“นายกฯคนใหม่: งานหิน หรืองานเหล็ก”

 “นายกฯคนใหม่: งานหิน หรืองานเหล็ก”

อ่านเรื่องที่ผมจะเล่าต่อไปนี้ แล้วคุณอาจจะได้คำตอบครับ

วันเสาร์ที่ผ่านมา ผมนั่งรถจากอังกฤษข้ามไปสก็อตแลนด์ พอพ้นเขตแดนก็ได้พบชุมชนเล็กๆ ชื่อว่า “Gretna Green”

ที่นี่มีตำนานของ “ช่างตีเหล็ก” เพราะเมื่อเกือบ 300 ปีมาแล้ว สก็อตแลนด์ได้เปลี่ยนกฎหมายให้การแต่งงาน ทำได้ง่ายขึ้น คู่รักอายุต่ำกว่า 21 ปี ถ้ามี “พยาน 2 คน” ก็สมรสได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายแล้ว

จุดเริ่มต้นมีเพียงแค่นั้นครับ แต่สิ่งที่ตามมา กลายเป็นประวัติศาสตร์รัก ของคู่ชีวิตอันลือลั่นหลายพันคู่

“รักเรามีปีก บินหลีกข้ามฟ้า ไปมาหากัน ขอให้รักฉัน แน่นอนเท่านั้น ฟ้าดินเกรงกลัว…..”

 

ขนาดฟ้าดินยังเกรงกลัว สกัดกั้นความรักไว้ไม่ได้ แล้วประสาอะไร กับชายแดนประเทศเล่าครับ

กฎหมายฉบับนั้น ทำให้คู่รักมากมายจากประเทศอังกฤษ ที่ต้องประสบกับปัญหา “รักต้องห้าม” จากผู้ปกครอง หรือศาสนา  ต่างโผผินบินไปเชื่อมชีวิตกัน ที่สก็อตแลนด์

พอพ้นชายแดน คู่รักก็มองหา “พยาน 2 คน”  เพื่อประกอบพิธีสมรสโดยเร็ว รักจะไม่ต้องห้ามอีกต่อไป หัวใจรอไม่ได้อีกแล้ว

หมู่บ้านเล็กนิดเดียวอย่าง  “Gretna Green” มีคนไม่กี่คน เหลียวมองไปมาก็เห็น ช่างตีเหล็ก ทำงานอยู่กับลูกน้องอีก 1 คน 

ครบ “2 คน” พอดี ตรงกับที่กฎหมายกำหนดไว้ ก็หัวใจมันเรียกร้องขนาดนั้น จะไปหาพยานอื่นไกลที่ไหนให้เสียเวลา แต่งกันตรงนี้นี่แหละ!

ช่างตีเหล็กกับลูกน้อง เลยต้องทำหน้าที่เป็นสักขีพยาน และประกอบพิธีสมรสให้ และหลังจากนั้นคู่รักทุกคู่ที่มาที่นี่ ก็เริ่มต้นชีวิตสมรสอย่างถูกต้องตามกฎหมาย…. มากมายหลายพันคู่ 

ช่างตีเหล็กได้ใช้ “แท่นตีเหล็ก” นั่นแหละ มาเป็นแท่นพิธีในการสมรส

“แท่นตีเหล็ก” แท่นนั้น ยังคงอยู่ครับ ผมไปสัมผัสมาแล้ว ได้เห็นแท่นตีเหล็กต้นตำนานแห่งความรัก ที่ไม่มีใครสกัดกั้นได้  ใครอยากเห็นก็ดูภาพใน fb ผมได้นะ

ถ้าเล่ามากไปกว่านี้ อารมณ์โรแมนติกของผม จะเริ่มโบยบินแล้วครับ ผมว่าเรากลับมาเรื่อง “นายกรัฐมนตรี” ดีกว่า ว่ามันเป็น “งานหิน” หรือ “งานเหล็ก”

งานของนายกรัฐมนตรี ยังไงก็ “งานหิน” …ชัดๆอยู่แล้วนะครับ

แต่ผมคิดว่า มันคือ “งานเหล็ก” และนายกฯคนต่อไปต้องเป็น “ช่างตีเหล็ก”

ช่างตีเหล็ก คือผู้ที่ใช้ทั้ง “ความร้อน” และ “พลัง” ในการ “หลอมรวมโลหะ” ให้เป็นเนื้อเดียวกัน

ช่างตีเหล็กที่ Gretna Green ได้เลิกตีเหล็ก ซึ่งเป็นงาน “หลอมรวมโลหะ” ให้เป็นเนื้อเดียวกัน มาเป็นผู้ที่ “หลอมรวมความรัก” ของทุกคู่ ให้เป็นเนื้อเดียวกัน

นายกฯคนต่อไป ผมคิดว่าจะต้องทำหน้าที่ “หลอมรวม” ความขัดแย้งทุกมิติ ไม่ว่าขัดแย้งทางการเมือง ทางความคิด ความแตกแยกระหว่างวัย ความเห็นต่างในเรื่องสถาบัน ความเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมดั้งเดิม สู่วัฒนธรรมใหม่ ฯลฯ

