ถ้ำน้ำ ราชบุรี... เมืองใต้ภูผา

โพธาราม ราชบุรี ในการรับรู้ของเด็กบ้านนอกในเมืองเพชรอย่างผม เมืองที่อยู่ติดกับราชบุรี ผมรับรู้ชื่อเสียงของโพธารามมาตลอดว่า เป็นเมืองแห่งการปลูกอ้อย อ้อยแดง อ้อยเคี้ยวกินนี่แหละ จะขึ้นชื่อมาก เป็นอ้อยเคี้ยวกินที่มีคุณภาพ อ้อยที่ขายกันที่เมืองเพชร ถ้าบอกว่าเป็นอ้อยโพธาราม ก็รับประกันได้ว่าคุณภาพดี นั่นเป็นการรับรู้สมัยผมเป็นเด็ก

จริงๆ พอโตขึ้น โพธารามสำหรับผมก็กลายเป็นเพียงเมืองผ่านลงไปราชบุรีหรือไปเพชร โดยไม่เคยแวะเข้าไปโพธารามเลย จึงทำให้ผมไม่ค่อยรู้จักโพธารามมากนัก จนกระทั่งไปเห็นภาพ...ถ้ำน้ำ ที่โพธารามนี่แหละ จึงได้รู้ว่าทำไมเราพลาดมาตั้งนาน อย่ากระนั้นเลย เราไปดูกันดีกว่า

จากลานจอดรถ มองเห็นภูเขาหินปูนโดดเด่น

ที่นี่ไปง่ายมาก ก็ไปตามถนนเพชรเกษมทางราชบุรี พอไปถึงแยกโพธาราม ก็เลี้ยวขวาเข้าไป ตามถนนสายหลัก มันจะผ่านทางแยกเข้าวัดถ้ำน้ำได้เลย เลี้ยวรถเข้าไปตามป้ายตรงสู่ลานจอดรถที่กว้างขวางนั่นเลยเลือกเอาว่าจะจอดตรงไหน หลังจากนั้นก็เตรียมไปเที่ยวถ้ำน้ำกันครับ

มาถึงตรงลานจอดรถนี้ ก็จะเห็นภูเขาหินปูนลูกไม่ใหญ่นัก ตระหง่านอยู่ตรงหน้า เดินไปที่บันไดทางขึ้นที่มีนาคขนาบข้าง ด้านล่างก่อนขึ้นไปเขาจะมีป้ายบอกในถ้ำว่าเราจะเจออะไรบ้าง ก็อย่างเช่น เจ้าแม่กวนอิม พญานาคศรีเสวก ปู่ดำ บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ฯลฯ ป้ายนี้ก็เหมือนเป็นไกด์ให้เราเที่ยวในถ้ำได้อย่างมีจุดหมาย

ทางสู่ปากถ้ำ, ป้ายบอกว่ามีอะไรในถ้ำให้ชมบ้าง, ทางลงถ้ำ

ไปครับ เดินขึ้นบันไดไปไม่มาก ไม่กี่ขั้นก็ขึ้นไปยืนบนหน้าปากถ้ำแล้ว มองลงไปด้านล่างที่เป็นปากถ้ำ เห็นมีติดไฟสว่างด้านในด้วย พอเดินตามบันไดลงไปในถ้ำก็จะเห็นทางเดินเทปูนทอดตัวอยู่เหนือน้ำ และวางตัวยาวเข้าไปในถ้ำ สะพานเหนือน้ำนี้ จะทอดตัวยาวเข้าไปตามอุโมงค์ที่เป็นโพรงในถ้ำ ที่พอเข้าไปราวกลางๆ ถ้ำ อุโมงค์นี้จะแยกไปเป็นสองทาง แต่น้ำไม่ยากสายทางด้านแยกขวา

บรรยากาศภายในถ้ำ

ปากถ้ำที่ลงมาในถ้ำ

แล้วน้ำมาจากไหน? ทั้งที่ด้านนอก หน้าถ้ำ ไม่เห็นมีคูคลองอะไรเลย หรืออาจจะมีลำธารน้ำไกลๆ ก็ได้ ที่น้ำอาจจะมุดลงดิน เข้าไปเป็นระบบน้ำใต้ดิน ก่อนน้ำจะมาโผล่ในถ้ำ แต่ไม่รู้โผล่มาตรงไหน เห็นก็แต่น้ำเจิ่งเต็มพื้นถ้ำ เดินลงไปก็เห็นเป็นแอ่งน้ำแล้ว เขาจึงทำทางเดินเหนือน้ำนั่นเอง

