ถ้ำหินแกรนิตที่ตาก

ถ้ำหินแกรนิตที่ตาก

พาเที่ยวชม "วัดเขาถ้ำ" ในตัวเมืองตาก ตั้งอยู่บนเนินเขาหินแกรนิต มีป่าเต็งรังอยู่โดยรอบ จุดเด่นคือกองหินแกรนิตน้อยใหญ่กองทับเทินกันอยู่ด้านบน จึงถูกเรียกขานว่าถ้ำ

KEY

POINTS

  • วัดเขาถ้ำในจังหวัดตากมีลักษณะเป็นถ้ำที่เกิดจากกองหินแกรนิตขนาดใหญ่ซ้อนทับกัน ซึ่งต่างจากถ้ำหินปูนทั่วไป
  • ถ้ำหินแกรนิตนี้เกิดจากกระบวนการทางธรณีวิทยาของหินอัคนีที่เย็นตัว มีรอยแตก และถูกกัดเซาะโดยธรรมชาติเป็นเวลานาน
  • ภายในบริเวณวัด นอกจากตัวถ้ำแล้ว ยังมีสถานที่น่าสนใจอื่น ๆ เช่น พระธาตุบนยอดหิน ลานชมทิวทัศน์เมืองตาก และหินรูปร่างคล้ายช้อนยักษ์
  • ถ้ำแห่งนี้ตั้งอยู่ในตัวเมืองตาก สามารถเข้าถึงได้ง่ายจากถนนสายหลัก

นิยามคำว่า "ถ้ำ" ลองเป็นเพิง มีหลังคางุ้มออกมาบังแดด บังฝนหน่อยก็เรียกถ้ำหมด แม้ทางภาคอีสานจะเป็นเพียงเพิงหินทราย ไม่ว่าจะขนาดใหญ่หรือเล็กก็เรียกว่าถ้ำทั้งหมด แต่ถ้ำที่เราคิดและจินตนาการกัน จะต้องเป็นถ้ำในภูเขาหินปูน ที่มีหินงอกหินย้อย จึงจะครบตามนิยามที่เราเข้าใจกัน ซึ่งจริงๆ ไม่ใช่.. เพราะเพิงช่องว่างใต้ก้อนหินแกรนิต ที่ซ้อนค้างทับกัน แล้วมีพื้นที่ว่างด้านล่าง เราก็เรียกว่า “ถ้ำ” ได้เหมือนกัน และที่วัดเขาถ้ำ ในตัวเมืองตาก นี้ก็เช่นกัน

วัดเขาถ้ำ ในตัวเมืองตากนั้น แท้จริงไปง่ายมาก เพราะอยู่ในตัวเมือง ริมถนนหมายเลข 1 ขาล่อง เวลาลงมาจากเถิน ถึงตัวเมืองตาก เลยแยกที่จะไปสุโขทัย ก็เตรียมชิดซ้ายได้เลย จะเห็นซุ้มประตูทางเข้าวัด เข้าจากถนนใหญ่เข้าไปเกือบกิโล ก็ถึงวัดเขาถ้ำแล้ว

ถ้ำหินแกรนิตที่ตาก หน้าวัดเขาถ้ำ

วัดนี้ตั้งอยู่บนเนินเขาหินแกรนิต  มีป่าเต็งรังอยู่โดยรอบ ตรงกลางเนินจะเป็นกองหินแกรนิตน้อยใหญ่ กองทับ เทินกันอยู่ด้านบน  แล้วที่หินมันซ้อนทับกันนี่แหละที่ด้านใต้มันมีที่ว่าง เขาจึงเรียกว่าถ้ำ

ถ้ำหินแกรนิตที่ตาก ทางขึ้นเขาถ้ำ ไม่ชันมาก

อย่างที่เราเข้าใจกันแล้วว่า หินแกรนิต เป็นส่วนหนึ่งของหินอัคนี คือ หินหนืดจากใต้โลกที่ถูกความร้อนในโลกทำให้หลอมเหลว เรียกว่า "แมกมา" เมื่อแรงดันมีพลังเต็มที่ ก็ดันตัวหินหนืดออกมา ส่วนหนึ่งดันตัวหรือปะทุออกมาบนผิวโลกเรียกว่า "ลาวา" หินอัคนีพวกนี้เรียกหินอัคนีพุ พอออกมาบนพื้นผิวโลกก็กลายเป็นหินชนิดต่างๆ เช่น บะซอลต์ หินแกรนิต ฯลฯ

