เหรียญดิจิทัล ผลตอบแทนและความเสี่ยง

เหรียญดิจิทัล ผลตอบแทนและความเสี่ยง

สวัสดีครับท่านผู้อ่านทุกๆท่าน ก็ต้องยอมรับกันนะครับว่าในช่วงที่ผ่านมาคริปโตเคอเรนซี่หรือเหรียญดิจิทัลเป็นสินทรัพย์หนึ่งที่มีความร้อนแรงมากทั้งในแง่ของราคาที่มีการปรับตัวสูงขึ้น

อย่างรวดเร็วทั้งเหรียญหลักและเหรียญทางเลือก แตในแง่ของความผันผวนที่อยู่ในระดับที่สูงมากเช่นกัน และจากการสำรวจผู้มีความมั่งคั่งสูง(High Net Worth HNW) ในปี 2020 ของ World Wealth Report พบว่าHNW มีการลงทุนในเหรียญดิจิทัลรวมถึงสินทรัพย์ดิจิทัลรูปแบบอื่นกันแล้ว วันนี้ผมจะขอเขียนถึงเหรียญดิจิทัลในแง่ของผลตอบแทนและความเสี่ยงในเบื้องต้น เพื่อเป็นแนวทางในการพิจารณาหากจะนำเอาสินทรัพย์ใหม่นี้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของพอร์ตความมั่งคั่ง

เริ่มต้นที่บิทคอย(BTC) ซึ่งเป็นเหรียญที่มีมูลค่าตลาดสูงสุดในบรรดาเหรียญดิจิทัลที่ 643 พันล้าน ดอลลาร์ ( 25 กรกฎาคม 2521)  และยังมีปริมาณการซื้อขายสูงโดยเฉลี่ยถึงวันละ 20 พันล้านเหรียญ ถามว่ามูลค่าตลาด(วัดจากมาร์เกตแคป)สูงแค่ไหน เราลองมาเปรียบเทียบกับสินทรัพย์อื่นที่เราคุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว เช่น ETF SPY มีมูลค่าตลาดที่ 374 พันล้านเหรียญ แต่ถ้าเทียบกับมูลค่าตลาดหุ้นของ S&P500 ที่มีมูลค่าสูงถึง 31.6 ล้านล้านเหรียญ ก็ถือว่ายังเล็กกว่ามาก (ประมาณ 2%) ส่วนเหรียญอีเธอเรียมนั้นถือว่ามีมูลค่าตลาดใหญ่เป็นอันดับ 2 โดยมีมูลค่าตลาดเท่ากับ 253.45 พันล้าน ดอลล่าร์ สรอ หรือคิดเป็นเพียงแค่ไม่ถึง 40% ของบิทคอย และมีมูลค่าการซื้อขายน้อยกว่าบิทคอยอยู่ประมาณ 30%

ในแง่ของผลตอบแทนนั้นพบว่าราคาของเหรียญดิจิทัลมีการปรับตัวขึ้นอย่างมาก โดยเหรียญอีเธอเรียมให้ผลตอบแทนต่อปี(วัดจากผลตอบแทนเฉลี่ยสะสมต่อปี CAGRถึง 25 กรกฎาคม 2021)ที่ 201%และบิทคอย อยู่ที่ 102.18% ดังนั้นหากมองในมุมมองของผลตอบแทนแล้วต้องยอมรับว่าการลงทุนในเหรียญดิจิทัลนั้นให้ผลตอบแทนที่น่าดึงดูดให้นักลงทุนหรือคนอีกหลายคนต่างสนใจเข้ามาลงทุน ดังจะเห็นได้จากมูลค่าการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างก้าวกระโดด จากวันละเพียงยี่สิบกว่าล้านเหรียญขึ้นมาสูงสุดที่กว่า เจ็ดหมื่นล้านเหรียญ

