศัยจังหวะชิงยุบสภาเป็น “รัฐบาลรักษาการ” หรือรอให้เกิดอุบัติเหตุการเมือง