ถ้ำหินแกรนิตที่ตาก หินบนยอดเขา

ถ้ำหินแกรนิตที่ตาก ลักษณะของเพิงถ้ำหินแกรนิต

แต่มันจะมีหินอัคนีอีกแบบที่พอหนืดเต็มที่แล้วถูกแรงดันออกมา แต่ไม่ได้ออกมาสู่พื้นผิวโลก ดันไปแทรกอยู่ตามชั้นต่างๆ ของเปลือกโลกเสียก่อน   เราเรียกพวกนี้ว่าหินอัคนีแทรกซอน แต่หินก็ชนิดเดียวกัน ทีนี้ พวกที่ออกมาสู่พื้นผิวโลกแล้ว ต่อมาแผ่นเปลือกโลกก็ยังมีการเคลื่อนตัว เบียด ดัน กันจนบางส่วนโป่งขึ้นจนกลายเป็นภูเขา เนินเขา แล้วการดันกันไม่ได้เกิดครั้งเดียว ผลจากดันกันทำให้หินแกรนิตนั้นมีรอยแตกเป็นแนวต่างๆ ตามทิศทางการดัน  

ถ้ำหินแกรนิตที่ตาก บันไดเหล็กที่ได้รับการปรับปรุง ทำให้เดินเที่ยวชมได้สะดวกขึ้น

พอมีรอยแตก น้ำฝนก็ซึมเข้าไปตามร่องรอยแตก ทำให้หินเปราะ โดนน้ำ โดนแดด จนวันหนึ่งก็ร่อนแตกออกเรื่อยๆ จนมาถึงปัจจุบัน เราจึงเห็นเป็นกองหินแกรนิตที่ซ้อนทับกันอย่างที่ปรากฏ

ถ้ำหินแกรนิตที่ตาก เพิงใต้ภูเขา

กระบวนการเหล่านี้ ใช้เวลาเป็นแสน เป็นล้านๆ ปีกว่าจะมีรูปร่างให้เราเห็นอย่างในปัจจุบัน ซึ่งหลักการนี้  ก็เหตุผลเดียวกับกรณีหินตั้ง หินพัด พระธาตุอินแขวน พระบาทพลวง หินโหม่ง เพียงแต่หินเหล่านี้ แตกและร่อนออก แต่ยังมีสมดุลจึงยังคงตั้ง ไม่กลิ้งตกหล่นลงมา ในอนาคตย่อมมีการตกหล่น ล้มลงแน่ๆ แต่อีกเมื่อไหร่นี่ไม่รู้ได้  ที่วัดเขาถ้ำก็ด้วยเหตุผลแบบนี้

ในวัดแห่งนี้มีความสงบ ร่มรื่นด้วยร่มเงาของต้นไม้ในบริเวณ ภายในวัดจะเห็นเป็นบันไดปูนขึ้นไปยอดก้อนหิน โดยมีป้ายบอกว่าเมื่อขึ้นบันไดไป จะได้นมัสการพระธาตุ พระสังกัจจายน์ หอชมเมืองตาก ไปดูช้อนยักษ์  และทางไปกราบหลวงพ่อทันใจ

ถ้ำหินแกรนิตที่ตาก รูปแบบของถ้ำหินแกรนิต

บันไดทางขึ้นไม่กี่ขั้น ไม่ทันจะเหนื่อย จะมีลานบรรยาย มีป้ายอธิบายความทางวิชาการที่กล่าวถึงการเกิดขึ้นของเขาถ้ำ โดยกรมทรัพยากรธรณีมาให้ข้อมูลไว้ ก็อย่างที่ผมเขียนบอกนั่นแหละครับ ที่นี่เขาไม่ได้ให้ข้อมูลเชิงงมงาย พิสูจน์ไม่ได้ พญานาคมาออกไข่เป็นก้อนหิน อะไรแบบนี้ ไม่มี คนไปเที่ยวควรได้ข้อเท็จจริงทางวิทยาศาสตร์  ที่น่ามหัศจรรย์คือ บนเนินนี้มีต้นมะขาม ผมว่าอายุน่าจะเป็นร้อยปี บางต้นแอ่นโค้งไปตามก้อนหินด้วยซ้ำไป

ถ้ำหินแกรนิตที่ตาก ต้นมะขามโบราณที่ขึ้นบนเขาหินแกรนิต

บันไดปูนนำพาเราลอดเพิงหินขนาดใหญ่ที่เป็นถ้ำออกไปอีกด้าน แล้วจะมีบันไดเหล็กให้เราเดินตามขึ้นไป จะไปพบกับลานหิน ที่มีก้อนกินกลมคล้ายพระธาตุอินแขวน ตั้งเด่นบนยอดลาน มีพระสังกัจจายน์ อยู่ใกล้ๆ กัน

