‘เรือดำน้ำ’ ทางสองแพร่ง ปชน.รุกไล่ ‘สหายใหญ่’คุมเกม

หลังศึกซักฟอกและปรับ ครม. ประมาณ พ.ค. หากเก้าอี้ รมว.กลาโหม ไม่ถูกเปลี่ยนตัว “ภูมิธรรม”ย่อมไม่พ้นเซ็นอนุมัติ “เรือดำน้ำ”ติดเครื่องยนต์จีน เสนอ ครม.เห็นชอบ
KEY
POINTS
- เรือดำน้ำ กลายเป็นเรื่องการเมือง ถูกยกมาเป็นเครื่องมือโจมตีรัฐบาล ด้วยเหตุผลหลายประการ หนึ่งในนั้น เครื่องยนต์ไม่ตรงปก
- ภูมิธรรม ยังไม่ตัดสินใจลงนามเสนอ ครม. เพราะไม่ว่าจะเดินหน้าหรือยกเลิกสัญญา จะเป็นประเด็นฝ่ายค้านเขย่าเสถียรภาพรัฐบาล ในเวทีศึกซักฟอก
ภายหลังการลงพื้นที่สัตหีบ จังหวัดชลบุรี ของ 2 แกนนำพรรคประชาชน วิโรจน์ ลักขณาอดิศร คณะกรรมาธิการการทหาร และ สุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ กรรมาธิการติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร เพื่อติดตามความคืบหน้าการก่อสร้าง ท่าจอดเรือดำน้ำ โรงซ่อมบำรุงเรือดำน้ำ และความล่าช้าโครงการจัดซื้อเรือดำน้ำ ที่กรมสรรพาวุธ ทหารเรือ โดยมี พลเรือเอก ณัฏฐพล เดี่ยววานิช ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ ให้การต้อนรับ
สุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ทวีต ข้อความระบุ เรือดำน้ำ นิ่ง รอ รมต. ตัดสินใจว่าจะเอายังไง ต่อกรณีสืบเนื่องมาจากการจัดซื้ออันอื้อฉาวส่งผลผูกพัน มาจนถึงปัจจุบัน น่าจับตา อาจมีการทิ้งงานทางเรือดำน้ำ
เรือดำน้ำ กลายเป็นเรื่องการเมือง ถูกยกมาเป็นเครื่องมือโจมตีรัฐบาล ด้วยเหตุผลหลายประการ หนึ่งในนั้น เครื่องยนต์เรือดำน้ำไม่ตรงปก ในขณะที่กระแสสังคมเห็นด้วย หากยกเลิกโครงการดังกล่าว
จึงเป็นสาเหตุ ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.กลาโหม ยังไม่ตัดสินใจลงนามเสนอเรื่องเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ให้เดินหน้า หรือยกเลิกเรือดำน้ำ เพราะกำลังชั่งน้ำหนักกับผลลัพธ์ที่จะตามมา
แน่นอนว่า หากเดินหน้า กองทัพเรือได้เรือดำน้ำตามความต้องการด้านยุทธการ และจีนชดเชยที่ทำเสียโอกาส ด้วยการเพิ่มการรับประกันร่วม200 ล้าน เช่น ประกันอะไหล่ ให้ตอร์ปิโดฝึก ขยายเวลาประกันเครื่องยนต์จาก 2 ปี เป็น 8 ปี ขยายเวลาการอบรมเจ้าหน้าที่ทางเทคนิค
แต่สวนกระแสสังคม ย้อนแย้งกับจุดยืน “พรรคเพื่อไทย” ในยุคเป็นฝ่ายค้าน ที่พยายามจมเรือดำน้ำมาตลอด และเป็นเงื่อนไขให้พรรค ปชน.ฝ่ายค้าน หยิบยกมาเขย่าเสถียรภาพรัฐบาลได้
ทว่า หากยกเลิกสัญญา กระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เพราะการยกเลิกสัญญาเป็นเรื่องที่ร้ายแรงที่สุดใน การจัดซื้อแบบจีทูจี ตามระเบียบ ตามกฎหมาย จึงพยายามให้ 2 ฝ่ายเจรจา ไม่เช่นนั้นปัญหาจะขยายไปหลายประเด็น
ส่วนรัฐบาลจะตกเป็นจำเลย เสี่ยงทำผิดกฎหมาย เพราะหากพิจารณาข้อกำหนดความต้องการตาม TOR ระบุว่า เป็นเครื่องยนต์โดยเขียนรวมๆ ว่า ต้องการ Diesel Generator Set โดยไม่ได้ระบุว่าต้องเป็น MTU 396 ของเยอรมัน แต่จีนเป็นฝ่ายเสนอ จึงเป็นที่มาของการทำสัญญา
กลายเป็นช่องว่าง เมื่อเกิดปัญหาจีนไม่สามารถจัดหาเครื่อง MTU 396 เยอรมันได้ จึงเสนอเครื่องยนต์ CHD 620 ที่จีนผลิต ซึ่งมีคุณสมบัติไม่ได้ผิดเพี้ยนไปจาก TOR ที่กำหนด และหากยกเลิกสัญญา ไทยจะไม่ได้รับการชดเชยใดๆ จากจีนทั้งสิ้น ทั้งค่างวดที่จ่ายไปแล้ว 10 งวด คิดเป็น 60% เป็นจำนวนเงิน 7,700 ล้านบาท รวมถึงตัวเรือดำน้ำ ที่สร้างเสร็จไปแล้ว 64% จีนไม่คืนให้
ประเด็นนี้ ย่อมไม่พ้นนำไปสู่การอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้าน เพราะรัฐบาลทำสูญเงิน โดยเปล่าประโยชน์ ไม่ได้อะไรกลับคืนมา อีกทั้งกองทัพเรือ ยังยืนยันความจำเป็นต้องมีเรือดำน้ำ
“ภูมิธรรม” จึงเตะถ่วง ขอเวลา 6 เดือน หาช่องทางแก้ปัญหาเรือดำน้ำ ยึดโมเดลเดียวกับ “สุทิน”ซึ่งรู้คำตอบอยู่แล้วว่าไม่ได้ ทั้งเจรจาขอให้รัฐบาลเยอรมันขายเครื่องยนต์เรือดำน้ำ MTU 396 ให้รัฐบาลไทย
หรือรอข้อมูลจากกองทัพเรือปากีสถาน ที่กำลังทดลองเรือดำน้ำจีนติดเครื่องยนต์ CHD620 ที่จีนผลิตเอง ภายในเวลา 3-4 เดือน แต่ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร ก็ถือเป็นข้อมูลลับระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย ไม่เปิดเผยให้ประเทศที่ 3 รู้
ประจวบเหมาะให้ผ่านพ้นการอภิปรายไม่ไว้วางใจ “แพทองธาร ชินวัตร” นายกฯ ในเดือนมีนาคมนี้ รวมถึงกระแสข่าวการปรับ ครม.ที่เกิดขึ้นประมาณ พ.ค.
หากเก้าอี้ รมว.กลาโหมไม่ถูกเปลี่ยนตัว “ภูมิธรรม”ย่อมไม่พ้น ต้องทำหน้าที่เซ็นอนุมัติ “เรือดำน้ำ”ติดเครื่องยนต์จีน เสนอ ครม.เห็นชอบ และมอบหมาย ผบ.ทร.เป็นผู้แทนรัฐบาล เดินทางไปลงนามเปลี่ยนแปลงสัญญาขยายกรอบเวลาต่อไป