บางช่วง น้ำเป็นแอ่งใหญ่ ซึ่งถ้าไม่มีสะพานเดินเหนือน้ำ ก็คงต้องลุยไปแน่ๆ ตรงไหนพอเป็นแอ่งกว้าง เขาก็เลยทำเป็นน้ำพุเล็กๆ ด้านในถ้ำตกแต่งไฟส่องสว่าง ทั้งไฟสี ดูสวยงามไปอีกแบบ

ทางเดินไปในถ้ำ

ไปถึงตรงส่วนที่เป็นสามแยก ตรงนี้จะมีเสาหินย้อยลงมาจนถึงพื้น ตรงนี้มีพญานาคตัวใหญ่อยู่ตรงสามแยก ทอดตัวยาวหันหัวไปทางแยกหนึ่งของถ้ำ แยกทางด้านนี้ เป็นแยกทางเดียวกับที่น้ำไหล ลองเดินไปตามทางด้านนี้ สังเกตว่าอุโมงค์ถ้ำ จะค่อยๆ เตี้ยลงๆ น้ำก็เช่นกัน

องค์พญานาคศรีเสวก

ครั้นเดินย้อนกลับมาที่สามแยกพญานาค ซึ่งมีหินย้อยลงมาจนจรดพื้น อยู่ตรงกลางสามแยก เดินไปอีกทางแยกหนึ่ง ทางนี้จะเป็นอุโมงค์ใหญ่ มีเพดานถ้ำสูง มีที่นั่งพักด้วย ระหว่างทางตามริมผนังถ้ำก็จะมีมุมวางรูปเคารพหลายจุด กราบไหว้ สักการะตามความเชื่อได้ตามใจ

หินงอกหินย้อยที่มีอยู่บ้าง

มุมพระนอนภายในถ้ำ

เดินไปไม่ไกลก็จะเป็นบันไดขึ้นไปโถงด้านบน ซึ่งเป็นโถงกว้างพอประมาณ มีพระพุทธรูปประดิษฐาน ตรงนี้น่าจะเป็นจุดสำคัญของถ้ำน้ำแห่งนี้ มีนักท่องเที่ยวขึ้นมากราบไหว้กันไม่ขาดสายเหมือนกัน มองลงมาด้านล่างตามอุโมงค์ที่เราเดินมา ก็ดูสวยดี

เจ้าแม่กวนอิม

โถงประธานในถ้ำ ที่ขึ้นบันไดมา

อย่างที่บอกว่า ด้วยความที่เขาติดไฟส่องสว่าง เลยทำให้ไม่น่ากลัว หินงอกหินย้อยพอมีบ้าง แม้ไม่มากนักก็ตาม อากาศภายในไม่ถึงกับอบอ้าว อาจจะเพราะมีน้ำในถ้ำมากมาย เลยออกชื้นๆ เย็นๆ ก็อย่างที่บอกว่าส่วนใหญ่เขามาไหว้พระ ส่วนผมเน้นที่มาดูปรากฏการณ์ของถ้ำน้ำลอด ที่มีทั้งน้ำที่ลอดเข้าและมุดออกไป เป็นระบบน้ำใต้ดินที่มักพบเจอใต้ฐานภูเขาหินปูนในหลายๆ แห่ง ซึ่งน้ำในถ้ำแบบนี้ก็จะละลายหินปูนให้กัดกร่อนไปทีละนิดๆ จนเป็นโพรงและอาจจะผุพังลงมาในวันใดวันหนึ่งข้างหน้า

หินย้อยเหนือพื้นเลน สุดปลายถ้ำ

บ้านเรานั้น มีหลายจังหวัดที่ตัวเมืองหรือชุมชนตั้งอยู่บนสัณฐานที่เป็นหินปูน และมีระบบน้ำใต้ดิน ถ้าเอกเรย์ดูอาจจะเห็นโพรงหินปูนใต้ชุมชนที่บอบบาง รอวันถล่มลงมาแล้วก็ได้ ปรากฏการณ์ทางธรณีนั้น กว่าจะเกิดผลลัพธ์ก็กินเวลาเป็นร้อยเป็นพันปี แต่ใครจะรู้ละว่า มันจะมาแจ๊คพอร์ตเอาวันไหน

แต่ดูโดยรวมแล้ว ก็ถือว่าถ้ำน้ำแห่งนี้สวยทีเดียว…!

ก็ไม่น่าเชื่อว่าโพธารามใกล้ๆ แค่นี้ จะมีแบบนี้ให้ดูด้วย ใครที่ไม่เคยแวะโพธารามเหมือนกับตัวผม ก็ลองแวะดูหน่อย โดยเฉพาะที่ถ้ำน้ำแห่งนี้ มาแล้วไม่ผิดหวัง อันนี้ผมเชิญชวนเลยครับ