ส่วนบนยอดก้อนหินอีกก้อนจะมีพระธาตุตั้งบนยอด เหล่านี้คือเป็นไปตามป้ายที่บอกไว้ตอนจะขึ้นมาทั้งสิ้น  มาแล้วก็ไปกราบไหว้รำลึกถึงพระพุทธเจ้า เพื่อเป็นมงคลกับตัวก่อนได้

ถ้ำหินแกรนิตที่ตาก พระธาตุเจดีย์ และพระสังกัจจายน์ บนยอดก้อนหินใหญ่

ถ้ำหินแกรนิตที่ตาก เจดีย์พระธาตุแห่งวัดเขาถ้ำ

เดินออกไปด้านหลังหินพระธาตุนี้ จะมีทางเดินออกไปยังลานชมทิวทัศน์เมืองตาก ซึ่งมองไปเห็นตัวเมืองตากได้ จะเห็นว่าตากนั้นเป็นจังหวัดเล็กๆ บ้านเรือนดูจะน้อยกว่าป่าด้วยซ้ำไป มองไปไกลๆ โน่น.. ถ้าผมเดาไม่ผิดน่าจะเป็นดอยรวกที่จะขึ้นไปเมื่อจะไปแม่สอดนั่นเอง ยืนทะมึนเป็นฉากหลัง มาเห็นแบบนี้แล้ว ผมว่าเมืองตากเหมาะสำหรับการมาอยู่อาศัยหลังเกษียณจริงๆ ดูแล้วสงบเงียบ มีต้นไม้มากแม้กระทั่งในเมือง

ถ้ำหินแกรนิตที่ตาก ลานหอชมเมืองตาก

ถ้ำหินแกรนิตที่ตาก บรรยากาศของเมืองตากที่ดูสงบ เป็นธรรมชาติ

เดินลงมาตามบันได แล้วลอดเพิงถ้ำออกมาที่บันไดปูนอีกครั้ง จะเห็นป้ายชี้ไปชมช้อนยักษ์ เดินตามทางที่มีป้ายบอกไปไม่ถึง 50 เมตร จะเห็นเป็นช่องเล็กๆ ให้เรามุดเข้าไป พอมุดเข้าไปแล้วจะเป็นเพิงกว้าง ท่ามกลางหินแกรนิตก้อนใหญ่น้อยที่ซ้อนๆ ทับๆ กันจนเป็นถ้ำเล็กๆ จะมีหินแกรนิตที่แตก ร่อนหลุดลงมา โค้งแอ่นเล็กน้อย ดูคล้ายๆ "ช้อนหิน" ซึ่งหินแกรนิตที่เป็นก้อนแบบนี้ มันจะร่อนแตกออกมาเป็นกาบๆ ทรงโค้งๆ ตามต้นแบบ ที่ไหน ๆ ก็เหมือนกัน เพียงแต่ที่นี่ ดูเหมือนช้อนแค่นั้นเอง

ถ้ำหินแกรนิตที่ตาก ช้อนยักษ์ที่ว่าคือส่วนของก้อนหินแกรนิต ที่แตกออกมามีลักษณะโค้งแอ่น ตามก้อนหินที่

ออกจากถ้ำช้อนยักษ์ มีทางเดินลงไปยังพระเจ้าทันใจ ทางเดินมีพระพุทธรูปเรียงรายตามทาง ร่มรื่นด้วยต้นไม้ในบริเวณ องค์พระเจ้าทันใจนั้นเป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ ประดิษฐานในเพิงหินตื้นๆ ของก้อนหินแกรนิตขนาดใหญ่ ที่อยู่บนเนินเตี้ยๆ เท่านั้น

ถ้ำหินแกรนิตที่ตาก  บรรยากาศบริเวณวัด

ถ้ำหินแกรนิตที่ตาก หลวงพ่อทันใจ

สิ่งทั้งหลายที่รวมๆ กันอยู่ในพื้นที่วัดเขาถ้ำแห่งนี้ ทำให้เราทั้งเพลิดเพลินกับสถานที่ เต็มอิ่มกับความรู้ทางธรณี ซึมซับบรรยากาศของสถานที่ เหมือนได้มาเติมความรู้ มาเติมธรรมชาติที่ขาดหายเมื่ออยู่ในเมือง

วัดขาถ้ำแห่งเมืองตาก สถานที่เล็กๆ แต่มีอะไรให้ได้มากจริงๆ