แต่ในอีกมิติหนึ่งของการลงทุนก็คือด้านของความเสี่ยง (ในที่นี้จะพิจารณาเพียงแค่ด้านของความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาเพียงด้านเดียว) โดยพิจารณาจากค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานหรือ SD (โดยในที่นี้วัดจากค่าผลตอบแทนรายวันแล้วทำผลลัพธ์ให้เป็นปี) จะพบว่ามีความผันผวนของราคาวัดจากค่า SD ที่สูงมาก โดยเหรียญ อีเธอเรียมมีค่า SD ที่ 124% และบิทคอยมีค่า SD ที่ 75% ถามว่าค่า SD นี้สูงหรือไม่ ลองพิจารณาเปรียบเทียบกับสินทรัพย์เสี่ยงอื่นๆดูจะพบว่า ค่า SD ของดัชนีหลัก 2 ดัชนีคือ QQQ (Nasdaq 100) และ SPY (S&P500) มีค่าอยู่ที่ 25% และ 21% ตามลำดับ และเมื่อมาดูสินทรัพย์ที่เสี่ยงขึ้นมาอย่างเช่นกองทุนอาร์คที่ลงทุนในหุ้นกลุ่มนวตกรรม มีค่า SD อยู่ที่ 35% หรือถ้าเป็นหุ้นรายตัวที่ราคาค่อนข้างหวือหวาอย่างหุ้นเทสล่า มีค่า SD ที่ 63% ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูง แต่ก็ยังไม่เกินกว่า 100% ในขณะที่ค่าอัตราแลกเปลี่ยนงเงินยูโรกับดอลล่าร์สรอ นั้นมีค่า SD อยู่ที่เพียง 10% และทองคำมีค่า SD ที่ 17% ต่อปี ดังนั้นจะเห็นว่าความเสี่ยงที่วัดจากความผันผวนของราคาของเหรียญดิจิทัลนั้นจะอยู่ในระดับที่สูงมากกว่าสินทรัพย์เสี่ยงอื่นๆ

และเมื่อพิจารณาความเสี่ยงจากการปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงของราคาโดยวัดจากค่า maximum drawdown(MaxDD) พบว่าบิทคอยด์มีค่า MaxDD อยู่ที่ 83.4% หรือหมายความว่าหากพอร์ตเรามีมูลค่า  1 ล้านบาทมูลค่าของพอร์ตเราอาจจะลดลงเหลือแค่ 166,000 บาท ได้ ซึ่งหากมองด้วยตัวเลขนี้จะพบว่าการลงทุนในบิทคอยนั้นมีความเสี่ยงจากการปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงของราคาที่สูงมาก ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในปี 2018 และยังเกิดการปรับตัวลดลงที่รุนแรงกว่า 40% อีกในปี 2015 และ 2021 ในขณะที่อีเธอเรียมมีค่า maximum drawdown ที่ 93.9%

ดังนั้นคำแนะนำเบื้องต้นสำหรับการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลคือ หนึ่งจำกัดสัดส่วนการลงทุนเช่นไม่เกินร้อยละ 5 ของเงินลงทุน หรือถ้าปกติเราลงทุนในหุ้นและตราสารหนี้ในสัดส่วน 60/40 เราอาจแบ่งสัดส่วนการลงทุนตามน้ำหนักความเสี่ยงเป็นหุ้น 25 สินทรัพย์ดิจิทัล 5 และปรับตราสารหนี้ขึ้นเป็น 70 เพื่อให้ได้สัดส่วนความเสี่ยงเดิม  และข้อสองคือนำเครื่องมืออื่นมาใช้ในการซื้อขายเพื่อลดความเสี่ยงของการลงทุนลง โดยเครื่องมือนั้นอาจเป็นเครื่องมือทางเทคนิค เครื่องชี้วัดความผันผวนหรือระบบการลงทุนอื่น เป็นต้น

ท้ายสุดนี้ผมก็ขออวยพรให้ท่านผู้อ่านทุกๆท่านโชคดีและมีความสุขกับการลงทุนครับ