ประเด็นเหล่านี้ “ร้อน” ทั้งนั้นครับ แต่เมื่อช่างตีเหล็ก สามารถใช้ “ความร้อน” ในการหลอมรวมโลหะต่างๆ จนเป็นเนื้อเดียวกันได้ คนที่อาสามาเป็นนายกรัฐมนตรี ก็ต้องสามารถหลอมรวมให้ความแตกต่างทางความคิด สามารถอยู่ด้วยกันได้ และสามัคคีเป็นเนื้อเดียวกันได้

งานของช่างตีเหล็กต้องอยู่กับความร้อน ต้องเหงื่อไหลไคลย้อย กว่าจะตีเหล็กให้ เป็นเนื้อเดียวกันสำเร็จ ดังนั้นนายกฯก็จะต้องทำงานกับความร้อน และต้องเหน็ดเหนื่อย ยิ่งกว่า “งานหิน” ทั่วๆไป อีกเยอะมาก 

มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยครับ โดยเฉพาะความร้อนแรงของสถานการณ์ขัดแย้งในบ้านเมืองเรา ที่พัฒนามาถึงทุกวันนี้

แต่การตีเหล็ก ไม่ใช่แค่ตีโลหะให้เป็นเนื้อเดียวกันเท่านั้น ช่างตีเหล็กต้องตีให้ออกมาเป็น “รูปทรง” ที่ต้องการด้วย ไม่ว่าจะเป็น  ลูกกรง  หน้าต่าง มีด ขวาน ของใช้ หรือ เฟอร์นิเจอร์ 

ถามว่าประเทศไทยของเรา มี “รูปทรง” ที่เราอยากให้นายกฯคนใหม่ ช่างตีเหล็กของเรา ตีให้ออกมาในรูปทรงแบบนั้นไหม 

ผมว่าเรามีนะ อย่างน้อยที่สุดเราก็ต้องการรูปทรงที่ไม่มีคอรัปชั่น ไม่มีเล่นพรรคเล่นพวก ไม่มีวาระซ่อนเร้น และมีระบบคุณธรรม ระบบสุขภาพ ระบบการศึกษา ที่ดี ฯลฯ 

ถ้านายกฯ ตีเหล็กเก่งและสร้างรูปทรงออกมาได้เช่นนั้น เราจะได้ความขัดแย้งที่น้อยลง ความสุขของคนไทยจะมากขึ้น เฉกเช่นคู่รักที่ไปเชื่อมชีวิต ที่ Gretna Green เหมือนกัน

ผมขอย้ำว่านายกฯคนใหม่ ต้องทั้ง “หลอมรวม” และ “ขึ้นรูปทรง” ถ้าหลอมรวมไม่ได้ ก็ขึ้นรูปทรงไม่ได้ ถ้าหลอมรวมได้ แต่ขึ้นรูปทรงไม่ได้ ก็ไม่ได้อะไรออกมา

สรุปคือ นายกฯต้องมีฝีมือและต้องกล้าตีเหล็ก แต่ที่ผ่านมานายกฯเกือบทุกคนมักไม่มีโอกาส และ/หรือ ไม่กล้าพอที่จะทำเช่นนั้น ทำให้รูปทรงของประเทศไทยเรา ยังเป็นเช่นนี้

ส่วนใหญ่เพียงแค่เอามือลูบคลำไปที่ปัญหาที่ร้อนผ่าว แต่พอลูบไปที่ใบหน้าของปัญหาทีไร ก็ปะจมูกแทบทุกครั้งไป เลยได้แต่เงื้อ แล้วไม่ได้ตีเหล็กจริงจังสักที 

เราจึงไม่เคยได้มีด ได้ขวาน ได้เฟอร์นิเจอร์ ฯลฯ ตามรูปทรงที่เราวาดไว้ และไม่ได้รับการหลอมรวมที่สร้างสรรค์ของคนไทย

เราจึงมาถึง วันที่เยาวชนตำหนิผู้ใหญ่ และผู้ใหญ่ก็ตำหนิเยาวชน ใช้ถ้อยคำรุนแรงต่อกัน เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนเยาวชนมีชุดความคิดใหม่ๆ ที่ผู้ใหญ่รับไม่ได้ แล้วทั้งสองฝ่ายก็ห่างกันไปเรื่อยๆ

เลือกตั้งครั้งนี้ ผลเป็นอย่างไร อีกสองวันก็รู้ แต่เลือกตั้งครั้งต่อไป เยาวชนก็จะมีจำนวนเพิ่มขึ้น ผู้ใหญ่ก็จะค่อยๆหายไป วันนั้นประเทศก็อยู่ในมือของเด็กวันนี้อย่างชัดเจน

หลังเลือกตั้งครั้งนี้ ไม่ว่าใครจะมาเป็นนายกฯ ผมขอให้เป็น “ช่างตีเหล็ก” ที่กล้า ดี และมีฝีมือ นะครับ

เพื่อประชาชนจะได้เห็น “รูปทรง ของประเทศ ที่เรารอคอยกันมานาน….เสียที